ตรวจแถวรถยนต์ไฟฟ้าเด่น ‘2024’ ‘BYD Seagull’ – ‘ไอออน V Plus’

สันติ จิรพรพนิต

ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้ว ซึ่งสรุปความเคลื่อนไหวของรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2566

เพื่อไม่ให้ขาดช่วง ผมจึงรวบรวมรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เข้ามาทำตลาดเมืองไทยในปี 2567 หรือ ค.ศ.2024

โดยรถที่จะนำมาเอ่ยถึงเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยคัดเฉพาะรุ่นเด่นๆ ที่คาดว่าจะมาเขย่าตลาดเมืองไทย

เพราะมีอีกมากที่ทยอยตามเข้ามา

จนทำให้กูรู และบรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอาจแตะระดับ 1 แสนคัน

จากปี 2566 ที่จบไป 7-8 หมื่นคัน

เริ่มกันที่แบนด์น้องใหม่ “จีเอซี ไอออน” (GAC AION) ที่เบิกโรงเมืองไทยด้วยรุ่น “ไอออน Y Plus” ซึ่งมีเสียงตอบรับน่าพอใจมากๆ

เพราะกวาดยอดจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป คาร์โชว์แรกที่เข้ามาร่วม โดยติดอันดับท็อป 4 ด้วย

ส่วนหนึ่งไม่พ้นรูปร่างหน้าตา และประโยชน์ใช้สอย เพราะมิติตัวถังใหญ่เบิ้ม

แถมเบาะสามารถปรับเอนราบเปลี่ยนเป็นที่นอนได้

ปีนี้จัดไปอีกอย่างน้อย 2 รุ่น คือ “ไอออน V Plus” และ “Hyper HT”

โดยตัว “Hyper HT” ถือเป็นแบรนด์รถตัวแรงของ “GAC”

ทั้ง 2 รุ่นนี้ผมเคยเห็นตัวเป็นๆ มาแล้วที่กว่างโจว เมื่อครั้งได้รับเชิญไปชมโรงงานของ GAC

“ไอออน V Plus” ผมสะดุดตาตั้งแต่แรก เป็นเอสยูวี อีกรุ่นที่น่าสนใจ แถมเทคโนโลยีเด่นๆ มีอยู่เพียบ

โดยตอนไปกว่างโจว ทีมงานโชว์เทคโนโลยีช่วยจอดอัจฉริยะของ “ไอออน V Plus” บอกเลยว่าน่าทึ่งมาก

เพราะรถสามารถขับไปวนหาที่จอดได้เอง และยังออกจากที่จอดมาหาเจ้าของรถได้เองอีกด้วย

ส่วน “Hyper HT” นอกจากจุดเด่นเรื่องประตูผู้โดยสารตอนหลังเปิดแบบปีกนกแล้ว อัตราเร่งที่ผมเคยทดลองนั่งบอกเลยโหดมาก

ทั้ง 2 รุ่นน่าจะมาต่อยอดความสำเร็จของ “ไอออน V Plus” ได้ไม่ยาก

ส่วนเจ้าตลาดรถไฟฟ้าไทยอย่าง “บีวายดี” (BYD) แว่วว่าอาจส่ง 2 รุ่นหลักมาทำตลาดเพิ่ม

ทั้งเก๋งเล็ก “BYD Seagull” อีวี ซิตี้คาร์ ที่อาละวาดกวาดยอดขายในจีนแบบถล่มทลาย

กลายเป็นรุ่นที่ขายดีสุดของค่ายไปเลย

ส่วนอีกรุ่นเป็นเก๋งใหญ่ “BYD Han EV series” พรีเมียมซีดานอีวี ที่เปิดตัวในจีนและอเมริกาไปแล้ว เสียงตอบรับตอบรับดีทีเดียว ก็อาจเข้ามาชิมลางด้วยเช่นกัน

“BYD Seagull” ถือเป็นรถธงที่เข้ามาเติมเต็มเซ็กเมนต์ของบีวายดีในเมืองไทย ให้ครอบคลุมมากขึ้น

เพิ่งเปิดตัวที่จีนในงาน “เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023” ที่ผ่านมานี่เอง

อยู่ในเซ็กเมนต์เล็กสุด ขนาดตัวถังเล็กกว่า “บีวายดี ดอลฟิน” เล็กน้อย

ภายนอกเน้นความโฉบเฉี่ยว ท้ายตัดสั้นแบบแฮทช์แบ็ก

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,715 x 3,780 x 1,514 ม.ม. ความยาวฐานล้อ 2,500 ม.ม.

