ค่ายยุโรปเปิดศึกรถไฟฟ้าหรู ‘บีเอ็มฯ i5’ VS ‘เบนซ์ EQE’

สันติ จิรพรพนิต

ไม่ยอมกันเลยทีเดียว คู่รักคู่แข่งจากเยอรมนีทั้ง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “บีเอ็มดับเบิลยู”

ที่ต่างเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกมาประชันกัน ชนิดหายใจรดต้นคอ

บีเอ็มฯ ส่งเก๋งหรูขนาดกลาง “i5” เข้าประกวด

ส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ อวดโฉมรถเอสยูวี ในตระกูล “EQE” เสริมทัพอีก 2 รุ่นย่อย

“EQE 350 4MATIC SUV Electric Art”

และ “EQE 350 4MATIC SUV AMG Line”

โดยเป็นรุ่นเริ่มต้นและรุ่นกลาง เนื่องจากก่อนหน้านี้เปิดตัว “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic “รุ่นท็อป

พร้อมๆ กับตัวแรงอย่าง “Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+”

 

เริ่มกันที่บีเอ็มดับเบิลยู i5 ใหม่ มี 2 รุ่นย่อย ทั้งตัวแรงอย่าง “i5 M60 xDrive” และ “i5 eDrive40 M Sport”

ภายนอกเอกลักษณ์คงเดิมกับกระจังหน้าทรงไตคู่ ที่ยื่นออกมาเด่นชัดมากขึ้นจากด้านหน้า ล้อมด้วยกรอบที่กว้างกว่ารุ่นก่อน

ตกแต่งด้วยระบบไฟ BMW Iconic Glow บริเวณกรอบ

ไฟหน้า LED จัดเรียงเป็นแถบในแนวตั้ง เป็นทั้งไฟเลี้ยวและไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน ไฟท้ายดีไซน์เรียบหรู

บีเอ็มดับเบิลยู i5 M60 xDrive เติมเข้มด้วยชุดแต่งไฟหน้าสีดำ M Lights Shadow Line

ด้านข้างเสริมลูกเล่นด้วยสเกิร์ตข้างสีดำ มือจับประตูเรียบสนิทไปกับพื้นผิว

หลังคากระจกแบบพาโนรามา

มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ต M รอบคัน ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์หลังสีเดียวกับบอดี้ และสปอยเลอร์สีดำเงาแบบ high-gloss

ล้ออัลลอยแตกต่างกันเล็กน้อย i5 M60 xDrive เป็นแบบ BMW Individual aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว สีดำ Jet Black สลับสี

ส่วนอีกรุ่นใช้ล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว สีเทาเข้ม Black Grey แบบสลับสี

 

ห้องโดยสารเด่นด้วยด้วยพวงมาลัยหนังสไตล์ M ตกแต่งด้วย Crafted Clarity ทำจากแก้วคริสตัล

เบาะนั่งด้านหน้าแบบ Comfort พร้อมระบบปรับด้วยไฟฟ้า

บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40 M Sport ใช้สี Dark Silver M ประดับด้วยขอบ Aluminium Rhombicle

ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู i5 M60 xDrive จะมาพร้อมสี Dark Silver M accent ผสานเข้ากับวัสดุ Carbon Fibre และขอบสีเงิน high-gloss silver

หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง BMW Curved Display แบ่งออกเป็นจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงระบบควบคุม Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว

ใช้ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ QuickSelect ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ผ่านไอคอนที่จัดเรียงมาในรูปแบบแถวแนวตั้งด้านข้างคนขับ

ทำงานควบคู่ไปกับระบบ BMW iDrive ควบคุมง่ายผ่านระบบหน้าจอสัมผัส ปุ่มคำสั่งบนพวงมาลัย

และอุปกรณ์ควบคุม BMW iDrive Controller ที่บริเวณกลางคอนโซล

หน้าจอแสดงผล BMW Head-Up Display

ระบบแอร์แบบแยกโซน ระบบกรองฝุ่นละอองระดับนาโนพาร์ทิเคิล (nano particulate filters)

