แก้ปัญหา ‘อาวุธปืน’ ตาบอดคลำช้าง | เหยี่ยวถลาลม

พลันที่มีเหตุเด็กชายอายุ 14 ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ผู้คนเสียชีวิตและบาดเจ็บในห้างสรรพสินค้าพารากอน ใจกลางกรุง ตำรวจก็เข้าควบคุมสถานการณ์และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที

อาวุธที่ใช้สังหารครั้งนี้เรียกกันว่า “สิ่งเทียมอาวุธปืน” มีการซื้อขายกันเกลื่อนกลาดทางออนไลน์

จะว่าไปแล้ว “สิ่งเทียมอาวุธปืน” เมื่อถูกนำไปดัดแปลงเป็น “อาวุธปืน” สามารถใช้ฆ่าคนได้ก็ต้องเรียกว่า “ปืนเถื่อน”!

“ปืนเถื่อน” คือปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก “นายทะเบียนอาวุธปืน” ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

หลังเกิดเหตุเด็กอายุ 14 ยิงคนตายในห้าง กลางกรุง กระทรวงมหาดไทยก็มี “แอ๊กชั่น”!

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กระทรวงดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ว่าด้วยเรื่อง “แนวทางจำกัดการออกในอนุญาตพกปืนแก่บุคคลทั่วไป”

ถึงตรงนี้ชักงง

สังคมของเราบางทีก็ออกจะดัดจริต

สมมุติออกแบบให้เกาะภูเก็ต หรือเกาะสมุยซึ่งสามารถดูแลควบคุมได้ง่ายกว่าแผ่นดินใหญ่เป็นพื้นที่ “ปลอดอาวุธปืน” สำหรับบุคคลทั่วไป เว้นเสียแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ถามว่า “รัฐ” พร้อมที่จะระดมสรรพกำลังทั้งคน เงิน อาวุธ เครื่องมืออุปกรณ์ และค่าตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่

 

ดูเหมือนคุณอนุทินจะไม่รู้จัก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ในยามที่ประสบกับปัญหาจึงค้นหาแนวทางบรรเทาหรือปลดเปลื้องทุกข์ไม่พบ

ไม่เพียงแต่เท่านั้น บรรดาข้าราชการที่เข้าร่วมประชุมกับคุณอนุทินก็ดูจะกลายเป็น “ขุนพลอยพยัก” ไปกันหมด ภายหลังประชุมจบ คุณอนุทินถึงได้ออกมาแถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบกับ “มาตรการระยะสั้น” 7 ข้อ

ข้อ 1-4 เป็นมาตรการที่เข้มงวดกับพวก “สิ่งเทียมอาวุธทุกชนิด” รวมไปถึงสนามซ้อมยิงปืน

สำหรับข้อ 5-7 น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับ “สุจริตชน” กับ “โจร”!

มาตรการที่ว่าเด็ดยิ่งนักของมหาดไทยคือ จะสั่งให้ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ “งดออกใบอนุญาต” ให้มีอาวุธปืนติดตัว และจะสั่งให้นายทะเบียน “งด” ออกใบอนุญาตสั่งนำเข้าอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนของร้านค้าอาวุธปืน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

รัฐมนตรีมหาดไทยยังเน้นว่า “ให้ลดการเข้าถึงการครอบครองอาวุธปืนของประชาชนทั่วไปให้มากที่สุด”!

 

ลองทวนความกันอีกครั้ง

เหตุที่อลหม่านนั้นเกิดจาก “เด็กอายุ 14” คนหนึ่งไปซื้อ “สิ่งเทียมอาวุธปืน” ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็น “ปืน” แล้วเอาไปก่อเหตุยิงคนตาย

ปัญหาคืออะไร

ความหมักหมมจากการทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกและไม่สุจริตของผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องคือปัญหา

“ปืนเถื่อน” เกลื่อนเมือง!

“ประชาชนทั่วไป” ไปเกี่ยวอะไรด้วย

ทำไมกระทรวงมหาดไทยถึงได้ช่างคิดค้นหามาตรการมาลิดรอนสิทธิ ด้วยการห้ามประชาชนทั่วไปครอบครองและห้ามพกพาอาวุธปืน

มาตรการข้อ 7 ของมหาดไทยดูจะยิ่งเพี้ยนไปใหญ่

ร้านค้าอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าโดยสุจริต จ่ายภาษีค่าธรรมเนียมให้รัฐทุกปี นำสินค้าเข้ามาขายได้ก็จำกัดตามโควต้าที่ชัดเจนแน่นอน มีการควบคุมเข้มงวดใกล้ชิดจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ เหตุใดมหาดไทยถึงจะสั่ง “ห้ามนำเข้า” อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตามโควต้าที่ได้รับอนุญาต

ใช้อำนาจอะไรไปทำลายธุรกิจร้านค้าอาวุธปืน!

