หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๕)

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๕)

 

ฉันไม่กล้าเล่นคริปโตเคอเรนซี ด้วยไม่รู้มูลค่าของมัน คำนวณไม่ถูก มันคล้ายจะมีค่าเป็น 0 ไปถึง Infinity

แต่ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ล้วนไม่น่าไว้วางใจ

หากเป็น 0 ก็เล่นไม่ได้อยู่แล้ว

หากเป็น Infinity ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้

คริปโตเคอเรนซีต้องพึ่งพา Internet หากไม่มีสิ่งนี้ ก็ไม่มีเงินคริปโต

นี้คือข้อจำกัดอันดับแรก

เพราะ Internet ไม่ใช่นิรันดร์ มันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น หยุดชะงักได้ เสียหายได้

ยกเลิกได้

 

เหรียญสลึงในมือของฉันอาจอยู่ได้นานถึงหมื่นปี

แต่คริปโต อยู่ได้นานเท่าที่ Internet ทำงาน

มันเป็นเงินเสมือนจริง แต่ใช้ได้จริง

บัดนี้โลกเสมือนจริง เริ่มเข้ามามีบทบาทในโลก

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัด คือการขุดทอง เป็นภัยต่อโลก ด้วยเพราะมันเสพพลังงานสูงมาก มากระดับเท่ากับหนึ่งประเทศ หรือเกิน

ข้อเสียเห็นชัดๆ แบบนี้ ใครจะกล้าฝากความหวังไว้ได้

คงมีแต่คนที่คิดอะไรซีกเดียว

แต่ทว่า คนคิดซีกเดียว มีจำนวนมหึมาในโลก

ทุกวันนี้ มีคนใช้บิตคอยน์ ๑๐๖ ล้านคน

 

ตามทฤษฎี คุณสามารถขุด หนึ่ง Bitcoin ได้ในสิบนาที หากคุณมี Hardware และ Software ตามอุดมคติ แต่ในความเป็นจริง จะทำไม่ได้ คนปกติจะใช้เวลาขุด หนึ่ง Bitcoin ในเวลาหนึ่งเดือน

ทุกวันนี้ คริปโตเคอเรนซีในตลาด มีกว่า ๙,๐๐๐ ชนิด

ตัวที่น่าสนใจที่สุดคือ คริปโตเคอเรนซีตัวแรก มันคือ Bitcoin ซึ่งแข็งแกร่งที่สุด ล้มยากที่สุด มันเริ่มต้นในปี 2009

ผู้สร้าง Bitcoin ชื่อ Satoshi Nakamoto ซึ่งเป็นนามแฝง เขาเป็นใครไม่รู้ ไม่มีใครเคยเห็น เป็นดั่งโซโร ใส่หน้ากาก เขาอ้างว่าตัวเองเป็นชาวญี่ปุ่น แต่ทว่าจริงแล้วหรือ

เขาอาจเป็นกลุ่มคน มากกว่าคนคนเดียว หรือหากเป็นคนคนเดียว ก็เป็นยอดอัจฉริยะ

เขาอ้างว่าตัวเองเป็นชาวญี่ปุ่น แต่ภาษาที่ใช้กลับส่อว่า เขาน่าจะเป็นชาวตะวันตกมากกว่า ตัวตนของเขาเป็นความลี้ลับในโลกสมัยใหม่

เขามี Bitcoin มากที่สุด คือมี 1.1 ล้านเหรียญบิตคอยน์

หากคิดจากมูลค่าวันนี้

1 Bitcoin มีค่า 1,313,164.77 บาท

เท่ากับเขามีเงินมากกว่า หนึ่งล้านล้านบาท

เพื่อความปลอดภัย เขาเก็บไว้ใน 20,000 Addresses

สมมุติว่าเขาใส่เงินในแต่ละ Address เท่ากัน เหมือนหนึ่งว่าเขาเก็บเงินใส่ไห ๒ หมื่นไห ฝังดินไว้ แต่ละไหมีเงินห้าสิบล้านกว่าบาท

คิดแล้วน่าพิศวงเป็นอันมาก

 

เขาร่ำรวยมหาศาล แต่มันทำให้เกิดผลใดต่อชีวิตของเขาหรือ เช่น เขาจะมีอายุยืนขึ้นกว่าปกติสักหนึ่งวันไหม

ที่แปลกคือ เขาคงมีเงินพอใช้อยู่แล้ว เพราะเขาไม่เคยใช้เงิน Bitcoin ของตัวเองเลย เขาเก็บไว้เฉยๆ เหมือนนักศึกษาที่เฝ้าศึกษาอนุภาคมูลฐาน

อยากรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ด้วยเพราะมีความคาดเดาไม่ได้แอบแฝง

๑๐

ความเป็นนักศึกษาของเขานี้ น่านับถือ

มันเร้นลับเท่าอนุภาคมูลฐาน

อนุภาคมูลฐานมีอยู่จริง แต่ทว่าเร้นลับเหมือนไม่มีจริง

๑๑

และเพราะมนุษย์ต้องการศึกษาต้นกำเนิดและจุดจบของเอกภพ เราจึงมาเจอสสารมืดและพลังงานมืด ซึ่งเร้นลับอย่างยิ่งยวด ยังไม่เคยมีใครเจอตัวสองสิ่งนี้เลย หากแต่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง

