อับเฉาไม่อับปาง

พิชัย แก้ววิชิต

เมื่อเรือสำเภากางใบ หลายชีวิตบนเรือก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลบนเส้นทางสายการค้า โต้คลื่นและแรงลมให้นำพาไปยังจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยสินค้าอีกเต็มลำ เพราะความโลเลของคลื่นลมกับความกว้างใหญ่แห่งผืนน้ำ จึงมีโอกาสให้ไว้ใจท้องทะเลได้ไม่มากนัก

เรือสำเภาโคลงเคลื่อนขึ้นลงโย้ไปมาตลอดเส้นทาง แต่เรือสำเภายังคงรักษาไว้ซึ่งความเสถียรของการทรงตัว ไม่ให้ล่มจมนอนนิ่งลงสู่ก้นทะเล

และนั่นถือเป็นการออกนอกลู่นอกทางของการเดินเรือ

 

“เรือสำเภาพยุงตัวอยู่ได้ด้วยน้ำหนักของสินค้า” สินค้าต่างๆ ถูกจัดวางใต้ท้องเรือกับพื้นที่ที่เรียกกันว่า “อับเฉา” เมื่ออยากไปต่อตลอดรอดฝั่ง การเดินเรือสำเภาทุกครั้งจึงต้องมี “ตัวถ่วง” เพราะมีน้ำหนักของอับเฉาสำเภาจึงไม่อับปาง

อับเฉาชื่อเรียก “ตุ๊กตาศิลาจีน” ที่ก่อนหน้าผมเคยเข้าใจผิดมาโดยตลอด

ถึงตอนนี้เรื่องเก่ากับความเข้าใจใหม่ “ตุ๊กตาศิลาจีนไม่ใช่ตัวถ่วงในลำเรือโดยตรง” แต่เป็นทางอ้อมของน้ำหนักของตัวตุ๊กตาศิลาจีน ช่วยรักษาน้ำหนักใต้ท้องเรือให้พอเหมาะพอสมกับท้องทะเล

“ความเป็นอับเฉา” คือการเป็นสินค้าทั่วๆ ไปบนเรือที่จะถูกนำมาขาย และพ่อค้าอาจซื้อสินค้าอื่นๆ อีกในเที่ยวขากลับ ก็จะได้น้ำหนักสินค้าเป็นของแถมให้เรือสำเภาเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ด้วยเหตุนี้น้ำหนักของสินค้ามากมายหลายอย่างจึงเป็นตัวถ่วงให้เกิดสมดุลอันเสถียรของเรือสำเภาโบราณเมื่อนานมา

“ตุ๊กตาศิลาจีน” เป็นสินค้าที่นำมาขาย หรืออาจเป็นของฝากอันทรงคุณค่า ประติมากรรมจีน ศิลปะนิยมที่นำเข้ามาเมื่อครั้งสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะช่วงการค้าสำเภารุ่งเรื่องเฟื่องฟู ในช่วงรัชกาลที่ 3 มีการนำเอาตุ๊กตาศิลาจีน มาประดับตกแต่งสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ วัดวาอาราม อาคาร

หรืออาจเป็นสวนหย่อมไว้หย่อนใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น

และผู้เป็นเจ้าของที่ได้มีไว้ครอบครอง

เรือชีวิตบางครั้งก็เบาหวิว และคงไม่ดีนักถ้าต้องล่มลงท่ามกลางทะเลใจ เรือชีวิตคงต้องมีอับเฉาไว้บ้าง ไม่ต่างอะไรกับการเดินเรือสำเภา หากแต่อับเฉาที่จะทำให้ชีวิตไม่อับปาง จะมีอะไรดีไปกว่าน้ำหนักของสติที่จะคอยถ่วงดุล ช่วยพยุงความรู้สึกนึกคิด ไม่ให้ชีวิตล่มและจมลง / เทคนิค : F.8 1/250s ISO 125 / สถานที่ : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

งานประติมากรรมตุ๊กตาศิลาจีน ศิลปะช้อยอารมณ์จากศิลาแข็ง รอยยิ้มแม้เกิดจากศิลาแข็งก็อ่อนโยน นุ่มนวลในความรู้สึก

ชั้นเชิงช่าง (ศิลปินจีน) แกะสกัดศิลา ลบหายซึ่งความแข็งกระด้าง เหลือไว้เพียงความมีชีวิตชีวาของตุ๊กตาศิลาจีน ไว้ให้ชื่นชม ท้ายทายแดดลมฝน ที่ยังคงยืดหยัดคงทน มาร่วมกว่าสองร้อยปี

และจะยังให้คนรุ่นต่อไปได้เห็น “รอยยิ้มแห่งศิลา” ท่ามกลางสายธารแห่งกาลเวลา

“อับเฉาไม่อับปาง” เมื่อเห็นงานศิลป คงต้องสะท้อนมองตัวเอง

ชีวิตก็คงไม่ต่างอะไรกับการเดินเรือ ที่อาจต้องพบเจอกับความไม่แน่นอนของคลื่นลม กับเรือชีวิตที่บางครั้งก็เบาหวิว และคงไม่ดีนักถ้าต้องล่มลงท่ามกลางทะเลใจ

เรือชีวิตก็คงต้องมีอับเฉาไว้บ้าง ไม่ต่างอะไรกับการเดินเรือสำเภา หากแต่อับเฉาที่จะทำให้ชีวิตไม่อับปาง จะมีอะไรดีไปกว่าน้ำหนักของสติที่จะคอยถ่วงดุล ช่วยพยุงความรู้สึกนึกคิด ไม่ให้ชีวิตล่มและจมลง และอาจมีน้ำหนักของความผิดพลาด อาจเคยหนักอกหนักใจกับมันมาก่อน

แต่เมื่อเข้าใจในสิ่งที่พลาดไป ประสบการณ์ชิ้นนี้มันอาจมีน้ำหนักที่มากพอจะเตือนสติไม่ให้ผิดพลาดซ้ำได้อีก

ด้วยเหตุนี้ เพราะมี “อับเฉาจึงไม่อับปาง”

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต