ถอดรหัสปฏิบัติการ 1027 เขย่าอำนาจรัฐ (ทหาร) เมียนมา

This handout photo taken and released on October 27, 2023 by the Kokang Information Network shows Myanmar National Democratic Alliance Army (MNDAA) Major General Peng Deqi (centre R) commanding operations against Myanmar's military near Lashio township in Myanmar’s northern Shan State. (Photo by Handout / Kokang Information Network / AFP) / -----EDITORS NOTE --- RESTRICTED TO EDITORIAL USE - MANDATORY CREDIT "AFP PHOTO / Kokang Information Network " - NO MARKETING - NO ADVERTISING CAMPAIGNS - DISTRIBUTED AS A SERVICE TO CLIENTS

จวนเจียนจะครบหนึ่งเดือนแล้วที่กองทัพเมียนมาเผชิญการสู้รบโจมตีอย่างหนักจากหลายแนวรบพร้อมๆ กัน จนกล่าวได้ว่าเป็นการท้าทายอำนาจผู้ปกครองทหารเมียนมาครั้งใหญ่ที่สุดนับจากเหตุการณ์รัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี เมื่อกว่า 2 ปีก่อนก็ว่าได้

หลังจากกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อย 3 กลุ่ม ผนึกกำลังเป็นแนวร่วม “พันธมิตรสามภราดรภาพ” ประกอบด้วยกองทัพโกก้าง (MNDAA) กองทัพตะอาง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) ได้เปิดปฏิบัติการทางทหารภายใต้รหัสที่เรียกขานว่า “ปฏิบัติการ 1027” ซึ่งมีที่มาจากวันลงมือโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมารอบเมืองเล่าก์ก่าย เมืองเอกในเขตปกครองตนเองโกก้าง ในรัฐฉานของเมียนมาติดกับพรมแดนจีน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา

จนกระตุ้นให้กองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ เกิดความฮึกเหิมร่วมเปิดแนวรบโจมตีทหารเมียนมาด้วย

ซึ่งรวมถึงกลุ่มกบฏชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในรัฐคะยา ที่เข้าโจมตีเมืองหลักหลอยก่อ

และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ซึ่งเป็นพลเรือนนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านการรัฐประหารได้รวมตัวกันจับอาวุธขึ้นสู้กับกองทัพเมียนมาเพื่อมุ่งโค่นล้มอำนาจเผด็จการทหาร ก็ได้ประกาศเข้าร่วมผนึกกำลังด้วย

 

นับจากปฏิบัติการ 1027 เปิดฉากขึ้นในวันนั้น กองทัพเมียนมาก็ได้เผชิญการรุกโจมตีอย่างดุเดือดจากกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยต่างๆ อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั้งในรัฐฉาน รัฐยะไข่ รัฐชิน รัฐมอญ รัฐคะฉิ่น และรัฐกะเหรี่ยง

จนทำให้ชาวเมียนมาหลายแสนคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น บ้างอพยพหนีภัยสู้รบเข้าไปยังชายแดนจีนและชายแดนอินเดียที่อยู่ติดกันที่รัฐมิโซรัม

และดูเหมือนกองทัพเมียนมาจะพลาดพลั้งเสียทีให้กับแนวร่วมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยสูญเสียการควบคุมฐานที่มั่นและด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่ปะทะ

และยังมีรายงานทหารเมียนมายอมจำนนหรือแปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารเพิ่มขึ้น

ปฏิบัติการ 1027 ถูกมองในวงกว้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวต่อต้านเพื่อมุ่งยุติระบอบปกครองของอำนาจเผด็จการทหาร โดยที่แนวร่วมพันธมิตรสามภราดรภาพประกาศกร้าวว่าการผนึกกำลังเปิดแนวรบโจมตีกองทัพเมียนมาก็เพื่อปกป้องชีวิตพลเรือน รักษาพื้นที่มั่นของตนเอง และตอบโต้การถล่มโจมตีพวกตนของกองทัพเมียนมา

นอกจากนี้ ยังอ้างว่าเพื่อมุ่งขจัดพวกแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ที่มาลักลอบตั้งศูนย์ดำเนินงานตามแนวชายแดนเมียนมาติดกับจีน ซึ่งมีแรงงานต่างชาติจำนวนมากเข้าร่วม ส่วนใหญ่ถูกล่อลวงมากลายเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์

โดยในหมู่แรงงานต่างชาติเหล่านั้นมีคนจีนและคนไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศแล้วหลายร้อยคน

 

แต่ในความเห็นของนักสังเกตการณ์ด้านความขัดแย้งอย่าง อามารา ธีฮา จากสถาบันวิจัยสันติภาพออสโล มองว่าแรงผลักหลักใหญ่ของการเปิดแนวรบร่วมครั้งนี้ก็คือความขัดแย้งเรื่องอาณาเขตแดน

โดยเขามองว่ากองกำลังกบฏชาติพันธุ์ต่างมีวาระสู้รบเป็นของตนเอง ตั้งแต่การยึดดินแดนควบคุม ไปจนถึงการขยายอิทธิพลในเส้นทางการค้า

ซึ่งในการทำสงครามสู้รบเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง ก็จำเป็นจะต้องสร้างความชอบธรรมทางการเมืองขึ้น

ความชอบธรรมที่เป็นยอมรับได้มากที่สุดในเมียนมาขณะนี้ก็คือ การมุ่งยุติการปกครองของเผด็จการทหาร

นักวิเคราะห์และนักการทูตบางคนยังให้ความเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ปฏิบัติการ 1027 จะเกิดขึ้นโดยปราศจากการเห็นถึงผลประโยชน์ด้วยจากจีน

เพราะการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ที่หลอกลวงคนจีนให้เป็นเหยื่อจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ทางการจีนเรียกร้องต้องการให้รัฐบาลทหารเมียนมาเร่งจัดการปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายนี้มาก่อนแล้ว

นั่นจึงอาจทำให้กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ไม่ได้เผชิญแรงกดดันจากจีนสักเท่าไรนัก ที่การสู้รบก็ทำให้จีนได้รับผลกระทบจากการทะลักเข้ามาของชาวเมียนมาที่หนีภัยความรุนแรงไปด้วยก็ตาม

 

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่ายังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาขอบเขตของการคุกคามท้าทายอำนาจปกครองของรัฐบาลทหารเมียนมาว่าจะเป็นไปได้มากเท่าไร

แต่ที่ผ่านมาเมียนมาซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของอำนาจเผด็จทหารมานานกว่า 5 ทศวรรษ ได้ผ่านการรับมือปะทะสู้รบกับกลุ่มกบฏชาติพันธุ์มาหลากหลายรูปแบบ

ผสมผสานกับการดำเนินกลยุทธ์แบ่งแยกและปกครอง ที่ทำให้ระบอบอำนาจทหารเมียนมายังยืนหยัดอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง

ปฏิบัติการ 1027 นี้ก็อาจจะถือเป็นบททดสอบใหญ่สำคัญอีกครั้งสำหรับคณะผู้ปกครองทหารเมียนมาภายใต้การนำของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย

ว่าจะรักษาความเป็นปึกแผ่นของประเทศไว้ได้อย่างที่ผ่านมาหรือไม่!