สุภาพสตรี หมายเลข ‘เด่น’

การปรากฏตัวขึ้นของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่ท้องสนามหลวง ในงาน “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” น่าสนใจ

เป็นหมุดหมายสำคัญทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณะ ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งใหญ่และการพลิกขั้วตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

และยังเป็นช่วงเวลาไม่กี่วัน หลัง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ผงาดขึ้นเป็นแม่ทัพแห่งพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

เนื่องจากคุณหญิงพจมานอยู่ในพื้นที่การเมืองมาอย่างยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ผ่านวิกฤตการเมือง-อำนาจมามากมาย จึงไม่ต้องพูดเรื่องระดับบารมีทางการเมืองว่าอยู่ในระดับโชกโชนขนาดไหน

นอกจากสวมเสื้อที่บังเอิญถูกออกแบบจากผู้จัดงานให้เป็นสีเหลืองควงบุตรสาวออกงาน จึงได้เห็นบรรดานักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น

ไม่ว่าจะเป็น อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาฯ ตามด้วย วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมฯ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อย่าง สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทย ทุกคนล้วนเข้าหาในลักษณะนอบน้อม

แต่การเข้าหาคุณหญิงพจมานของคนอื่นๆ ดูจืดไปเลย เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้าไปคุกเข่าสวัสดี รวมถึงพนมมือไหว้หลายครั้ง ตั้งแต่โค้งตัวเดินเข้าไป ก็ยกมือไหว้ทันที รวมถึงหลังพูดคุยกันเสร็จก็ไหว้ซ้ำอีก และเมื่อลุกขึ้น จะเดินออก ก็มีการโค้งคำนับอีก 1 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการยกมือไหว้ทักทาย น.ส.แพทองธารด้วย ทำให้ น.ส.แพทองธารต้องยกมือไหว้กลับ รีบลุกจากเก้าอี้ เพราะถือว่าอายุน้อยกว่า

ความนอบน้อมที่ฝ่ายต่างๆ มอบให้นี้สะท้อนถึงบารมีของคุณหญิงพจมานว่ามีมากเพียงใด และเรื่องที่น่าสนใจคือจังหวะการปรากฏตัวของคุณหญิงพจมาน ขณะที่บุตรสาวเพิ่งก้าวสู่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย่อมส่งผลโดยตรงต่ออุ๊งอิ๊งที่จะได้พลังบารมีจากคุณแม่ “อ้อ” ไปด้วย

ทำให้ 2 สุภาพสตรีนี้โดดเด่นขึ้นมาอย่างปฏิเสธไม่ได้

 

ต้องยอมรับว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยวันนี้ ระดับความนิยมไม่เหมือนเดิม เอาแค่เรื่องนโยบายที่เคยขายความสำเร็จยุคไทยรักไทย จนถึงวันนี้เข้าสู่เดือนที่ 2 นโยบายเรือธงอย่างแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ยังอยู่ในสถานะ “คลุมเครือ”

ดูจากไทม์ไลน์ นายกฯ เคยประกาศครั้งแรก จะแจกได้ต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 ต่อมาไม่นาน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ก็พูดจาไม่เต็มปาก อาจหาเงินไม่ทัน คาดว่าต้องลากไปถึงกลางปี 2567 ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกฯ กล่าวยอมรับกลางเวทีเสวนาวุฒิสภา ว่าอาจจะเริ่มแจกได้จริงกันยายน ปี 2567

กลายเป็นว่า นโยบายเรือธงของเพื่อไทย อยู่ในลักษณะ “ผิดแผน” เสียอย่างนั้น

ส่วนนโยบายเร่งด่วนช่วงโปรโมชั่นของพรรคเพื่อไทยเรื่องการลดค่าพลังงาน ก็เป็นเพียงระยะสั้น ยังไม่สะท้อนความยั่งยืน ด้านนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตัวเลขผู้โดยสารเทียบ 1 สัปดาห์ก่อนและหลังใช้นโยบาย ก็เพิ่มขึ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์

ขณะที่คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่มีใครโชว์ผลงานเข้าตา ออกฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวก็ยังไม่มาตามนัด การเดินทางเจรจาต่างประเทศก็ยังไม่ได้ผลตอบรับเชิงรูปธรรม

ไม่นับปัญหาทางการเมือง ที่หลายคนมองรัฐบาลชุดนี้ แนวทางจำนวนมากแทบไม่ต่างรัฐบาลเก่า โดยเฉพาะแนวทางด้านการทหาร ความมั่นคง คำพูดคำจาที่ดูเกรงใจทหารมากเกินไป สวนกระแสประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งว่า เบื่ออำนาจรัฐราชการเต็มทน

ความนิยมพรรคเพื่อไทยจากที่ถูกวิจารณ์มากอยู่แล้ว ช่วงพลิกขั้วตั้งรัฐบาล ก็ยังมาเจอกับช่วงหมดโปร ยิ่งเข้าใกล้สภาวะเสื่อมถอยทางความนิยมเข้าไปทุกขณะ

 

การเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ช่วงสัปดาห์ก่อน และการปรากฏตัวของคุณหญิงพจมาน ผู้มีบารมีเบื้องหลังความสำเร็จพรรคเพื่อไทย จึงมีนัยยะสำคัญ ทั้งต่อสาธารณะ ผู้ติดตามพรรคเพื่อไทย และต่อบุคคลระดับนำในพรรคและในรัฐบาล

ความสำคัญของการปรากฏตัวของคุณหญิงพจมาน ห้วงขณะเดียวกับการผลักดันบทบาทของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร สะท้อนการไฟเขียว สนับสนุนอย่างเต็มกำลังในเส้นทางการเมืองของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นับจากวันนี้เป็นต้นไป จากที่ยังกั๊กๆ ในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่บทบาทของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ก็เป็นไปอย่างน่าสนใจยิ่ง หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่อย่างเป็นทางการ ยิ่งสะท้อนอนาคตทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย สะท้อนบทบาททางการเมืองอย่างสำคัญ

ถามว่าสำคัญอย่างไร ระดับไหน?

