เปิดตัวจอมขมังเวทย์ ‘มิตรแท้-IO ไทย?’

อภิญญา ตะวันออก

คือแม้ว่าจะแข็งขืนอย่างไร แต่อีกฝ่ายก็ผุดโผล่ความก้าวหน้าต่อไป เว้นเสียแต่จะแช่แข็งด้วยการจองจำหรือขับออกนอกประเทศ อย่างนายกึม สกขา หรือนายสม รังสี จนอดีตกระแสเก่ายุค 2013-2018 ที่ถูกกำจัดและอ่อนล้าไปเอง

กึม สกขา คือตัวอย่างถูกกุมขังในบ้านพักยาวไป 27 ปี อาชญากรรมและการลงทัณฑ์คดีการเมืองของกัมพูชา อืมห์ แซงหน้าเผด็จการเมียนมาไปแล้ว?

ทว่าในที่สุดแล้ว วี่แววของการเกิดใหม่ของขบวนการต่อสู้ก็ยังมีอยู่เสมอ ซึ่งก็พบอีกว่า องคาพยพของฮุน เซน ก็รอสังหารอยู่แล้วเบื้องหน้า โหดร้ายยิ่งนัก!

รอบนี้ก็เช่นนั้น!

1. ส่งทีมไปไทย-เรียน ‘IO’?

แม้จะยุติการเมืองไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ สมเด็จมาแนต แต่เป็นที่ทราบดี สมเด็จฮุน เซน นั้น ยังคงอยู่เบื้องหลังการทำงานของรัฐบาลและอยู่เบื้องหลังการวางแผนยุทธศาสตร์กำราบฝ่ายตรงข้าม อย่างที่ทราบ ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เขาได้กลืนกินหลายฝ่ายไปมาก แล้วตอนนี้ก็มาถึง “ศึกภายใน”

สมเด็จกลาโหม สอ เค็ง คือตัวอย่างนั้น

แม้จะรีไทร์การเมืองเหมือนเตโชเซน แต่ข่าวก็หลุดมาเรื่อยๆ มา นี่คือบุคคลที่จ้องจะเล่นงานสมเด็จฮุน เซน จนถึงตอนนี้ ตอนที่ลูกๆ ทั้ง 2 คนกำลังเล่นการเมือง คนหนึ่งเป็นนายกฯ และคนหนึ่งก็เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย

ไม่ต่างจากตระกูลเตียแห่งเตีย บันห์ ที่คนตระกูลสอมักถูกปูดว่ากำลัง “วางแผน” ทำลายบทบาทตระกูลฮุน ผลก็คือ ข่าวลือแบบนี้มีให้เห็นเช่นปกติ ราวกับเป็นที่รู้กันว่า นี่คือข่าวลือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเช็กความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ว่าจะเป็นมิตรแท้หรือเทียม พวกเขาต้องผ่านแบบทดสอบนี้

และพลพรรคที่อยู่เบื้องหลัง คือองคาพยพที่อยู่ในหน่วยงานข่าวกรองของระบอบฮุนเซน

ฮุน เซน มีทีม IO ที่เป็นของตนเอง หมายเหตุ ถ้าบทบาทนั้นจะมีที่มาจากหน่วยข่าวกรอง แต่นั่นแหละ กว่า 30 ปีที่กลยุทธ์ถูกจัดตั้งขึ้นที่เวียดนาม และระบอบเฮงสัมริน ในนามพรรคประชาชนกัมพูชา (เดิม) ส่งคนของตนไปเรียน propaganda ที่โฮจิมินห์

แต่ตอนนี้ ยุคสมัยฮุน มาแนต กลับต้องส่งคนของตนไปถอดบทเรียนโฆษณาชวนเชื่อ (ในนามใหม่ว่า IO) ที่เมืองไทย?

ถูกแล้ว “นีโอ” คนพวกนั้น พวกเสรีนิยมใหม่ เกิดขึ้นและก่อหวอดที่เมืองไทย ตั้งแต่การต่อต้านปี 2563 หรือก่อนหน้านั้น? ไม่สินะ แล้วตอนนี้ กระแสพายุคลั่ง “นีโอ” นั่นก็ยังเป็นเหมือนเมฆหมอกในเมืองไทย บางทีก็คล้ายกับว่า รัฐอำนาจไทยนั้นอาจจะควบคุมได้

คนที่นั่นเคยชินกับการ “เย่อ” กับภาวะที่คาดหมายไม่ได้ แต่ไม่ใช่ผู้นำเขมร เพราะทันทีที่เริ่มมีเค้าลาง “นีโอ” บางๆ ก่อในกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน ก็บัญชาให้ส่งคนไปศึกษายุทธวิธีรับศึกนี้ที่กรุงเทพฯ และเขาเรียกมันว่า “กระบวนการศึกษาวิธีการ IO” ที่นั่น

ตามข้อเท็จจริงบางฝ่ายที่ให้เครดิตว่า “ต้นตำรับ” การรับมือ “IO” ที่ไม่อาจมองข้าม นั้นอยู่ที่เมืองไทย!

