คอลัมน์ประจำ

กำลังซื้อตกทั่วประเทศ

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 พฤศจิกายน 2566
คอลัมน์ก่อสร้างและที่ดิน
เผยแพร่

สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมปัจจุบันจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักธุรกิจผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล, ภาคตะวันออก, ภาคอีสาน, ภาคใต้ และล่าสุดภาคเหนือเชียงใหม่

พบว่า กทม. ปริมณฑล และทุกภูมิภาค ยอดจองยอดขายใหม่ตกลงเหมือนกันทั้งหมด

กรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบ้าน คอนโดฯ เป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดรวมทั้งประเทศ และยังเป็นตลาดที่มีเซ็กเมนต์ตลาดระดับราคาต่ำ กลาง และสูงราคาแพง ระดับราคาแพง 10-20 ล้านบาทซึ่งยอดขายดีมาตลอดตั้งแต่ช่วงโควิด เพิ่งจากมาชะลอตัวตกลงตั้งแต่กลางปี 2566 ที่ผ่านมา

ส่วนระดับราคากลางและล่างเจอปัญหาผู้ซื้อกู้ไม่ผ่านหรือรีเจคเรตอัตราสูงมาต่อเนื่อง

ตลาดภาคตะวันออกซึ่งเป็นตลาดใหญ่รองจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล กำลังซื้อก็อยู่ในทิศทางลดต่ำลง ตั้งแต่จำนวนลูกค้าแวะเยี่ยมชมโครงการ จนกระทั่งอัตราการจองซื้อก็น้อยลง เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ ปริมณฑลอัตราการขายต่อเดือนต่อโครงการหรือที่เรียกว่าเซลสปีดภาคตะวันออกยังต่ำกว่า

ภาคอีสาน นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี บรรยากาศตลาดอสังหาฯ ก็คล้ายกัน อัตราการจองซื้อใหม่โครงการบ้านจัดสรรกำลังซื้อลดต่ำลง

ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นตลาดอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยที่มีความหลากหลายก็พบว่า ทั้งตลาดระดับราคาสูง และระดับกลาง ก็มีอัตราการจองซื้อต่ำลงเหมือนกับภูมิภาคอื่นๆ

นอกจากนั้น กำลังซื้อจากชาวจีนซึ่งนิยมมาท่องเที่ยวและซื้อที่อยู่อาศัยที่เชียงใหม่ ก็ไม่ได้กระเตื้องดีขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศอย่างที่คาดหวังไว้ คนจีนกำลังซื้อตกลง นำเงินออกนอกประเทศยากขึ้น

ภาคใต้ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา หาดใหญ่ บรรยากาศตลาดบ้านไม่ต่างจากภาคอื่นๆ

 

ที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นมีเพียงแห่งเดียวคือจังหวัดภูเก็ต มีความคึกคักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาจำนวนมากแล้ว แต่ที่สำคัญคือการจุดพลุด้วยยอดขาย “พูลวิลลา” ราคาแพงช่วงต้นสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่บริษัทผู้นำตลาดพูลวิลลาสามารถทำยอดขายได้ 4-5 พันล้านบาท

ทำให้นักพัฒนาอสังหาฯ นักค้าที่ดินจากส่วนกรุงเทพฯ และที่อื่นๆ แห่ไปแสวงหาโอกาสที่จังหวัดภูเก็ตกันเป็นจำนวนมาก

ส่งผลให้ราคาที่ดินภูเก็ตปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วมาก 2-3 เท่าตัวในบางทำเล ทำให้หลายคนเกิดความกังวลว่าราคาที่ดินกับจำนวนโครงการที่เตรียมการจะทำ จะมากเกินความต้องการตลาดจริงๆ หรือไม่ในขณะนี้

สภาวะตลาดอสังหาฯ เวลานี้ ตามที่กล่าวมา ไม่รู้ว่าเป็นภาวะชะลอนิ่งๆ แบบ “น้ำทรง” ก่อนที่น้ำจะขึ้นต่อไป หรือเป็นภาวะที่กำลังจะ “ไหลลง” ต่อไปอีก

ตอนนี้รู้แต่ว่า ธุรกิจอสังหาฯ นั้นดีหรือไม่ดีสัมพันธ์กับรายได้ประชาชาติ หรือ GDP เป็นหลัก ถ้าเติบโตสูงยอดขายอสังหาฯ ก็สูง ถ้าทรงเท่าเดิมอสังหาฯ ก็เท่าเดิม •

 

 

ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.