บูอิจิ เทราซาว่า (1955 -2023) เพิ่งจะถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 เดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา

เขาเป็นเจ้าของผลงานคลาสสิคหลายเรื่อง เรื่องเด่นที่สุดย่อมเป็นคอบร้า (Cobra) คอบร้าเป็นมังงะอนาคตในจินตนาการ พระเอกเป็นโจรสลัดเก่งกาจและเจ้าชู้ เขาผ่าตัดแปลงโฉมมิให้คนจำได้ มีไซโคกัน (Psychogun) ที่แขนซ้ายเป็นอาวุธประจำตัว

หนังอุดมไปด้วยงานวาดสุดบรรเจิด ล่อแหลม และเร้าใจแบบนอนสต๊อป

เป็นส่วนผสมระหว่างหนังซามูไร เคาบอยสปาเกตตีและแน่นอน เจมส์ บอนด์

เขามีคู่หูเป็นแอนดรอย์หญิงทรวดทรงดีชื่อเลดี้ (Lady Armaroid) แต่ว่าเธอใช่หุ่นแน่หรือ

มังงะวางตลาดระหว่างปี 1978-1984 ก่อนจะรวมเล่ม 18 เล่มจบ สร้างเป็นอะนิเมะฉายโรงหนัง 1 เรื่อง Space Adventure Cobra : The Movie กำกับการแสดงโดย Osamu Dezaki เมื่อปี 1982

สร้างเป็นอะนิเมะซีรีส์สองชุด ชุดแรก 31 ตอนในปี 1982 และชุดที่สอง 13 ตอนในปี 2010

สร้างเป็นอะนิเมะลงวิดีโอ (OVA) 2 เรื่องระหว่างปี 2008-2009 คือ Psychogun ตอนละ 30 นาที 4 ตอนจบ และ Time Drive ตอนละ 30 นาทีเช่นกัน 2 ตอนจบ

ผมดูหมดเลยที่ว่ามา อ้าว ก็อะร้าอร่ามไง ความมหัศจรรย์พันลึกนั้นล้ำหน้าสตาร์วอร์สไปไกล ส่วนความเซ็กซี่นั้นคลาสสิคพอๆ กับบาบาเรลล่า ก็ว่าไป

เพื่อระลึกถึงการจากไปของบูอิจิ เทราซาว่า จึงหยิบอะนิเมะ Time Drive ขึ้นมาดูอีกครั้ง เผื่อเราจะได้กลับไปอดีตช่วยเขากลับมาเขียนคอบร้าต่อเหมือนที่คอบร้าพยายามช่วยเลดี้กลับคืนมา

หนังเริ่มต้นด้วยฉากคอบร้าอุ้มเลดี้ไปที่น้ำพุงแห่งเวลา (Spring of Time) เพื่อขอความช่วยเหลือเหตุเพราะเธอกำลัง “เลือนหายไป”

สำหรับท่านที่ตามดูคอบร้ามาโดยตลอดย่อมรู้สึกได้ว่าคอบร้าจอมเจ้าชู้กับเลดี้มิใช่เพื่อนร่วมงานหรือคู่หูธรรมดา ตอนท้ายๆ พวกเขามีใจต่อกันอยู่บ้างแต่ก็เป็นอย่างที่เรียกว่าเพลโตนิกเลิฟ (platonic love) อะนิเมะตอนนี้จะเผยให้เห็นอดีตของเขาสองคนที่มิใช่เพลโตนิกเลิฟอย่างที่เข้าใจกัน

ที่แท้แล้วก่อนที่คอบร้าจะผ่าตัดแปลงโฉม พวกเขาเคยสัมพันธ์กันลึกซึ้งมาก่อนแล้ว

ที่น้ำพุแห่งเวลา คอบร้าได้รับคำแนะนำให้ดำดิ่งลงไปในทะเลฟองเวลาเพื่อค้นหาหนทางช่วยเหลือเลดี้ ไปสำรวจดูว่ามีส่วนไหนในอดีตของพวกเขาที่มองข้ามไป

ฉากนี้น่าสนใจพอๆ กับน่าชมเชย ร่างของเลดี้กลายเป็นฟองกลมๆ ทั่วร่างแล้วร่วงหล่นลงไปจนหมดสิ้น แต่ละฟองคืออดีตของหล่อนซึ่งมีสีสันต่างๆ กัน สีสันที่เห็นแสดงถึงอารมณ์ที่เกิดร่วมกับความทรงจำเวลานั้น

คอบร้าไม่รอช้ากระโดดลงไประหว่างฟองเวลาเหล่านั้น เขาสำรวจแต่ละฟองอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งเข้าไปในฟองหนึ่งโดยไม่ฟังคำทัดทานของผู้นำทาง

แล้วการผจญภัยครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น

การ์ตูนที่รักเคยเขียนถึงเรื่อง Time Drive นี้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนจากการอ่านมังงะสี่สีเล่มเดียวจบ

ครั้งนี้เขียนอีกครั้งหนึ่งจากการดูแผ่นบลูเรย์ด้วยเนื้อเรื่องไม่เหมือนกันเสียทีเดียว