“ระบบ” ที่ถูกออกแบบไว้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ “ไม่ได้มีปัญหา”

ที่มีปัญหาน่าจะเป็นวิธีคิดของข้าราชการกับรัฐมนตรีมหาดไทย

ที่จริงใครผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหนก็ต้องไปแก้ที่ตรงนั้น

ประชาชนผู้ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนไม่ใช่ “ผู้ร้าย”

 

พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของไทย “อนุญาต” ให้ประชาชนเข้าถึง สามารถมีอาวุธปืนไว้ใช้ และพกพาได้ถ้ามีใบอนุญาต ทั้งนี้ ก็ด้วยเหตุที่ “รัฐ” ไม่สามารถให้ “หลักประกัน” ในการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินกับประชาชนได้อย่างทั่วถึงตลอดเวลา

กระทรวงมหาดไทยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรไปปราบ “ปืนเถื่อน” กับ “หยุด” ขบวนการทำมาหากินจากอาวุธปืน

มาตรการระยะสั้นที่ “อนุทิน” แถลงออกมาไม่ใช่แนวทาง “ปราบคนพาล-อภิบาลคนดี” แต่จะส่งผลตรงกันข้ามกลายเป็นการมัดมือมัดเท้าประชาชนทั่วไป

ไม่ต้องประดิษฐ์คิดค้นนิยามกันให้สับสน “สิ่งเทียมอาวุธปืน” ถ้านำไปดัดแปลงเป็น “อาวุธปืน” โดยสมบูรณ์สุดท้ายก็คือ ปืนเถื่อน

รู้กันอยู่ว่าจำนวนอาวุธปืนในประเทศกว่า 10 ล้านกระบอกนั้น ราว 40 เปอร์เซ็นต์เป็น “ปืนเถื่อน” ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย ในถิ่นฐานที่ห่างไกลหรือในเส้นทางที่ต้องสัญจรไปมาเพื่อค้าขายไม่มีความปลอดภัย แต่รัฐกลับเตะตัดขา “ประชาชนทั่วไป”

ไม่ให้ครอบครองและพกพาอาวุธปืนป้องกันตัวเอง

 

เด็กอายุ 14 ซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นปืนไปยิงคนตาย เป็นเรื่อง “พฤติกรรมเฉพาะตัว”

การปล่อยปละละเลยไม่จัดการกับ “ปืนเถื่อน” นั้นก็เป็นเรื่องของ “เจ้าหน้าที่รัฐ”

ปัญหาทั้งหลายไม่ได้มาจาก “ประชาชนทั่วไป”

ถ้าจะเปรียบว่า มีเด็กอายุ 14 สั่งซื้อรถมอเตอร์ไซค์ราคาถูกๆ ทางออนไลน์แล้วเอาไปแว้น “ชนคนตาย” ชอบธรรมหรือไม่หากรัฐจะออกมาตรการ “สั่งห้าม” นำเข้าและครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ พร้อมกับระงับการออกใบอนุญาตขับขี่ประชาชนทั่วไป

7 มาตรการของ “มหาดไทย” ไม่ใช่ทางแก้ แต่เป็นทางแย่

แม้แต่ตำรวจเองก็ยอมรับว่า ทุกวันนี้กำลังตำรวจในสัดส่วน 1 นายต่อประชากรกว่า 600 คน ตรวจตราป้องกันดูแลไม่ไหว

“หลักประกันความปลอดภัย” ในชีวิตและทรัพย์สินเป็นไปตามมีตามเกิด

คนดีกับปืนดี (ถูกกฎหมาย) ไม่ได้มีปัญหา ที่ควรทำคือปราบ “ปืนเถื่อน” สกัดกั้นคนชั่ว จับกุมคนผิดเพื่อ “เปิดพื้นที่ยืน” ให้สุจริตชน

ไม่ใช่คิดทำในสิ่งที่ “สวนทาง” มัดมือมัดเท้าคนทั่วไปไม่ให้มีแม้แต่ “โอกาส” ที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง!?!!