‘บิ๊กป้อม’ วางคิวเดินสาย นัยยะคัมแบ๊กการเมือง?

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทีมลงสนามแข่งขันโดยพี่ใหญ่แห่ง “บูรพาพยัคฆ์” บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คุมทัพในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พปชร. แต่กลับต้องพ่ายศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ไป โดยคว้า ส.ส.จากระบบบัญชีรายชื่อได้เพียงหนึ่งเก้าอี้ และ ส.ส.แบ่งเขต 39 รวม 40 ที่นั่งเท่านั้น

แม้ว่าการปรับทัพใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” ยังคงกลับมานั่งทำหน้าที่กุมบังเหียนเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิมตามเสียงเรียกร้องของลูกพรรคเช่นเดิม

แต่ทว่าการดึง ‘บิ๊กป๊อด’ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย มาดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา คัมแบ๊กนั่งเลขาธิการพรรคแทนนายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่ขยับไปทำหน้าที่รองหน้าพรรคแทน เป็นการส่งสัญญาณใดหรือไม่

ประกอบกับช่วงการจัดตั้งรัฐบาล เกิดกระแสข่าวลือหนาหูขึ้นมาตลอดว่า “บิ๊กป้อม” เตรียมสละทิ้งเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดทางเลื่อนลำดับบัญชีให้ลูกพรรคที่ถนัดงานฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามาทำหน้าที่แทน รวมทั้งเตรียมถอยหลบเข้าหลังฉาก ส่งไม้ต่อวางตัวให้น้องชาย ‘บิ๊กป๊อด’ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ปัจจุบันทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้ามาลุยงานเบื้องหน้านำพรรคพลังประชารัฐแบบเต็มตัว

แต่กระแสข่าวลือเรื่องวางมือทางการเมืองต้องดับมอดลงเมื่อเวลานี้ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้ไปไหน ยังคงอยู่เป็นขวัญและกำลังใจให้กับลูกพรรค เพื่อลุยทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน สานต่อนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ โดยขับเคลื่อนผ่านกระทรวงต่างๆ ต่อไป

โดยเฉพาะกระทรวงที่พรรคพลังประชารัฐได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรี คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการผลักดันนโยบายตามที่พรรค พปชร.ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชนในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

 

ประกอบช่วงสิ้นปี 2566 ก่อนเข้าปีใหม่ 2567 แม้ “บิ๊กป้อม” จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองในรัฐบาล แต่บารมีก็ไม่ได้ลดน้อยหรือแผ่วลงเลย เห็นได้ชัดจากภาพบรรยากาศความคึกคัก เมื่อ “บิ๊กป้อม” เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด รับอวยพรเนื่องในวันปีใหม่ ทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น้องรองของกลุ่มพี่น้อง 3 ป. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ตบเท้าเข้ามาอวยพรคับคั่ง

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 6 หรือรุ่นฝนแรก รวมทั้งคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ มาอวยพรด้วยเช่นกัน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ได้ส่งแจกันดอกไม้มาอวยพร สวัสดีปีใหม่ เนื่องจากติดภารกิจ ไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเอง

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ “บิ๊กป้อม” นำทีมแกนนำ ส.ส. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยกทัพไปสัญจรยังเมืองมะขามหวาน จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นคิวแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำและสยบข่าวลือโดยเฉพาะข่าวการทิ้งพรรคไปได้เลย

แน่นอนว่า การออกมาเคลื่อนไหวของ “บิ๊กป้อม” หลังจากเงียบหายไปเนิ่นนาน ถูกจับตามองว่าจะมีสัญญาณการเมือง รวมทั้งมีโอกาสคัมแบ๊กกลับเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่า การปรากฏตัวของ “บิ๊กป้อม” ในครั้งนี้ พบว่า มีหน้าตาสดใส ยิ้มแย้มหยอกล้อทักทายสื่ออย่างเป็นกันเอง และยอมรับตอนนี้ผอมลง 14 กิโลกรัม มีเคล็ดลับคือ การอดข้าวเช้า-เย็น พร้อมกับออกกำลังกายนิดหน่อย

