ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
แม้เปิดตัวมาพักใหญ่แต่มีปรับโน่นนิด นี่หน่อย ทำให้ฮอนด้า “HR-V” (เอชอาร์-วี) ยังเป็นหนึ่งในรถเอสยูวียอดนิยม
เห็นได้จากยอดขายที่ยังอยู่ในระดับท็อปต่อเนื่อง
ยิ่งกับรุ่นล่าสุดออกแบบภายนอก-ภายในสวยเตะตา
แถมขุมพลังทางเลือก “ฟูลไฮบริด e:HEV” ยังออกมาเพื่อสนองนี้ดของกลุ่มที่ยังไม่สะดวกกับการใช้รถไฟฟ้า แต่อยากรักษ์โลกแบบเบาๆ
ผมมีโอกาสสัมผัสแบบใกล้ชิด เมื่อยืมมาทดสอบเดินทางไกลไปทางภาคอีสาน
รุ่นที่ได้เป็นตัวท็อป “RS”
มาดูรูปร่างหน้าตากันก่อน ได้กลิ่นอายกระจังหน้าแบบเทรนด์ของฮอนด้ายุคนี้ แต่บอกเลยว่าเห็นครั้งแรกก็สะดุดตา
เพราะความโฉมเฉี่ยวและขนาดตัวถังไม่ใหญ่จนเทอะทะ แต่ไม่เล็กจนอึดอัด
เรียกว่าเป็นรถที่ใช้คนเดียวก็คล่องตัว หรือเดินทางไกลกับครอบครัวขนาดไม่ใหญ่นัก ทำได้อย่างลงตัว
กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม
บริเวณช่องดักลมด้านล่างเพิ่มลูกเล่นด้วยเส้นคลื่นหัวใจ AMP UP
ไฟท้าย LED Light Strip สี Smoke ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว เอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
ไฟท้ายลักษณะนี้เริ่มเห็นบ่อยขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke
หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)
ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ
สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม
ล้ออัลลอยลายใหม่ ดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
ภายในโดดเด่นตามมสไตล์ฮอนด้า ที่เน้นความสวยงามและการใช้งาน
พวงมาลัยทรงสปอร์ตสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
ปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และฮอนด้า คอนเน็กต์ (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟน
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ลำโพง 8 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) พร้อมระบบ Air Diffusion System
ช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง
เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ
แน่นอนว่าสามารถพับราบเรียบเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้
แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต
หลังจากขั้นประจำที่นั่งคนขับ สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้คือความหรูหราและลงตัวในการตกแต่งภายใน
เรียกว่าชอบเลยก็ว่าได้
ปุ่มปรับต่างๆ อยู่ในระยะเอื้อมมือสบายๆ แถมมีไวล์เลสชาร์จมาให้ด้วย
กดปุ่มสตาร์ต เสียงเครื่องไม่ดุดันนัก
เบาะนั่งรับต้นขาและกระชับลำตัวได้ดี
เครื่องยนต์แม้จะบล็อกเล็กขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว
ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่แบ่งหน้าที่ชัดเจน
ตัวหนึ่งผลิตกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ
อัตราเร่งตีนต้นหายห่วงแม้ไม่หวือหวามาก แต่ไม่ถึงกับอืด
ความเร็วกลางมาได้รวดเร็ว
มาสะดุดนิดๆ ตรงความเร็วปลาย หรือเวลาเร่งแซง ต้องกดหนักขึ้น
สิ่งที่ตามมาคือเสียงเครื่องยนต์ที่กระหึ่มทันที เนื่องจากจะใช้เครื่องยนต์เพียวๆ ในการรีดกำลัง
แต่หากขับแบบเรื่อยๆ ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ค่อยๆ เติมคันเร่งเวลาต้องการความเร็วถือว่าทำได้ไม่น่าเกลียด
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มี 3 โหมด
มอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
ไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
และขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
ส่วนการขับขี่เลือกได้ 3 โหมดเช่นกัน ECON Mode, Normal Mode และ Sport Mode
เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ทำงานได้ราบรื่น
เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตัน-เมตร
ช่วงล่างนี่น่าสนใจเพราะมีความสปอร์ตนิดๆ เน้นไปทางนุ่มมากกว่า
พวงมาลัยน้ำหนักดี ความคมพอตัวไม่ถึงกับเนียนเป๊ะ แต่ไม่วืดวาด
การสาดโค้งแบบความเร็วเหมาะสมควบคุมสถานการณ์ได้ดี
ส่วนที่นั่งด้านหลังสอบถามเพื่อนร่วมทางพบว่ากว้างขวาง และไม่มีอาการเหวี่ยง
ที่แจ่มว้าวสุดสุด ไม่พ้นการใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน
ช่วยความปลอดภัย อาทิ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย ฯลฯ
“ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี” ถือว่าเป็นรถที่เหมาะกับครอบครัว หรือชอบขับรถนุ่มๆ แต่ไม่ยวบยาบ เป็นรถที่ขับแบบชิล ชิล
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
e:HEV RS ที่ได้มาทดสอบ ราคา 1,179,000 บาท
e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
และ e:HEV E ราคา 979,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022