รัตนา-จักราวุธ : ‘ดีลลับ!’ กับลูกพ่อ!

อภิญญา ตะวันออก

ถ้าสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ยังคงมีพระชนม์ชีพ จะคิดอย่างไรต่อสิ่งที่พระองค์เลือกและไม่เลือกไว้ต่อในอดีต ที่เกี่ยวกับโอรสและธิดาทั้ง 2 คนคือ ม.จ.นโรดม จักราวุธ และเจ้าหญิงนโรดม รัตนาเทวี ดังต่อไปนี้คือ ม.จ.นโรดม จักราวุธ ผู้ที่ปัจจุบัน คือหัวหน้าพรรคฟุนซินเปก (FUNCINPEC)

ชายจักราวุธนั้น แม้จะไม่มีต้นทุนการเมืองเลยก็ตาม แต่การเลือกตั้ง 2023 ที่ผ่านมา ฟุนซินเปกชนะเลือกตั้งเป็นอันดับที่ 2 แต่ได้มาเพียง 5 ที่นั่ง จึงแทบไม่มีผลอันใดทางการเมือง

ทั้งที่ก่อนจะได้มาซึ่งการถือครองพรรคที่ว่า จักราวุธและหม่อมแม่ ท่านหญิงนโรดมรณฤทธิ์ มารี ตลอดจนน้องสาว หญิงรัตนาเทวีนั้น แทบจะฝ่าฟันแย่งชิงมรดกครั้งยิ่งใหญ่เช่นกัน

เพราะฟุนซินเปกเป็นเสมือน “สมบัติแห่งราชนิกุลนโรดมสีหนุ” ที่บางฝ่ายยังหวงแหน แต่ในที่สุดก็ตกเป็นของทายาทนโรดมรณฤทธิ์ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้รักเส้นทางการเมืองนัก!

กระนั้น เมื่อเป็นมรดกตกทอดเสียแล้ว ก็จำเป็นจะต้องเล่นบทนั้น!

เจ้ารณฤทธิ์ และเจ้าหญิงมารี พระชายา (Photo by DAVID VAN DER VEEN / AFP)

กรมพระนโรดม รณฤทธิ์ นั้นตระหนักดีถึงเรื่องมาก่อนแล้ว สมัยที่ยังมีชีวิต มีหลายเรื่องมากที่จำต้องเก็บงำ เรื่องภายในระหว่างพี่น้องต่างหม่อมแม่ของตระกูล แบบเดียวกับที่จักราวุธประสบ ก่อนลงสมัครเลือกตั้ง

และเป็นเรื่องที่บ่งว่า ทำไมเขาจึงอยู่บนเส้นทางการเมืองอย่างโดดเดี่ยว?

ตรุงรณฤทธิ์เองสมัยบริหารฟุนซินเปกก็คงไม่นึกว่าพรรคของตนจะมาลงที่ลูก? ไม่งั้นเขาคงฝากฝังหลายอย่างให้จักราวุธ?

แต่นั่นแหละ ไม่มีใครสร้างอนาคตได้ แม้แต่หญิงรัตน์เสียอีกที่พ่อพอจะเห็นแวว อย่างน้อยระหว่างปี 1991-1997 เธอก็เห็นทุกข์สุขของบิดามาตลอด ต่างจากจักราวุธที่ปลีกตัวออกไป

หญิงรัตน์ลูกพ่อ! ใครๆ ก็พูดเช่นนั้น ไม่ว่าในยามทุกข์หรือสุข ยามมีอำนาจวาสนาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือถูกรัฐประหาร ยามลี้ภัยนอกประเทศ หรือแม้แต่ก่อนหน้านั้น ตอนที่เสด็จพ่อกับสมเด็จพระอัยกายังอยู่ตามชายแดน เธอก็เคียงข้างพระวรกายทั้ง 2 ตรุง

นั่นคือสิ่งที่หญิงรัตน์ทำให้พ่อมาตลอด

หากย้อนอดีตได้ ตรุงรณฤทธิ์คงจะฉุกคิดหลายอย่างที่ตรุงไม่ได้ทำตลอดเวลาการเป็นนักการเมือง โดยเฉพาะการใส่ใจทุกข์สุขของคนในครอบครัวและขุนพลคู่ใจ

บางทีอะไรๆ ที่ผ่านมาในนามของตรุงและฟุนซินเปก คงไม่เดินมาถึงวันนี้?

ม.จ.นโรดม จักราวุธ

มันคือเรื่องที่เล่าลือกันว่า นายกฯ ฮุน เซน เวลานั้น ตั้งใจจะใช้สายสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฮุน กับนโรดม รณฤทธิ์ ว่ากันว่า เป็น “ดีล” ลับ! กระชับครอบครัว!