ฟีเจอร์ไฮไลต์ภายในห้องโดยสารก็คือแถบ BMW Interaction Bar ประดับด้วยขอบคริสตัลที่ครอบคลุมทั้งแถบไปจนถึงบานประตู ควบคุมการใช้งานได้ผ่านหน้าจอสัมผัส ปรับแต่งได้ 6 แบบ

เครื่องเสียง i5 M60 xDrive ใช้ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins ตัวครั้งแรกบนบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 5 ลำโพง 17 ตัว และลำโพงสำหรับมอบเสียงเบสโดยเฉพาะ

ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40 M Sport ใช้ระบบเสียง hi-fi จาก Harman Kardon ลำโพง 12 ตัว และแอมป์ดิจิตอล มีกำลังขับรวม 205 วัตต์

ขุมพลัง 2 บล็อก i5 M60 xDrive ชุดมอเตอร์ให้กำลังขับ 442 กิโลวัตต์/601 แรงม้า และแรงบิด 795 นิวตันเมตร

หรือสูงสุดกว่า 820 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ M Sport Boost หรือ M Launch Control

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพลังงานไฟฟ้า BMW xDrive Electric

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พิสัยการวิ่งไกลสุด 455-516 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 466 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC

ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40 M Sport ให้กำลัง 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร

สามารถส่งแรงบิดได้สูงสุดถึง 430 นิวตันเมตรเมื่อเปิดใช้งานระบบ Sport Boost หรือ Launch Control

ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 6 วินาที

ระยะทางวิ่งไกลสุด 497-582 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 501 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC

มีเทคโนโลยีการชาร์จไฟฟ้าด้วยหัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC กำลังไฟ 22 กิโลวัตต์ และการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุดที่ 205 กิโลวัตต์

สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ในเวลา 30 นาที

ส่วนเทคโนโลยีความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่ จัดเต็มกับระบบ Driving Assistant Professional ที่รวมระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและการเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง เอาไว้ด้วยกัน

ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Parking Assistant รุ่น Plus จะใช้กล้องควบคู่กับระบบคลื่นอัลตราซาวด์ ฯลฯ

บีเอ็มดับเบิลยู i5 M60 xDrive ราคา 5,599,000 บาท

บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40 M Sport ราคา 4,999,000 บาท

(ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็กเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

 

ส่วนค่ายดาวสามแฉก ผมขอลงรายละเอียดเล็กน้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้เสนอรุ่นท็อปไปแล้ว

EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ดีไซน์ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง Electric Art Exterior Package ไฟหน้าแบบ LED High Performance headlamps แสงสีขาวนวลพร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ติดตั้งล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว

EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Exterior Package ไฟหน้า DIGITAL LIGHT ความละเอียดสูงถึง 1.3 ล้านพิกเซลต่อ 1 โคมหลอด พร้อม Adaptive Highbeam Assist Plus ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร และติดตั้งล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว

ระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ มือจับประตูแบบไร้รอยต่อ (Seamless door handles)

ห้องโดยสารของ EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ตกแต่งแบบ Electric Art interior วัสดุตกแต่งแบบ Laser-cut backlit trim with Mercedes-Benz pattern สะดวกสบายด้วยเบาะนั่ง Comfort Seats และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตหุ้มหนัง พร้อมหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว

ด้าน EQE 350 4MATIC SUV AMG Line จะตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ AMG interior ติดตั้งเบาะนั่งแบบ Sport Seats และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa มาพร้อมหน้าจอ MBUX Hyperscreen ที่มีขนาดหน้าจอรวม 56 นิ้ว

สามารถแสดงผลได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งหน้าจอการใช้งานเป็น 3 หน้าจอหลัก ได้แก่ Driver display 12.3 นิ้ว หน้าจอ Central Display 17.7 นิ้ว และหน้าจอ Co-driver display 12.3 นิ้ว

ขุมพลังแบบเดียวกันมอเตอร์ไฟฟ้า PSM (Permanently Excited Synchronous Motors) กำลังสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 765 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.6 วินาที

ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูง 396V แบบLithium-ion ความจุมากถึง 89 kWh วิ่งไกลสุดกว่า 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

ชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10-80% เพียง 32 นาที

ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 30 นาที

EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ราคา 5,300,000 บาท

EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ราคา 4,850,000 บาท •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]