โดย “บิ๊กป้อม” ยังออกตัวชี้แจงว่าการเดินทางมาสัญจรของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่านโยบาย ทั้งเรื่องการจัดการที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ราคาพืชผลทางการเกษตร ได้เดินหน้าแก้ไขให้ประชาชน และยังมีเรื่องการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.เป็นโฉนด เราทำแล้ว และได้มอบหมาย ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การแก้ไขประมงผิดกฎหมายก็สามารถยกระดับได้ ผมทำมาทั้งนั้นแหละ 7-8 ปีที่ผ่านมา จึงมาแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่า ผมและพรรคได้ทำอะไรไปบ้าง ไม่เว้นแม้แต่โครงการคนละครึ่งก็เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ เรื่องสวัสดิการแห่งรัฐก็เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ และหลังจากนี้ก็จะเดินทางไปอีกหลายจังหวัดเท่าที่พรรคมี ส.ส. เพื่อให้ประชาชนรับทราบ และจังหวัดที่พรรคไม่มี ส.ส. ก็อยากจะเดินทางไปด้วย

ส่วนเรื่องการคัมแบ๊กการเมืองหรือไม่ “บิ๊กป้อม” ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่ได้คัมแบ๊ก เพราะไม่ได้ไปไหนเลย ส่วนที่หายเงียบไปนาน ก็เพราะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นรองนายกฯ ก็เลยไม่ได้ดำเนินการ แต่ยังอยู่ในพรรคอยู่แล้วก็ทำงานให้พรรค อยู่เบื้องหลัง และยังเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพียงแต่ยังไม่ไปประชุมสภา เนื่องจากเดินไม่สะดวกเพราะเจ็บขาเพิ่งหายมา

 

สำหรับกระแสข่าวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “บิ๊กป้อม” มองว่าไปตามกระแส จะไปรู้ได้อย่างไร เพราะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว พร้อมกับตอกย้ำความสัมพันธ์ภายในพรรคพลังประชารัฐว่ายังเหนียวแน่น รักและสามัคคีกัน ไม่มีรอยร้าวเกิดขึ้นภายในพรรคแน่นอน

สอดคล้องกับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค ออกมาการันตีและสยบข่าวลือว่าเตรียมทิ้งพลังประชารัฐ แล้วย้ายหนีไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น และในฐานะที่ดูแล ส.ส.ก็ยืนยันด้วยว่าไม่มี ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายไปพรรคการเมืองอื่นเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การหายหน้าหายตาของ” บิ๊กป้อม” ที่ไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่อเท่าไรนักภายหลังเลือกตั้ง แต่แค่เริ่มต้นปี 2567 กลับมาเป็น “ลุงป้อม” นิวลุค ด้วยน้ำหนักที่ฟิตลดลงไป 14 กิโลกรัม พร้อมกับกระแสตอบรับและเสียงเชียร์ให้กำลังใจจากพี่น้องชาวเพชรบูรณ์ น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เรตติ้งของ “ลุงป้อม” ไม่มีลดลง

ด้วยเหตุนี้ จึงมีแพลนนำทัพพรรคพลังประชารัฐเดินสายจัดกิจกรรมสัญจร พบปะพี่น้องประชาชนตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อชี้แจง และนำนโยบายไปเผยแพร่ต่อประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับรับฟังปัญหา นำมาสะท้อนในพรรค เพื่อวางเป็นนโยบายการขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน โดยคิวต่อไป คาดว่าจะดำเนินการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ จ.หนองคาย

ฉะนั้น หลังจากนี้ คงต้องจับตาดูว่า หากอนาคตรัฐบาลมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะปรากฏชื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รีเทิร์นกลับไปนั่งเก้าอี้ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ หรือบารมีของ “บิ๊กป้อม” จะช่วยรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีโควต้าพรรคพลังประชารัฐ ไว้ได้หรือไม่ คงต้องรอดูกัน