นั่นคือการ “ดอง” กันระหว่างเครือญาติ และในที่นี้ ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้ว ระหว่างหญิงรัตน์ กับ ฮุน มาแนต ทว่า มีอันจบลงด้วยเสียงปืนที่ยิงเข้าไปในตำหนักรณฤทธิ์ที่กรุงพนมเปญ โดยกองกำลังเขมรภูมินทร์ฝ่ายซีพีพี ก่อนวันรัฐประหาร (5-7 กรกฎาคม 1997)

นับแต่นั้นมา ความคิดที่จะสร้างเครือข่ายการเมืองกับฝ่ายเจ้าโดยไอเดียพ่อที่อยากให้ฮุน มาแนต เป็นว่าที่ “เจ้าชาย” เขมร หรือ “ปรินซ์ชาร์มมิ่งแห่งแคมโบเดีย”

พลัน สิ้นสุดลง! เมื่อการเมืองถึงทางตันและไม่อาจปรองดองได้

การเมืองคือทั้งหมด ที่ทำให้ผู้นำตระกูลทั้งสองกลายเป็นอริซึ่งกันกว่าสิบปี โดยที่เด็กๆ นั้นไม่รับรู้เรื่องราว “จับคู่” เหล่านี้ นอกจากฝ่ายสื่อของพรรคซีพีพีตอนนั้น

แม้เวลาผันผ่าน และทายาททั้งสองฝ่ายต่างมีชีวิตของตนในต่างแดน ต่อจนเมื่อกรมพระฯ กับสมเด็จกลับมาปรองดองกัน โดยเฉพาะในยามที่ฝ่ายเจ้า ตกระกำลำบาก และสมเด็จฮุน เซน ก็ช่วยไว้ เหมือนเป็นการไถ่โทษที่ตนเองก็ทำอะไรๆ ไว้ไม่น้อย

นั่นเองที่สุดท้าย ฮุน เซน ก็กลับมาให้การโอบอุ้มฟุนซินเปก เพราะถ้าเตโชเสนไม่สั่งลงมาให้ กกต.กัมพูชาไฟเขียว 5 ที่นั่ง ส.ส.ฟุนซินเปก มีหรือจักราวุธจะได้เข้าสภา?

ท่านชายนโรดม จักราวุธ เองนั้น แม้จะเป็นผู้นำ (ไม่เต็มปากนัก) พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งแทบจะไม่ได้รับความสนใจจากผู้คน ทว่า ในความเป็นโอรสนโรดม รณฤทธิ์ เป็นองค์มจะ (เจ้าชาย) ก็ยังพอได้รับความสนใจจากสังคม

แต่นั่นก็ไม่เท่ากับสมเด็จพ่อลูก โดยเฉพาะฮุน มาแนต ที่แสดงออกถึงความสนิทสนมและถ้อยทีถอยอาศัย ราวกับความบาดหมางอันขันขื่นในรุ่นพ่อๆ ได้ถึงกาลสิ้นสุดแล้ว?

และลางที เป็นไปได้ว่า ฟุนซินเปกโดยจักราวุธรอบนี้ เห็นทีจะมี ส.ว.ติดไม้ติดมือในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ที่กำลังจะมาถึง!

หม่อมเจ้าหญิงนโรดม รัตนาเทวี

หม่อมเจ้าหญิงนโรดม รัตนาเทวี นั้นก็เคยมีตำแหน่งเป็น ส.ว.ครั้งสองครั้ง ซึ่งก็นานมากแล้วที่จังหวัดกระแจะ และได้ช่วยงามสมเด็จป้า-นโรดม บุบผาเทวี ซึ่งเป็น รมต.ที่กระทรวงวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง

หญิงรัตน์เคยเล่นการเมืองเหมือนผิวเผิน แต่ก็ยังเป็นรุ่นพี่ฮุน มาแนต แต่เป็นสมัยที่พ่อนายกฯ มาแนตยังใช้ยาแรงปราบฝ่ายตรงข้ามรวมทั้งพ่อและหม่อมแม่ของเธอซึ่งตกเป็นเป้าในเกมเหล่านั้น!

