เจาะลึก ‘ฮอนด้า ซีอาร์วี’ – ‘เอ็มจี 4’  ‘CAR OF THE YEAR 2023’

สันติ จิรพรพนิต

เนิ่นช้ามาประมาณหนึ่งกับรางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566” (THAILAND CAR OF THE YEAR 2023)

จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

ปีนี้ถือว่าพิเศษเพราะมีรางวัลเพิ่มขึ้นมาคือ “รถยนต์พลังไฟฟ้ายอดเยี่ยม”

เนื่องจากปกติแล้วรางวัลนี้จะแจกให้รถยนต์ที่ขายในเมืองไทยเพียง 1 รุ่นเท่านั้นในแต่ละปี โดยไม่แยกเซ็กเมนต์

เพราะการตัดสินจะดูภาพรวมความคุ้มค่า การออกแบบ ความประณีตของการตกแต่ง และราคา ว่าสมน้ำสมเนื้อขนาดไหน

แต่ด้วยการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้สมาคมตัดสินใจแยกเซ็กเมนต์ออกไปต่างหาก

ปีนี้รถยนต์ยอดเยี่ยมตกเป็นของ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี”

ส่วนรถยนต์พลังไฟฟ้ายอดเยี่ยมคือ “เอ็มจี 4”

เรามาดูรายละเอียดของรถทั้ง 2 รุ่น ว่ามีดีอย่างไร จึงคว้ารางวัลในปีนี้ไป

“ฮอนด้า ซีอาร์-วี” ถือเป็นรถยนต์เอสยูวี ที่สร้างความว้าวมาตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในไทย

จนในรุ่นล่าสุดเจเนอเรชั่นที่ 6 ยิ่งมีเสน่ห์และความลงตัวมากขึ้น

ดีไซน์เน้นความสปอร์ต กระจังใหม่สีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม

ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน

ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบล็อกอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ

เสาอากาศครีบ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18-19 นิ้ว

ห้องโดยสารมีทั้งแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง

ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า

เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา i-Dual Zone

ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster

ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังและแถวที่ 3

รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ

ขุมพลัง 2 บล็อก เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 190 แรงม้า

และระบบฟูลไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มี 3 โหมด

โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)

โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)

และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

ระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ

ความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ อาทิ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ฯลฯ

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย

ราคา 1,419,000-1,729,000 บาท

ส่วน “เอ็มจี 4” ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะสร้างชื่อทั่วยุโรป และสแกนดิเนเวีย ติดท็อป 10 รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม

เป็นรุ่นแรกๆ ที่ออกแบบบนพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV โดยเฉพาะ สามารถรองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ

ออกแบบสไตล์แฮชแบ็ก 5 ประตู เน้นความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

กระจังหน้าดีไซน์ “shark-nosed” ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX ออกแบบทรงเฉี่ยวคล้ายตาเหยี่ยว พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home

ไฟท้าย LED แนวตั้งพาดยาวครอบทั้งฝาท้ายลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT

พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING

หลังคาแบบทูโทนสีดำ เช่นเดียวกับกระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวและพับ-ปรับไฟฟ้า

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายสวยแบบทูโทนดำ-เงิน พร้อมยาง 215/55

ภายในสีทูโทนเทา-ดำ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบไฟฟ้าหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง การตกแต่งใช้วัสดุแบบนิ่ม

หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว

ตรงกลางเป็นจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศดิจิทัล พร้อมกรองอากาศ PM 2.5

คอนโซลกลางแบบ FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM

ระบบเกียร์แบบหมุนไปมา

เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

มีโหมด Intelligent Smart Access เมื่ออยู่ในตำแหน่งคนขับเพียงเหยียบเบรก รถจะสตาร์ตอัตโนมัติ

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง

กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,000-3,500 รอบ/นาที

ความจุแบตเตอรี่ 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง (kWh)

ระยะทางวิ่งไกลสุด 425 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

แบตเตอรี่เทคโนโลยี RUBIKžs CUBE BATTERY จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอน ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM

ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge DC กระแสตรง 10-80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge AC กระแสสลับ ผ่าน MG HOME CHARGER 0-100% ใช้เวลาประมาณ 8.30 ชั่วโมง

มีระบบ V2L ไฟฟ้าจากรถยนต์จ่ายพลังงานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ด้วย

ระบบความปลอดภัยจัดแน่นๆ เด่นๆ เช่น ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับ, ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ฯลฯ

มีให้เลือก 2 รุ่น

รุ่น D 869,000 บาท

รุ่น X 969,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]