เพราะหากไม่มีจริง ทฤษฎีทางฟิสิกส์ของมนุษย์ก็ผิดหมด

ทุกอย่างที่เรามองเห็น ได้ข้อมูล ล้วนไปไม่เป็น

เรียกว่า หายนะ

๑๒

นี้คือความเร้นลับของโลกสมัยใหม่

เคียงคู่กับ Quantum Computer ซึ่งฉันก็ไม่อาจเข้าใจได้ ว่ามันทำงานยังไง รู้แต่ว่ามันเป็นของจริง และนักวิทยาศาสตร์มากมาย กำลังทุ่มเทพลังงาน ความคิด เข้าไปทำให้มันเป็นจริงและใช้งานได้ มันแข่งกับเวลา

๑๓

ในคริปโตเคอเรนซี เรามี Bitcoin ที่มีคนทำนายว่า

ในปี 2025 มันจะมีมูลค่า

หนึ่ง Bitcoin เท่ากับ 17.34 ล้านบาท

และในปี 2030

หนึ่ง Bitcoin จะมีมูลค่าเท่ากับ 34.68 ล้านบาท

๑๔

หากเป็นจริงตามนี้ ในปี 2030

Satoshi Nakamoto จะมีเงิน 38 ล้านล้านบาท

ช่างน่าพิศวง

มันทำให้คนรุ่นใหม่เกิดความลุ่มหลง คลุ้มคลั่ง

ใจจดใจจ่อ ไม่เป็นอันกินอันนอน ต้องเฝ้าขุดทอง ทั้งกลางวันและกลางคืน สูบพลังของโลกจนเหือดแห้ง

 

๑๕

บิตคอยน์นี้ เริ่มจาก 0

เริ่มก่อกำเนิดในปี 2009

ในเดือนกรกฎาคม 2010 มันมีค่าเท่ากับ 0.0008 ดอลลาร์

และในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 มันจึงมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ มูลค่าเท่ากับเงินจริงในโลก

หลายเดือนต่อมา มันกลายเป็น 10 ดอลลาร์

และทะยานขึ้นเป็น 30 ดอลลาร์ ในเวลาอันสั้น

๑๖

Bitcoin นี้ ตามกติกาจะมี 21 ล้านเหรียญ ที่ถูกขุดออกมาแล้วนี้ คือ 19,225,106.25 เหรียญ เท่ากับว่ายังเหลืออีก 1,774,693.8 เหรียญ ที่รอให้คนไปขุด

เพราะมันมีจำนวนจำกัด หากแต่ Popularity ของมันเพิ่มทวีทุกวัน

ค่าของมันจึงสูงขึ้นเรื่อยตามกาลเวลา

๑๗

ทุกวันนี้มันยังมีพัฒนาการ หากแต่วันใดที่มันออกมาครบ 21 ล้านเหรียญ มันจะหยุด แต่คาดว่ามันจะถึงวันนั้นในปี 2078 เพราะการขุดบิตคอยน์จะช้าลงไปเรื่อย ทุกสี่ปี ค่าตอบแทนของการขุดบิตคอยน์จะลดลงครึ่งหนึ่ง

๑๘

มูลค่าของมันลดลงได้ หากเจอภัยพิบัติบางอย่าง หรือเจอกฎใหม่บางข้อ

หรือเจอการแข่งขันบางตัว

แต่ Bitcoin จะไม่ตกลงไปถึง 0 ยกเว้นแต่ว่า มันสูญหาย

เพราะ Bitcoin ถูกเก็บไว้ใน Hard Disk มันจึงสูญหายได้

และยามที่สูญหาย มันก็กลับไปสู่ความเป็น 0

 

๑๙

มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อ James Howells วันหนึ่งทำความสะอาดบ้าน และทิ้ง Hard Disk ที่เขาเข้าใจว่าเป็น Hard Disk เปล่า แต่ที่จริงมันเก็บบิตคอยน์ 8,000 บิต เท่ากับความเลินเล่อเล็กๆ พริบตาเดียว เขาทำเงินหายไป คิดจากมูลค่าวันนี้ คือ หมื่นกว่าล้านบาท

นี้เป็นการทำเงินหาย ที่ใหญ่หลวง

ทุกวันนี้ เขายังเจ็บใจอยู่ ยังเฝ้าตามหา

เหมือนหมา

๒๐

Bitcoin Blockchain ถูกทำลายได้ยากมาก เข้าขั้นเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ Hard Disk ถูกทำลายได้ สูญหายได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับของทุกอย่างในโลกนี้ ไม่มีความเป็นอมตะใด ในสังขาร

คุณสามารถสูญเสียบิตคอยน์ได้

เช่น ใส่ผิด Wallet หรือลืม Passwords

หรือถูกขโมย

หรือส่งผิดที่อยู่ ก็คือสูญหาย

อาชญากรรมในโลกคริปโตเคอเรนซีมีมากมาย

ยั้วเยี้ย ยุ่บยั่บ และเต็มไปด้วยเทคโนโลยี

มองดูอีกที บิตคอยน์ก็ไม่ต่างจากไวรัส

 

๒๑

อีกอันตรายหนึ่งของ Bitcoin ก็คือ พลังของมัน มาจากความแข็งแกร่งและแน่นหนาของ Blockchain ซึ่งเป็นดั่งกำแพงที่ปกป้องตัวมันโดยรอบ แต่ทว่า วันใดที่ Quantum Computer ทำงานได้จริง มันก็สามารถทำลาย Blockchain เหล่านี้ได้ในพริบตา เท่ากับว่า Bitcoin ก็จะเปลือยเปล่า ถึงวันนั้น Bitcoin ต้องหาทางป้องกันตัวเองอย่างรีบด่วน ซึ่งไม่รู้ว่าจะออกผลมาเป็นอย่างไร

ขำดี