ภายในเน้นความเรียบง่าย หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.1 นิ้ว ที่สามารถปรับแนวตั้งหรือแนวนอนได้

เบาะแถวหลังพับราบเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้

สเป๊กจีนมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 55 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 74 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร

แบตเตอรี่มีความจุให้เลือก 2 ขนาด 30.08 kWh วิ่งไกลสุด 305 กิโลเมตร

และขนาด 38.88 kWh วิ่งไกลสุด 405 กิโลเมตร

ราคาที่จีนเริ่มต้นประมาณ 4 แสนบาท ถ้ามาเมืองไทยราคาน่าจะขยับอีกนิดหน่อย

ดูแล้วมาซัดกับ “เนต้า วี” แบบเต็มๆ

ค่าย “เนต้า” ที่กำลังเพลินกับการขาย “เนต้า V” เก๋งเล็ก EV ราคาประหยัด ที่ทำให้คนเมืองจับจองกันหนาแน่น

ส่งรุ่นใหม่ “เนต้า V II” เข้ามาต่อยอด โดยเป็นรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย

ปรับแต่งหน้าตา และช่วงล่าง ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าเมืองไทยมากขึ้น

อีกรุ่นเป็น “เนต้า X” ครอสโอเวอร์กลุ่มซี-เซ็กเมนต์

เอาเข้ามาซัดกับ “BYD ATTO 3” แบบเต็มๆ

เรียกว่าเมื่อบีวายดี ส่งรุ่นเล็กมาชนกับ “เนต้า V”

“เนต้า X” ในฐานะรุ่นใหญ่กว่าก็ขอดวลกับ “ATTO 3” เสียเลย

รุ่นที่ขายในจีน ดีไซน์ภายนอกเน้นความโฉบเฉี่ยว

ที่แปลกตาคือไฟหรี่ทรงเรียวยาวตั้งอยู่บริเวณด้านบน ส่วนไฟหน้าอยู่ต่ำลงมา

ขณะที่ภายในดูเรียบหรู มีให้เลือกทั้งสีดำ และสีส้ม

พวงมาลัยทรงรีๆ น้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 8.9 นิ้ว

หน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว ที่ใช้ควบคุมการทำงานทุกอย่างของตัวรถ

ขุมพลังมอเตอร์ 120 kW กำลังสูงสุด 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร

แบตเตอรี่ความจุ 68 kWh ระยะวิ่งไกลสุด 501 กิโลเมตร

ปิดท้ายด้วยน้องใหม่อีกค่าย “เฌอรี่” (CHERY)

ส่งแบรนด์ในเครือ “โอโมด้า” (OMODA) และ “เจโก้” (JAECOO) เข้ามาทำตลาด

รุ่นเด่นที่น่าจะมาแต่ต้นปีคือ “OMODA 5 EV” เอสยูวีคูเป้

เปิดตัวในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023 มีแผนจำหน่ายในไทยและยุโรปในเวลาไล่เลี่ยกัน

ด้านหน้ากระจังแบบปิด ตรงกลางเป็นตัวอักษรชื่อยี่ห้อเห็นเด่นชัด

ขนาบด้วยไฟเดย์ไทม์เรียวเล็ก ต่ำลงมาเป็นไฟหน้า

ชายล่างแต่งด้วยสีดำ เชื่อมต่อกับเส้นสายด้านล่างของประตู

หลังคาด้านท้ายลาดลงเล็กน้อยสไตล์เอสยูวีคูเป้

ภายในตกแต่งหรูหรา พวงมาลัยท้ายตัด

เด่นด้วยหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วเชื่อมต่อกัน เป็นทั้งเรือนไมล์และหน้าจอกลางควบคุมระบบต่างๆ ได้อารมณ์รถยุโรป

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมกรองฝุ่น PM 2.5

มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร

แบตเตอรี่ความจุ 61 kWh พิสัยทำการไกลสุด 450 กิโลเมตร

ดูทรงแล้วราคาน่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับคู่แข่งโดยตรงทั้ง “BYD ATTO 3” และ “เนต้า X”

เห็นรถเด่นๆ แต่ละรุ่นของปี 2024 แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดบรรดากูรูจึงเชื่อว่าจะเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายทะลุ 1 แสนคัน •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]