การเมือง ‘น้ำนิ่งไหลลึก’

เมนูข้อมูล | นายดาต้า

 

การเมือง ‘น้ำนิ่งไหลลึก’

 

ช่วงส่งท้ายปีเก่า 2566 เข้าสู่ปีใหม่ 2567 มีปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจจับตาไม่น้อย

เรื่องแรก “ทีมประกันสังคมก้าวหน้า” ที่อยู่ในเครือข่าย “คณะก้าวหน้า” ที่ขับเคลื่อนโดยทีมงานที่แยกตัวมาจากพรรคก้าวไกล กวาดเก้าอี้ได้เกือบทั้งหมดคือ 6 ใน 7 คน และเป็นเช่นนั้นเพราะผู้สมัครในทีมถูกตัดสิทธิเพราะขาดคุณสมบัติไป 1 คน

ที่น่าตื่นใจคือชัยชนะที่เรียกว่า “ขาดลอย” เพราะเมื่อเทียบคะแนนทั้ง 6 คนของ “ทีมก้าวหน้า” ที่ได้ 6 หมื่นกว่าถึง 7 หมื่นกว่าคะแนน กับคนที่ 7 ซึ่งมาจากที่อื่น ที่ได้แค่หมื่นกว่าคะแนน

ย่อมถือว่าทิ้งไม่เห็นฝุ่น

 

เรื่องที่สองผลสำรวจของ “นิด้าโพล” เรื่อง “คะแนนนิยมทาวการเมืองรายไตรมาส ปี 2566” อันถือเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี

ในคำถาม “จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้”

คำตอบอันดับ 1 ร้อยละ 39.40 ยังเป็น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จากพรคคก้าวไกล

สำหรับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน “เศรษฐา ทวีสิน” พรรคเพื่อไทยตามมาอันดับ 2 ที่แค่ร้อยละ 22.35

รองลงไปร้อยละ 18.60 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

ร้อยละ 5.75 “แพทองธาร ชินวัตร” พรรคเพื่อไทย

ร้อยละ 2.40 “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” พรรครวมไทยสร้างชาติ

ร้อยละ 1.70 “อนุทิน ชาญวีรกุล” พรรคภูมิใจไทย, ร้อยละ 1.65 “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” พรรครวมไทยสร้างชาติ, ร้อยละ 4.25 ไม่ตอบ, ที่เหลือร้อยละ 3.90 เป็นคนอื่นๆ รวมกัน

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่จะให้การสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 44.05 ตอบว่าพรรคก้าวไกล

รองลงไปร้อยละ 24.05 เท่านั้นที่เป็นพรรคเพื่อไทย

ร้อยละ 16.10 ยังหาพรรคที่เหมาะสมไม่ได้, ร้อยละ 3.20 พรรคประชาธิปัตย์, ร้อยละ 3.20 พรรครวมไทยสร้างชาติ, ร้อยละ 1.75 พรรคภูมิใจไทย, ร้อยละ 1.45 พรรคพลังประชารัฐ, มีร้อยละ 3.95 ไม่ตอบ

ที่เหลือร้อยละ 1.85 เป็นพรรคอื่นๆ รวมกัน

 

ที่เห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจเพราะถึงวันนี้ชัดเจนอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่า “โครงสร้างที่ถูกออกแบบไว้เพื่อสืบทอดอำนาจนิยม” โดยเขียนกฎหมายและสถาปนากลไกให้สามารถจัดการกับพรรคการเมืองที่เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ให้ไม่มีโอกาสเข้ามามีส่วนในการควบคุมอำนาจรัฐ

ซึ่งชัดเจนว่าเป็น “พรรคก้าวไกล” ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มามีส่วนในการจัดการอำนาจ จะเห็นว่าได้แม้จะได้รับเลือกตั้งเข้ามามากที่สุดโดยวิธีหาเสียงที่ประชาชนส่วนใหญ่ แม้แต่ฝ่ายตรงกันข้ามเชื่อว่าสะอาด บริสุทธิ์ที่สุด อย่างน้อยคือเป็นพรรคที่ไม่ซื้อเสียง สร้างความนิยมและเรียกคะแนนด้วยอุดมการณ์

แต่ถึงวันนี้ยังไม่รู้ลูกผีลูกคนจากการไล่ล้างของจากกลไกที่ถูกออกแบบไว้

การถูกปฏิเสธจาก “ศูนย์กลางอำนาจรัฐ” ทำให้พรรคของคนรุ่นใหม่พรรนี้ต้องปรับยุทธศาสตร์ เข้าไปมีส่วนในกลไกอำนาจรัฐระดับเล็กลง เริ่มจากส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และวันนี้ชัดเจนว่าว่าขยายไปยังคณะกรรมการบริหารหน่วยงานที่มีส่วนในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกระดับ เริ่มต้นกันที่ “บอร์ดประกันสังคม”

ความน่าสนใจคือ เมื่อมีโอกาสใช้อำนาจ คือ “สิทธิเลือกตั้ง” ประชาชนยังให้ความเชื่อมั่นใน “พรรคก้าวไกล”

 

แม้แต่การเลือกระดับประเทศ มีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ ผลสำรวจ “นิด้าโพล” เป็นคำตอบเช่นกันว่า “พรรคของคนรุ่นใหม่” ที่เน้น “ประชาธิปไตยเสรีนิยม” พรรคนี้ ยังเป็นทางเลือกที่ประชาชนส่วนใหญ่ฝากความหวังในการดูแลอนาคตของประเทศไว้

อำนาจประชาชน ยังแสดงออกชัดว่าพร้อมปะทะโครงสร้างอำนาจที่ถูกออกแบบไว้ แม้ที่ผ่านมามีคำตอบอยู่ว่า “สู้ไม่ไหว” จนพรรคการเมืองที่เคยยืนเคียงข้างประชาชนมายาวนานหลายพรรคต้องเลือกยอมจำนนเพื่อโอกาสในการได้มีส่วนแบ่งในอำนาจ

การยืนหยัดในอำนาจของประชาชน ที่สะท้อนผ่านการเลือก “พรรคก้าวไกล” หรือ “กลุ่มก้าวหน้า” ท่ามกลางขบวนการที่ปฏิบัติการควบคุมและคัดสรรเพื่ออนุญาตให้พรรคการเมืองแบบไหนเข้ามามีส่วนในอำนาจ

นับเป็นความท้าทายที่สะท้อนความเป็นไปทางการเมืองที่แหลมคมอย่างน่าจับตายิ่ง