ให้ตายเถอะ! นี่ฉันกำลังเขียนอะไร?

พนมเปญคารวะกองทัพไทยและองคาพยพว่า มีทักษะแตกฉานในเรื่องนี้? โดยเฉพาะ 3-4 ปีให้หลังที่พวกหัวดื้อเสรีนิยมใหม่พากันต่อต้านอำนาจรัฐ

โอว คุณพระ! เป็นเรื่องจริงไปแล้ว แล้วการที่ผู้นำเขมรส่งคนมาเรียน IO ไทย วันนี้ มาจากคำแนะนำจากปักกิ่งหรือเปล่านะ?

อย่าลืมว่า สมัยที่ดูแลพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา ปักกิ่งเคยส่งตัวบองทมเขมรแดงไปเรียนศาสตร์แขนงนี้ที่กรุงฮานอยและโฮจิมินห์มาแล้ว สมัยที่เวียดนามได้ชื่อว่า “ดีเด่น” แขนงนี้

ในจำนวนนั้น ก็มีนางเอียง ทีริต-ภรรยาเอียง สารี, ล่ามประจำตัวพล พต นายซวง ซีเกือน และนวน เจีย พี่ชายหมายเลข 2 ที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ หลังลาออกจากงานในกระทรวงต่างประเทศ เขาเดินทางจากพระตะบองไปโฮจิมินห์

แล้วท่านคิดว่า ผู้นำปักกิ่งปัจจุบัน เขาคิดอย่างไรกับ-IO ไทย หรือจ๊ะ?

2. สำเนาและวาง?

จินตนาการเกินคาดนางอัญเจียฯ ก็แน่ล่ะ เมื่อบรมสมเด็จตัวพ่อด้านการ “สำเนาและวาง” (copy/paste) มาบัญชาเองอย่างสมเด็จฮุน เซน

มีหรือจะไม่?

สมัยนายกฯ ชาติชาย ชุณหะวัณ ของไทยที่ฮุน เซน เคารพ เขาก็เคยยืมแนวคิด “เปิดประตูสู่อินโดจีน” ไปใช้จนสำเร็จมาแล้ว และนั่นเป็นยกแรกที่ทำให้สมเด็จติดใจ

ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กัมพูชาก็ฉวยประโยชน์จากนโยบายจำนำข้าวของไทยไปเต็มๆ (แต่จะเป็นเรื่องใด? ขอยกไว้ก่อน)

ประเด็นคือ “คอนเน็กชั่น” ไทย-แคมโบเดีย ในรัฐอำนาจทั้ง 2 ระบอบและ 2 ประเทศได้กลายเป็นเงาของกันและกันมาแรมปี จาก “ทักษิโณมิกส์” ถึง “ระบอบประยุทธ์” และวันนี้ “เศรษฐา 1”

คำนวณกันเองเถอะว่า ขนาดฮุน เซน ซึ่งมีหลักเหลี่ยมเก่งกาจขนาดไหน? พอมีบิ๊กบราเธอร์สที่ปักกิ่งเข้าไปเป็นกุนซือเท่านั้น ให้ตายเถอะ นี่มันไฮบริด! ชัดๆ

อย่างที่ทราบ ระบอบฮุนเซนมีพัฒนาการดีไม่ใช่แค่ “สำเนา” เท่านั้น แต่รัฐบาลไทยต่างหากที่ช่วย “ลับคม” ความเป็นฮุน เซน อย่างยิ่งยวด!

อย่างยิ่งยวด! นั้น ตั้งแต่ท่านชาติชาย ถึงนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ใครก็รู้ว่า ทุกๆ ระบอบที่ผ่านของไทย ไม่เคยใจร้ายกับเขมร โดยเฉพาะอดีต 3 ป.! ผู้คุมอำนาจ ด้วยมี IO กองทัพเป็นองคาพยพ และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมต้องเป็นยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ ในเรื่องนี้ ที่รัฐเขมรต้องการผลักดัน และฝึกฝนประสบการณ์

สำหรับยุทธศาสตร์ “ลงมือประหาร” ผ่านทางสังคมยุคดิจิทัลที่ศัตรูตัวร้ายคือบรรดาเสรีนิยม!