หญิงรัตน์นั้นจะลืมได้ยังไง ในวันที่สมเด็จฮุน เซน ชายที่ครั้งหนึ่งเคยปรารถนาจะเป็น “ออปุ๊กเขมฆ” (พ่อสามี) ในอนาคตของเธอ แต่เขากลับยุยงกึ่งดีลการเมือง ซึ่งนั่นก็ทำให้หม่อมแม่ของเธอซึ่งอยู่ในระยะเจ็บช้ำน้ำใจในการกระทำของพ่อที่แอบไปเล่นชู้กับนางรำจนเกิดทายาทขึ้นมาและเลยเถิดทำให้ท่านพ่อกับหม่อมแม่ต้องหย่ากัน

สมเด็จฮุน เซน รู้เห็นเป็นใจหรืออยู่เบื้องหลังที่หม่อมแม่ของหญิงรัตน์ฟ้องหย่าประจานสวามี ซึ่งท่านหญิงมารีก็โกรธมาก เชื่อคำยุยงจนฟ้องร้องครั้งนั้น

ผลก็เลย “บ้านพัง” เสียยิ่งกว่าครั้งรัฐประหาร นั่นคือ ไม่มีใครเหลือรอด!

พ่อของเธอถูกกฎหมายการเมืองนอกใจภรรยาเล่นงานจนต้องหลุดตำแหน่งทั้งหมด และไปตั้งรกรากที่มาเลเซีย ไทย และฝรั่งเศส แม้เมื่อกลับมากัมพูชาแล้ว ก็ยังใช้เวลาหลายปีที่เสียมเรียบ กว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมอีกครา หม่อมพอลลา (Ouk Phalla) ชายาคนที่ 2 ของพ่อก็มีอันจากไป…

หญิงรัตน์นั้นรู้ดีถึงพิษภัยการเมืองเกินที่เธอจะรับไหว แต่นั่นเพื่อพี่ชายของตน ลางทีเธออาจต้องลงเป็นแคนดิเดต ส.ว.ในการเลือกตั้งพฤติสภาเขมรที่กำลังจะมาถึง…

ฤๅพวกเขาพร้อมแล้ว สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง “ฮุน-รณฤทธิ์” ในรุ่นที่ 2 โดยเฉพาะท่านชายจักราวุธ ที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนเลิฟกับฮุน มาแนต มากกว่าสมัยบิดาที่เป็นศัตรูกับพ่อของเขา?

จริงๆ แล้ว จักราวุธน่าจะเป็นคู่แข่งฮุน มาแนต ด้วยซ้ำ ในฐานะนักการเมืองหนุ่มหล่อ แถมมีดีกรีเป็นเชื้อเจ้า มีศักดิ์สกุล แต่จักราวุธกลับเรียบง่าย จนเป็นที่ยอมรับ แม้แต่สมเด็จฮุน เซน ก็ยังให้ความเอ็นดู!

มีแต่สื่อเขมรเท่านั้น ที่พยายามจะอวยฮุน มาแนต ให้เป็น “เจ้าชาย” (Prince) ในภาษาข่าวคราวใดที่จักราวุธยืนขนาบผู้นำสมเด็จคนใหม่ และยัดเยียดให้จักราวุธเป็นเจ้าชายตัวปลอม! ไปนั่น!

ชีวิตส่วนตัวที่ค่อนข้างเก็บงำ รัตนาเทวีสมรสชาวฝรั่งเศสและลูกๆ อีกมิตรสหายในแวดวงศิลปะ การละครสมัยใหม่ในหมู่นักนิยมศิลป์ของปารีส ไม่เท่านั้น เธอยังเป็นทูตวัฒนธรรมด้านศิลปกรรมยุคโคโลเนียลแห่งเมืองกระแจกกัมพูชา จังหวัดที่ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นผู้แทนราษฎร

เจ้าหญิงนโรดม รัตนาเทวี นั้น ดูจะไม่ได้อาเลาะอาลัยกับฐานันดรศักดิ์นโรดมของเธอมากนัก เห็นจากที่เธอใช้ชีวิตธรรมดาแบบชนชั้นกลางฝรั่งเศส ต่างจากลูกพี่ลูกน้องนโรดมบางคนที่แต่งงานกับสามีต่างชาติ แต่ก็ยังไม่วายใช้ฐานันดร “นโรดม” สำหรับลูกๆ ยกระดับฐานะทางสังคม

แต่นั่นล่ะ แล้วชีวิตเก่าๆ ก็วนกลับมา สำหรับรัตนาเทวี สำหรับฟุนซินเปกที่เธอเคยนั่งแท่นเป็นหัวหน้าพรรคอยู่หลายวาระ กระทั่งจักราวุธพี่ชายมารับไม้ต่อ

ความสนิทชิดเชื้อต่อนายกสมเด็จ นับเป็นสัญญาณที่ดี ที่เส้นทางการเมืองของของจักราวุธและรัตนาเทวี ที่ไม่ตามรอยบิดา

และนั่นคือ สิ่งที่สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ อยากฝากฝังให้ทั้งสอง