ภัยใน | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

ภัยใน

 

ขณะที่ พรรคก้าวไกล มุ่งมั่น ที่จะยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ด้วยการนำเสนอกฎหมายเข้าสู่สภา

พรรคก้าวไกล กลับต้องเผชิญ กก.มมน.–ก้าวไกลไม่มั่นคงภายใน(พรรค)

จนถูกเป็นข้ออ้างให้ฝ่ายตรงข้าม หยิบฉวยไปฟ้ององค์กรอิสระ

หวังยุบพรรคก้าวไกลเสียเอง

ภัยภายใน ก็อย่างที่ทราบ กรณี ส.ส.และสมาชิกพรรค ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ จนต้องขับส.ส.พ้นพรรคไป 2 คน

และก่อนหน้านี้ มีมติขับไล่อดีตผู้สมัคร ส.ส.ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ รวมถึงคาดโทษ ส.ส.อีกราย กรณีทำร้ายร่างกายแฟนสาว

ไม่นับกรณี ส.ก.กรุงเทพฯ จากกรณีล่วงละเมิดทางเพศจนถูกบีบให้ลาออกจากสมาชิกพรรคอีก

ทำให้ นโยบายธงนำ ที่พรรคก้าวไกล ชูขึ้นมาขาย คือ ความเท่าเทียมทางเพศ ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก ว่าไม่เป็นจริง

แถมยังก่อผลข้างเคียง ให้ส.ส.ฝ่ายที่ถูกขับออกจากพรรค หยิบประเด็น “ผลประโยชน์บ่อขยะ” มาสาวไส้ภายในพรรค

ท้าทาย ความโปร่งใส ของพรรคคนรุ่นใหม่ ยิ่งขึ้นไปอีก

เปิดช่องให้ ฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่เป็น”ฝ่ายตรงข้ามธรรมชาติ” และ”ไม่เป็นธรรมชาติ”เข้ามาร่วมถล่ม และต่อยอดความอื้อฉาว แบบต่อเนื่องรายวัน

ถึงขนาดเพจบางเพจ ที่มีจุดยืนตรงข้ามพรรคก้าวสไกล ได้โพสต์ข้อความตั้งแท่น ชี้เป้า ว่ามี สส.ก้าวไกล ร่วม 30 คน ถูกดำเนินคดีอาญารวมกันมากถึง 80 คดี

ซึ่งก็คงมีการตาม”ขยี้”ประเด็นเหล่านี้อย่างไม่วางมือแน่

ไม่เว้นแม้แต่ นายศุภชัย ใจสมุทร อดีต สส. พรรคภูมิใจไทย ที่หยิบเอาประเด็น ขับ 2 สส. พรรคก้าวไกล กรณีคุกคามทางเพศ ไปกระทบชิ่ง กรณี การขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกจากพรรคก้าวไกล

โดยกล่าวหาว่าเป็นการดำเนินกระบวนการลงโทษทางวินัย”ทิพย์”

มีการสมคบคิดหรือแสดงเจตนาลวงระหว่างพรรคก้าวไกลกับนายปดิพัทธ์ อันเข้าข่ายกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย

มีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการเลือกตั้งเพื่อทำการสอบสวน หากผิดจริงให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรค

ในกรณีนี้ แม้นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นเรื่องการผสมโรงของคนภูมิใจไทย ที่เห็นว่า นายปดิพันธ์ เอาจริงเอาจังกับการรับมอบงานการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่หรือไม่

ซึ่งก็น่าพิจารณาไม่น้อย

แต่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลตอนนี้ ทั้งการกล่าวหาโดย”ธรรมชาติ” และ”ไม่ธรรมชาติ”

สะท้อนว่า เส้นทาง ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล”ทุรกันดาร”อย่างยิ่ง

เจอตั้งแต่ขวากหนาม ที่ทำให้เลือดซิบๆ

ไปจนถึง เจอ”ทุ่นระเบิด” ที่พร้อมจะตูมตามให้พรรคก้าวไกลถึงแก่ชีวิตทางการเมือง

ดังนั้น พรรคก้าวไกล จึงต้องระมัดระวังตัวเองอย่างสูง

อะไรที่เป็น”ภัยภายใน” ก็ต้องรีบแก้ไข ปิดจุดอ่อน

เพื่อมิให้คู่แข่งทางการเมือง ผสานจับมือกับศัตรูทางการเมืองของพรรคก้าวไกลและอดีตพรรคอนาคตใหม่ ใช้เป็นประเด็นรุมถล่มเล่นงาน

รวมไปถึงฝ่ายอนุรักษนิยม เครือข่ายจารีตนิยมไทย ที่ยึดกุมอำนาจทางการเมืองผ่านขั้วอำนาจเก่าในรัฐบาล คสช. ก็ถือว่าก้าวไกลเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด

ส่วนพรรคเพื่อไทย วันนี้ก็มีทีท่าจะผสานกับขั้วอำนาจเก่าหันปลายดาบเข้าใส่พรรคก้าวไกลอีกแรง

ก้าวไกลวันนี้จึงมีศัตรูรุมถล่มเล่นงานรอบทิศ

จะสู้ได้ ก่อนอื่นต้องขจัด”ภัยใน”พรรคให้ได้ก่อน

ถ้าภายในพรรคยังมีปัญหา

จะเหลือเรี่ยวแรงไปสู่”ภัยนอก”ได้อย่างไร

ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ ที่จะแก้ไข เพื่อ”เป็นภัย”ให้ระบอบเก่าและล้าหลัง ต่อไป

——————-