เช่นเดียวกับเรื่อง Psychogun ที่มังงะกับอะนิเมะแตกต่างกันพอสมควร

สำหรับเรื่องนี้ความประทับใจมากที่สุดยังเป็นประเด็นเดิม นั่นคืออดีตถูกแยกเป็นฟองๆ บอกเป็นนัยๆ ว่าแต่ละฟองไม่เกี่ยวกัน

นั่นหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงอดีตควรมีผลกระทบจำกัด มิใช่กระทบต่อเนื่องเป็นลูกคลื่นไม่สิ้นสุด

ความข้อนี้น่าประทับใจเพราะมีนวนิยายวิทยาศาสตร์น้อยเรื่องมากที่เขียนทำนองนี้นั่นคือผลกระทบของการไปยุ่งเกี่ยวกับอดีตมีจำกัด

คนหนึ่งที่เขียนทำนองนี้คือ ไอแซ็ก อะสิมอฟ นั่นเอง จากเรื่องจุดดับแห่งนิรันดร์ (The End of Eternity) ซึ่งเล่าเรื่องหน่วยงานที่ทำหน้าที่แก้ไขอดีตเป็นจุดๆ เพื่อให้โลกพ้นวิกฤตและปลอดภัยตลอดเวลา

การแก้ไขอดีตที่ทำไปนั้นผ่านการคำนวณอย่างแม่นยำว่าจะไปแก้ไขตรงไหนจึงได้ผลโดยมีผลกระทบต่ออดีตในวงจำกัด

ผลกระทบอาจจะรุนแรงเฉพาะตอนต้นๆ แต่หลังจากนั้นจะเบาบางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเส้นเวลา (timeline) เข้าสู่ปกติทุกครั้งไป

คอบร้ากำลังจะทำอย่างเดียวกัน อันที่จริงเขาเพียงต้องการสำรวจอดีตในทีแรกแต่ด้วยความใจร้อนและห่วงใยเลดี้เป็นที่ตั้งเขาจึงโจนเข้าไปพัวพันอดีตด้วยตนเอง

แต่จะว่าไปไม่ยุ่งก็มิได้เพราะพอเข้าไปแล้วถ้าไม่สู้ก็ตายเฉยได้เหมือนกัน นั่นทำให้อดีตมีคอบร้าสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งอายุน้อยกว่า ใบหน้ายังหล่อเหลามิได้ผ่านการผ่าตัดแปลงโฉม ไว้ผมยาวและยังไม่เคยพบเจ้าหญิงเอเมอรัลด้าซึ่งจะเป็นเลดี้ในเวลาต่อมา

อีกคนหนึ่งคือคอบร้าหน้าฌอง พอล เบลมองโด้ คนปัจจุบันที่เราคุ้นเคยซึ่งมีอายุมากกว่าคนแรกยี่สิบปี

มีเรื่องหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าเมื่อคอบร้าเข้าไปในอดีตได้สร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งร้ายและดี เหตุเพราะเขาพบหญิงสองคนที่ให้ความช่วยเหลือเขาและตาย

ตอนที่สตรีทั้งสองตายเขาดูจะแปลกใจและโกรธแค้นมากเพราะหนึ่งในนั้นเคยรู้จักกันมาก่อนแล้วอีกทั้งยังมีชีวิตอยู่ที่เส้นเวลาเดิม

ผู้ร้ายตอนนี้เป็นอสูรกึ่งหมูป่ากึ่งฉลามแต่ชอบสวมหมวกกระทิงชื่อกิรอส มีสมุนมือขวาเป็นนักดาบ สมุนมือซ้ายเป็นนักประดิษฐ์

มันคือผู้สังหารบิดาของเจ้าหญิงเอเมอรัลด้า ก่อนตายบิดาสั่งเจ้าหญิงให้ไปพบช่างตีดาบเพื่อรับดาบที่ลงคาถาเอาไว้

มังกรพุ่งออกจากตัวดาบเลื้อยเข้าไปในขาอ่อนของเธอแล้วกลายเป็นรอยสักประจำตัว

เจ้าหญิงเอเมอรัลด้าจึงมีดาบพร้อมใช้ซ่อนในร่างกายอยู่ตลอดเวลา

นักประดิษฐ์จอมโหดถูกคอบร้าปัจจุบันดัดหลังกลายเป็นครึ่งจักรกลในร่างแมลง

ส่วนนักดาบผีดิบถูกคอบร้าในอดีตยิงหัวระเบิดด้วยไซโคกันวิถีโค้ง ที่จริงไม่โค้งแต่เป็นวิถีครึ่งวงกลมเลยทีเดียว

ก่อนหน้านั้นคอบร้าในอดีตฆ่ามันไปแล้วครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าชิปดีเอ็นเอของมันจะกลับไปหาอสูรกิรอสทุกครั้งที่มันตาย

นั่นทำให้คอบร้าปัจจุบันคิดออกว่าทำไมเลดี้กำลังจะเลือนหาย เหตุเพราะเจ้าหญิงเอเมอรัลด้าในอดีตถูกอสูรกิรอสฝังชิปดีเอ็นเอแบบเดียวกันนั่นเอง

ตอนท้ายของหนังออกจะมึนๆ หน่อย ที่แท้เป็นคอบร้าจากอนาคตที่ช่วยชีวิตคอบร้าในอดีตไปแล้วครั้งหนึ่ง เรียกว่าฉีกกฎการเดินทางข้ามเวลาไม่เหลือ •

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022