สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

ยึดโยงชาวบ้าน

 

เป็นเรื่องดีที่ นายกรัฐมนตรี พบกับ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย

และดียิ่งขึ้น ที่การพบปะดังกล่าว แต่ละฝ่ายยืนอยู่ในกรอบของตนเอง

โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง มิได้แสดงท่าทีรุกล้ำเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเป็นอิสระที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องมี

เพียงแต่ สะท้อนสิ่ง ที่ฝ่ายการเมืองซึ่งสัมผัสชาวบ้านมากกว่า ให้ ธปท.รับทราบ

และธปท.เองก็ควรทราบ และอาจจะเพิ่มการรับรู้ “ความรู้สึก”ของชาวบ้าน ให้มากยิ่งขึ้น

คำว่าอิสระไม่ควรหมายถึง การลอยเหนือ หรือไม่ยึดโยงกับชาวบ้าน เลย

อย่างกรณีที่ เรื่องกำไรของธนาคารพาณิชย์อันมหาศาล ที่ชาวบ้านได้รับรู้นั้น คำอธิบาย จากธปท. ที่มีต้นทุนทางสังคมสูง เป็นสิ่งจำเป็น

เพราะชาวบ้านเองรู้สึกและได้สัมผัสจริงถึงปัญหาจากธนาคารภายใต้การกำกับของธปท.

ทั้งภาวะดอกเบี้ยกู้แพง ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ

ทั้งการกู้เงินโดยเฉพาะการกู้ซื้อบ้านของคนมีรายได้น้อยถึงปานกลาง นับวันจะเป็นเรื่อง”เกินฝัน”

การถูกปฏิเสธจากธนาคารสูงมาก ด้วยข้ออ้างถึงการป้องกันความเสี่ยง

ชาวบ้านจึงอยู่ในภาวะไร้หวัง กับการกู้ในระบบ

จึงไม่แปลกใจ ที่ ยอดกำไรที่ธนาคารแต่ละแห่งโชว์ออกมา จะสร้าง”ปฏิกริยา”ไม่พึงใจให้กับชาวบ้าน

เป็นความไม่พึงใจ ที่อาจจะถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง

แต่ก็คงต้องการคำอธิบายเช่นกัน

และแน่นอน ฝ่ายการเมือง ย่อมรู้สมรู้สากับความรู้สึกของชาวบ้านนี้ จึงเป็นตัวแทนที่จะสะท้อนความรู้สึกนี้ให้ธปท.ทราบ

พร้อมๆกับคำวิพากษ์วิจารณ์ ที่อาจจะเลยเถิดไปถึงขั้น ที่ถูกมองว่า ฝ่ายการเมืองกำลังก้าวล่วงเข้าไปยังธปท. ถึงขนาดจะเปลี่ยนตัวผู้ว่าฯธปท.

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็ดูจะล้ำธงไปจริงๆ

แต่ นายกรัฐมนตรี ก็ได้วางบทบาทที่เหมาะสม

คือด้านหนึ่ง “รับรู้ และรับความรู้สึก”ของชาวบ้าน ด้วยการเชิญผู้ว่าฯธปท.มาหารือ เพื่อสะท้อนสิ่งที่ชาวบ้านอัดอั้น

ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ที่จะเข้าไปสั่งการหรือ ชี้นิ้วให้ต้องทำเช่นนั้น เช่นนี้ ปล่อยให้ธปท.แสดงบทบาทตามอำนาจ และหน้าที่

ซึ่ง สังคม และชาวบ้านก็คงรออยู่ว่า ธปท.จะทำ หรือ มีคำอธิบายให้เข้าใจอย่างไรบ้าง

การสื่อสารกับสังคมและชาวบ้าน จากองค์กร”อิสระ”ไม่ว่าธปท.หรืออื่นๆ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ชาวบ้าน หรือตัวแทนชาวบ้านต้องการ

อย่างกรณีที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2567 บางส่วน แสดงความไม่พอใจ ที่ธปท. ส่งเพียง”ตัวแทน”เข้าไปชี้แจงนั้น

จริงๆหาก ผู้ว่าธปท. และทีมงาน มองในอีกมุมหนึ่ง นั่นคือแทนที่จะมองว่า กำลังไปขึ้นเขียง หรือกำลังไปให้”นักการเมือง”ร้อยพ่อพันแม่ ซักไซร้ไล่เลียงอย่างไร้วุฒิภาวะ

เปลี่ยนมุมมองว่า กรรมาธิการฯงบประมาณ ที่สุดแล้วคือตัวแทนของชาวบ้านที่ควรให้ความสำคัญ ในการจะชี้แจง และให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลต่างๆ

บรรยากาศ หรือความรู้สึกที่มีต่อกัน อาจดีขึ้น

และบางทีอาจมีชุดอธิบายดีๆ อย่างกรณีกำไรธนาคารมหาศาล ขณะที่ชาวบ้าน”อดอยากปากแห้ง”ออกมาก็ได้

นี่จึงเป็นความคาดหวังอย่างพื้นๆ ที่อยากให้ ทุกฝ่าย ทุกองค์กร จะอิสระ หรือไม่อิสระ หากมีเป้าประสงค์ ที่จะยึดโยงกับชาวบ้าน เป็นหลัก

ความเข้าใจในสังคมก็คงดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน ก็ตาม

————-