วิกฤตความเชื่อมั่นอีกครั้งของ ‘โบอิ้ง 737 แม็กซ์’

(Photo by Handout / NTSB / AFP)

กลายเป็นภาพที่สร้างความสะพรึงสำหรับบรรดานักเดินทาง สำหรับข่าวที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ของสายการบิน อลาสกา แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 1282 เกิดเหตุลำตัวของเครื่องหลุดไปทั้งชิ้น ขณะบินอยู่เหนือท้องฟ้า ที่ระดับความสูง 16,000 ฟุต หลังทะยานขึ้นจากสนามบินนานาชาติพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ได้ไม่นาน และมีภาพเผยแพร่ไปทั่วบนโลกออนไลน์ ทำให้นักบินต้องรีบนำเครื่องบินกลับไปยังสนามบินนานาชาติพอร์ตแลนด์อีกครั้ง โดยที่ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 177 คน ปลอดภัยดี

ภาพที่ปรากฏบนโลกออนไลน์ สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่ได้พบเห็น เพราะผนังด้านหนึ่งของเครื่องบินหายไปทั้งบาน ขณะที่ผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินบอกว่า เกิดเสียงเหมือนระเบิดดังขึ้น ก่อนจะพบว่าผนังลำตัวเครื่องบินหลุดหายไป และหน้ากากออกซิเจนได้ร่วงหล่นลงมาจากเพดานเครื่องบิน

สร้างความหวาดกลัวให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินอย่างมาก

 

หลังจากนั้น รัฐอลาสกาได้สั่งระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 จำนวน 65 ลำในทันที และจะกลับมาให้บริการอีกครั้งหลังตรวจสอบความปลอดภัยเสร็จแล้ว

และยังมีรายงานด้วยว่า มีนักบินจำนวนหนึ่งที่รายงานว่า เคยเจอว่าเครื่องบินลำที่เกิดเหตุนี้แสดงสัญญาณไฟเตือนเกี่ยวกับระบบการปรับความดันบรรยากาศใน 3 เที่ยวบินมาแล้ว

ด้านองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ได้ออกแถลงการณ์ สั่งระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 จำนวน 171 ลำ จนกว่าจะมั่นใจว่าเครื่องบินรุ่นนี้ปลอดภัย

การระงับใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารนับหมื่นคน ที่ต้องถูกยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากการระงับใช้เครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ที่ใช้งานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และอลาสกา แอร์ไลน์

ขณะที่ซากชิ้นส่วนที่หลุดออกจากเครื่องบินนั้น ถูกพบตกอยู่ที่สวนหลังบ้านของครูคนหนึ่ง ที่เมืองพอร์ตแลนด์นั่นเอง

 

ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ถูกขนานนามว่าเป็น “เครื่องบินขนส่งที่ถูกตรวจสอบมากที่สุดในประวัติศาสตร์” เนื่องจากเคยเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยหลายต่อหลายครั้ง

โดยเมื่อตอนเดือนมีนาคม 2019 โบอิ้ง 737 แม็กซ์ เคยถูกสั่งระงับการบินนานถึง 1 ปีครึ่ง หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นต่อเนื่อง 2 ครั้ง คือเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ของสายการบินไลอ้อนแอร์ ที่ตกลงทะเล หลังจากทะยานขึ้นจากสนามบินในกรุงจาการ์ตาได้ไม่นาน เมื่อเดือนตุลาคม 2018

และอีกเหตุการณ์ คือเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ ประสบเหตุตก เมื่อเดือนมีนาคม 2019 ที่ส่งผลให้โบอิ้งต้องประกาศระงับการใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ทั่วโลก เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องบินรุ่นดังกล่าว

และเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เอฟเอเอเพิ่งจะออกประกาศขอให้สายการบินต่างๆ ตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ เนื่องจากสลักของระบบควบคุมหางเสือของเครื่องบินอาจจะหลวม

โดยหลังเกิดเหตุชิ้นส่วนเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 หลุดกลางอากาศล่าสุด สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ได้ตรวจสอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าว และพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการติดตั้งสลักประตู ที่จำเป็นต้องขันให้แน่นขึ้น เพื่อความปลอดภัยระหว่างการบิน

อย่างไรก็ตาม เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ถือเป็นเครื่องบินค่อนข้างใหม่ในรุ่นโบอิ้ง 737 แม็กซ์ เพราะผลิตในปี 2023 และได้รับการรับรองให้บินในเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา

ต่อจากนี้ ก็คงเป็นเรื่องของการตรวจสอบว่า เหตุที่เกิดขึ้นมาจากอะไร และต้องแก้ไขอย่างไร เพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ จะปลอดภัยสำหรับการนำมาใช้เพื่อโดยสาร