ดูจากอาการของคนรอบข้างที่มีปฏิสัมพันธ์กัน ชัดเจนจากภาพการจุมพิตของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่กระทำต่ออุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ในวันได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค

จังหวะเวลา และมูฟเมนต์ทางการเมืองของแพทองธาร แกนนำรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นหน่อเชื้อให้นำไปสู่การคาดเอาอนาคตทางการเมืองต่างๆ มากมาย

ทั้งการคาดเดาว่านายเศรษฐา อาจนั่งเก้าอี้นายกฯ ไม่ครบสมัย, การปูทางเพื่อให้อุ๊งอิ๊ง แพทองธารมารับไม้ต่อ, กระทั่งการวางแผนเป็นนายกฯ หาร 2 ให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ ช่วงแรกเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจก่อน จากนั้นอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ก็มารับไม้ต่อในช่วงหลัง แล้วจึงสานต่ออีก 1 สมัย

ถามว่าจะห้ามไม่ให้คิดได้อย่างไร ขนาดนายเศรษฐาเอง ก็หลุดปากพูดหยอกต่อหน้าสื่อมวลชนถึง 2 ครั้ง จนทำให้วาทกรรม “นายกฯ 2 คน” ดูสมจริงขึ้นมาช่วงก่อนหน้านี้

ร้อนจนนายเศรษฐาเองต้องออกมาพูดช้าๆชัดๆ ตอบกลับสื่อมวลชนอาวุโสที่ตั้งคำถาม ว่า เป็นนายกฯ คนเดียว และจะเป็นไปจนหมดสมัยรัฐบาล

 

อันที่จริง การลดลงของความนิยมพรรคไม่ได้เพิ่งปรากฏ แต่สะท้อนออกผ่านผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ความพ่ายแพ้ครั้งแรกของพรรคเพื่อไทย การก้าวเข้ามาของพรรคการเมืองรุ่นใหม่อย่างพรรคก้าวไกล คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ตระกูล “ชินวัตร” ต้องผลักดัน อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เจเนอเรชั่น 3 ของตระกูลมาจับธงนำทัพพรรคเพื่อไทย เรียกคืนความชอบธรรม คะแนนเสียงทางการเมือง และสู้กับพรรคก้าวไกลนับจากนี้

แต่พรรคเพื่อไทยได้เปรียบพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรครัฐบาล มีโอกาสใช้ทรัพยากรและบุคลากรของรัฐ ทำตามนโยบายที่หาเสียง

วันนี้เราจึงได้เห็น อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันนโยบายหลายอย่างของพรรค เช่น ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการซอฟต์เพาเวอร์ เพื่อผลักดันด้านซอฟต์เพาเวอร์ของประเทศ และ รองประธานพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุข ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นรักษาทุกที่

ทั้ง 2 ตำแหน่งคือกลไกสำคัญเคลื่อนนโยบายของพรรค และที่สำคัญคือการเสริมสร้างบารมีของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธารเอง เพื่อเตรียมตัวรับไม้ต่อทางการเมืองในอนาคตนั่นเอง

ดูจากความมุ่งมั่น วันเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร กล่าวบนเวที ประกาศไม่ทิ้ง “ดีเอ็นเอเพื่อไทย” ทำนโยบายที่สัญญากับประชาชนให้เป็นจริง รัฐบาลเพื่อไทยจะลบคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฏิเสธไม่ได้ นำเพื่อไทยกลับไปเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้ง

เมื่อผสานกับการปรากฏตัวของ คุณหญิงพจมาน พร้อมบุตรสาว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร จึงสะท้อนความหวังทางการเมืองครั้งสำคัญครั้งใหม่ของเพื่อไทย เป็นการเมืองภายใต้การนำของ 2 สุภาพสตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทย

และหาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้เป็นเบื้องหลังทางภูมิปัญญาแห่งพรรคเพื่อไทย สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ บทบาทของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร จะยิ่งโดดเด่น

 

แต่ก็เกิดคำถามขึ้นว่า การขึ้นมามีบทบาทนำของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ในฐานะ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภายใต้การเปิดหน้าออกงานสนับสนุนของ คุณหญิงพจมาน การเข้าไปนั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาล ประกบคู่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ราวกับเป็นนายกฯ เงา จะส่งผลไปลดความชอบธรรม บารมีความเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐาหรือไม่?

หากจะตอบอย่างตรงไปตรงมา ก็ย่อมต้องมีผลแน่ๆ แต่จะมีมากหรือน้อย หรือส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของนายเศรษฐาหรือไม่ ทั้งหมดเป็นเรื่องของการบริหารจัดการทางการเมืองภายในนับจากนี้

เพราะหากมีการแบ่งบทบาทชัดเจน ทำงานคู่ขนาน ส่งเสริมเกื้อหนุนกันไปอย่างแท้จริง ก็จะทำให้อนาคตทางการเมืองของนายเศรษฐาและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ราบรื่น กองเชียร์ไม่งง ไม่เปิดจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี

นายเศรษฐามุ่งแก้เศรษฐกิจการเมือง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เดินหน้าสร้างสรรค์เรื่องใหม่ๆ นโยบายโดนๆ รัฐบาลก็อยู่ได้

ทั้งหมดเป้าหมายคือเรียกกระแสความนิยมเพื่อไทยที่หายไปคืนมา- สู้กับคู่แข่งทางการเมืองในวันนี้ และในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า นั่นคือ พรรคก้าวไกล