เหรียญกลมรูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่สอน วัดหนองเหล็ก พระเกจิชื่อดัง-มหาสารคาม

ชื่อเสียง “พระสุนทรธรรมภาณี” หรือ “หลวงปู่สอน สุนทโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองเหล็ก อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม และอดีตเจ้าคณะอำเภอโกสุมพิสัย เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสของชาวมหาสารคามมายาวนาน

เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สืบสายธรรมจากหลวงปู่ศรีธรรมศาสน์ วัดใต้โกสุม บูรพาจารย์รุ่นเก่าอีกรูปภาคอีสาน

มีวัตรปฏิบัตรดีงาม มักน้อย ถือสันโดษ มีเมตตาธรรมสูง แม้จะละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว แต่คุณงามความดียังปรากฏอยู่

วัตถุมงคลที่เป็นสุดยอดปรารถนา คือ เหรียญกลมรูปเหมือน รุ่นแรก ปี พ.ศ.2528

วัดหนองเหล็ก จัดสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่อายุครบ 65 ปี เพื่อหาทุนสมทบสร้างสาธารณูปโภค สาธารณูปการ

เป็นเหรียญกลมเนื้อทองแดงรมดำ สร้างประมาณ 5,000 เหรียญ

เหรียญหลวงปู่สอน ด้านหน้า

ด้านหน้ายกขอบ มีจุดไข่ปลารอบด้านในขอบเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์ ด้านล่างเขียนคำว่า “หลวงพ่อพระครูพิศิษฏ์ธรรมาจารย์” สมณศักดิ์ขณะนั้น

ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุนทรธรรมภาณี

เหรียญหลวงปู่สอน ด้านหลัง

ด้านหลังเหรียญ ยกขอบใต้ห่วงเหรียญ เขียนคำว่า “วัดบ้านหนองเหล็ก” เริ่มจากด้านซ้ายลงไปด้านล่างวนขึ้นไปทางด้านขวาของเหรียญ เขียนคำว่า “ต.หนองเหล็ก อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม” ตรงกลางเหรียญเป็นยันต์อักขระ และมีตัวเลขไทย “๒๕๒๘” เป็นปีพุทธศักราชที่จัดสร้าง

รุ่นนี้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเดี่ยว ภายในอุโบสถตลอดพรรษา

ร่ำลือกันว่าพุทธศาสนิกชนผู้ที่ห้อยเหรียญรุ่นนี้ ล้วนแต่มีประสบการณ์อัศจรรย์มากมาย

จัดเป็นเหรียญยอดนิยมอีกเหรียญของอำเภอโกสุมพิสัย

 

นามเดิมชื่อ สอน ดวงราช เกิดวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2463 ที่บ้านหนองเหล็ก ต.เหล่า (ปัจจุบันเป็น ต.หนองเหล็ก) อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นบุตรคนที่ 8 ในจำนวนพี่น้อง 9 คน

บิดา-มารดาชื่อ นายซุยและนางลี ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

หลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดหนองเหล็ก ด้วยมีใจใฝ่เรียนรู้ เมื่ออายุ 14 ปี บิดา-มารดาจึงนำไปบรรพชาที่วัดสวนกล้วย จากนั้นได้มาพักอยู่กับพระอธิการเนตร สมาจาโร ที่วัดหนองเหล็ก ศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรมด้วยความขยันหมั่นเพียร

พ.ศ.2478 ออกเดินทางไปเรียนมูลกัจจายน์ ที่บ้านเมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนกับหลวงปู่มา ญาณวีโร และเดินทางไปศึกษากับอีกหลายสำนักในพื้นที่และจังหวัดข้างเคียง พ.ศ.2480 สอบได้นักธรรมชั้นเอกที่สำนักวัดหนองเหล็ก

นอกจากเรียนหนังสือเก่งแล้วยังเทศน์ได้น่าฟัง ในยุคนั้นมีสามเณร 3 รูปที่มีชื่อเสียงในการเทศน์ คือ สามเณรสอน สามเณรคาย และสามเณรชา

ต่อมาปี พ.ศ.2484 อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูบวรสมณการ วัดบัวใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสมุห์บุญมี เขมิโย วัดบัวใหญ่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพระชา ธมฺมโชโต วัดบัวใหญ่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบท เดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองเหล็ก เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม ประจำสำนักศาสนศึกษาวัดหนองเหล็ก และไปช่วยงานสอนหนังสือที่วัดกลางกุดรัง

ช่วงนั้นสำนักเรียนวัดหนองเหล็ก มีชื่อโด่งดังไปทั่ว หลวงปู่สอน ให้ความสำคัญงานด้านจัดการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะผู้บวชเรียนส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา มีฐานะยากจน

เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าสำนักเรียนวัดกลางโกสุมพิสัย เป็นประธานการศึกษาคณะสงฆ์อำเภอโกสุมพิสัย เป็นผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนมัธยมวัดกลางโกสุม เป็นประธานอำนวยการสอบธรรมสนามหลวงประจำหน่วยสอบอำเภอโกสุมพิสัย นานถึง 34 ปี

นอกจากนี้ ยังมีผลงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นพระธรรมทูตสายที่ 5

หลวงปู่สอน สุนทโร

ด้วยวัตรปฏิบัติที่ดีงามบังเกิดคุณประโยชน์ต่อสาธารณชน พ.ศ.2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองเหล็ก

พ.ศ.2495 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลเหล่า

พ.ศ.2498 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2502 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูพิศิษฏ์ธรรมาจารย์”

พ.ศ.2508 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอโกสุมพิสัย และเจ้าอาวาสวัดกลางโกสุม นานถึง 34 ปี

ต่อมาในปี พ.ศ.2509 ได้รับพระราชทานเลื่อนเป็นพระครูชั้นโท

พ.ศ.2515 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก

พ.ศ.2524 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2540 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองเหล็ก

พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร สาขาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ จากพระหัตถ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ (สย.) ที่พระสุนทรธรรมภาณี

พ.ศ.2543 ได้รับโล่เกียรติคุณคนดีศรีโกสุม และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโกสุมพิสัย

พ.ศ.2546 ได้รับโล่เกียรติคุณจากกระทรวงวัฒนธรรม สาขาผู้ใช้สมุนไพรภูมิปัญญาท้องถิ่น

 

หลวงปู่สอน เป็นผู้มีคุณูปการทั้งด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ การสาธารณสุข และเป็นพระนักพัฒนา มีความชำนาญด้านการก่อสร้างเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ยังคอยเน้นย้ำให้พุทธศาสนิกชนรักษาศีล คนที่มีศีลธรรม ชีวิตจะพานพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง

เมื่อล่วงเข้าปัจฉิมวัย สังขารของหลวงปู่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ

จากการตรากตรำทำหน้าที่ในวัยสูงอายุ ทำให้อาพาธด้วยโรคชราและอาการไตวายแทรกซ้อน อาการทรุดหนัก ส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคาม

ละสังขารอย่างสงบ ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2546 รวมสิริอายุ 83 ปี พรรษา 62

มีพิธีพระราชทานเพลิงช่วงต้นปี พ.ศ.2547 •

 

โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ

[email protected]