 

3. นีโอ-ตัวป่วน!

มันคือ ทั้งคนรุ่นใหม่และพรรคการเมืองกลุ่มนี้ ที่ก้าวขึ้นมาในช่วงเวลาเพียง 5 ปี สมเด็จฮุน เซน นั้นไม่แปลกใจ เขาเคยเจอมันมาแล้วในเมื่อ 10 ปีก่อน/2013 ตอนพรรคสงเคราะห์ชาติก่อตั้ง

แต่อนาคตใหม่-ก้าวไกลในไทย ไปไกลกว่านั้น แม้จะหาทางกำจัดฝ่ายตรงข้ามไม่ต่างจากเขาที่ทำลาย “สัมรังสี-กึมสกขา” โมเดล จากนั้นมา ชาวกัมพูชาก็ไม่เคยตื่นขึ้นได้อีกเลย จนกระทั่งวันนี้ วันที่องค์คณะครม.ของฮุน มาแนตกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่สังคมดิจิทัล

เออสิ…แล้วคนเขมรมาลอกเลียนแบบพรรคส้มเอาตอนไหน? ทั้งที่ไม่มีฝ่ายค้านหรือพรรคการเมืองหัวใหม่สักรายเดียว!

สัญญาณความเป็นเสรีนิยมใหม่เขมร มีหัวเชื้อมาแล้ว และตอนนี้ พวกเขาก็ผนึกแน่นในระดับ “มูลฐาน” อย่างเงียบๆ

ไม่ใช่กระแสเท่านั้น แต่ในภาคการต่อสู้ของประชาชนแล้ว เสรีนิยมใหม่ในไทยยังมีรูปแบบคู่มือใช้งานให้หนุ่มสาวกัมพูชาได้จดจำ

ตัวอย่าง กลุ่ม “มาตาธรรมชาติ” ที่จัดพิธีรำลึกถึงการถูกอุ้มหายของต้าร์-วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่พนมเปญ หนุ่มสาวนีโอใหม่ (Neo) ในเขมรพวกนี้ ทำเอาฮุน เซน หัวเสียและเหมารวมว่ามาจากนักกิจกรรมเพื่อสังคมของไทยที่เก่งกาจด้านคอนเทนต์

ซึ่งมันคือขบวนการ “ปฏิวัติทางวัฒนธรรม” (ปฏิวัติสี) และพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปักกิ่ง-ก็เห็น ในยุทธวิธีเล่นแร่แปรธาตุกับรัฐอำนาจแบบนั้น ปักกิ่งรู้ดีถึงประสบการณ์ทำนองนี้ ตั้งแต่ยุคปราบ “บิ๊กโฟว์” ในพรรคคอมมิวนิสต์จีน พนมเปญเองเช่นกัน ไม่เช่นนั้น ฮุน เซน คงไม่ส่งคนของตนมา IO ที่กรุงเทพฯ

ก็ขนาดสมเด็จบิดา ยังต้องมาขอความช่วยเหลือจากบองทมที่เมืองไทย แต่ดูสภาพบองทมประยุทธ์ปะไร เขาไม่อาจกลับมาได้ ไม่ใช่เพราะพวก “Neo” หรือ?

แล้วใครจะช่วยทำ “สำเนาแล้ววาง” ให้ฮุน มาแนต อย่างสำเร็จล่ะ รอบนี้?

“นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ” ฉันบอกเวียสนาคีรีเพื่อนเก่า (ในความคิด)

ก็อย่างที่เล่ามานั่นแหละ หลังปี 1979 เวียสนา (ซึ่งมีชื่อจัดตั้งว่าเอียง) กับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ถูกส่งตัวไปเรียน IO ที่โฮจิมินห์ แต่หมอไม่สนใจเรียนการข่าว เอาแต่ล้างฟิลม์ใน “ห้องมืด” เวียสนาเป็นช่างภาพในดำแห่งสุดท้ายกับสำนักข่าวเกียวโด แต่ตอนนี้ หมอมีฐานะเป็น “หลานเขย” ของสมเด็จฮุน เซน น่ะสิ!

โห…ช่างกระไร ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่า จะมีเพื่อนเป็น IO!