เช็กปฏิกิริยากองทัพ หลัง ‘นายกฯ’ หย่าศึกตำรวจ ส่งสัญญาณเตือนฝ่ายมั่นคง

เช็กปฏิกิริยากองทัพ หลัง ‘นายกฯ’ หย่าศึกตำรวจ ส่งสัญญาณเตือนฝ่ายมั่นคง ‘บิ๊กทิน’ เล็งเคลียร์รุ่น-โยกย้าย จับตา ‘มทบ.คอแดง’

 

 

หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หย่าศึกสีกากี จนเป็นที่มา ที่ปรากฏภาพ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.คนใหม่ กับบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จูบปาก กอดคอกัน จนมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน ยิ้มแย้ม หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ชื่นมื่น แบบชั่วข้ามคืน

ไม่ใช่แค่วงการสีกากีเท่านั้น ที่นายเศรษฐาต้องการให้ยุติการทะเลาะเบาะแว้ง แต่รวมถึงฝ่ายทหาร ที่ถือเป็นฝ่ายความมั่นคงด้วย

แม้นายเศรษฐาจะไม่ได้เอ่ยพาดพิงกองทัพ แต่ใช้คำว่า ผมมีนโยบายชัดเจน ว่าเรามีภารกิจเรื่องความมั่นคงของประเทศ การดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องส่วนตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องทำงานให้ได้ และต้องไม่มีข่าวเชิงลบ ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องให้ได้

“ขอให้มีมิติใหม่ในฝ่ายความมั่นคง ควรต้องมีการพัฒนาสัมพันธ์แก้ไขในสิ่งที่ถูกต้อง ผมเชื่อว่าทุกท่านตระหนักดี อะไรไม่ถูกต้อง ก็ต้องมีการแก้ไข” นายเศรษฐาย้ำ

แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่า คนที่แก้ปัญหาเรื่องตำรวจ จนที่สุด กล้าที่จะแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร. อาจไม่ได้มีแค่นายเศรษฐาที่ตัดสินใจก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว Quick Win แม้อาจจะไม่ยั่งยืน แต่ก็สร้างภาพเชิงบวกได้ดั่งที่ต้องการ แม้ในใจจะยังไม่อาจจบลงได้ง่ายๆ ก็ตาม

ที่สำคัญ นายเศรษฐามีข้อมูลในมือเรื่องความขัดแย้งใน สตช. ด้วยการระบุว่า เราอยู่ด้วยกัน ก็เป็นเหมือนลิ้นกับฟัน เป็นกันธรรมดา และไม่ได้มีแค่คู่เอกอย่างบิ๊กต่อ กับบิ๊กโจ๊ก แต่ระบุว่า ยังมีอีกหลายคู่ที่เป็นคู่กรณีกัน เพียงแต่ไม่ได้ระบุชื่อออกมา แต่สะท้อนว่า นายเศรษฐาย่อมมีข้อมูล

แต่ก็เป็นที่รู้ว่าเป็นการสงบศึกได้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะความรู้สึกในใจที่เคยมีต่อกัน ยากที่จะเปลี่ยนในชั่วข้ามคืน

อีกทั้งหากชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่อยู่ในทายาทอำนาจ ที่จะเป็น ผบ.ตร.ในอนาคต ศึกสีกากีก็จะหวนกลับมาอีก

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล

อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นเสียงนายกฯ กำชับเรื่องเอกภาพในตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงแล้ว วันรุ่งขึ้น ก็มีภาพบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.คนใหม่ นั่งจิบกาแฟ พูดคุยชื่นมื่นกับ 5 เสืออากาศ ที่เป็นนายทหารรุ่นพี่ ตท.23 และรุ่นน้อง ตท.26

สยบข่าวร้าวที่ว่า นายทหารอากาศรุ่นพี่ไม่แฮปปี้กับ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ที่เป็นรุ่นน้อง ตท.24 แต่ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.

โดยที่รุ่นพี่ ตท.23 ที่เป็นแคนดิเดตหลายคน มาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น บิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ รอง ผบ.ทอ. บิ๊กจ๋า พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ประธานที่ปรึกษา ทอ. บิ๊กแต้ม พล.อ.อ.วิศรุต สุวรรณเนตร ผช.ผบ.ทอ. และบิ๊กเบิร์ท พล.อ.อ.อนันตชัย แก้วศรีงาม ผช.ผบ.ทอ.

และ เสธ.คิม พล.อ.อ.เสกสรร คันธา เสธ.ทอ. ที่เป็นน้องเล็ก ตท.26

อีกทั้งในพิธีรับส่งหน้าที่ ผบ.ทอ. เมื่อ 29 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นายทหารรุ่นพี่ ตท.23 ไม่มาร่วมพิธีเลย ท่ามกลางกระแสข่าวความไม่พอใจ ที่มีต่อทั้งบิ๊กตุ๊ด พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.คนก่อน ที่เลือกเสนอชื่อ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ที่มีอายุราชการเหลือ 2 ปี เกษียณ 2568 เป็น ผบ.ทอ.แทน

แต่จากการตรวจสอบพบว่า การที่บิ๊กหนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญญา ที่ในวันนั้นเป็นรอง ผบ.ทอ. แต่ก็ถูกเด้งข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ไม่ได้มาร่วม เพราะติดเข้าเวร อีกทั้งถ้าพิจารณาจากตำแหน่งใหม่ 1 ตุลาคม 2566 ก็ถือว่าพ้น ทอ.แล้ว ไม่ต้องมาร่วมก็ได้ ส่วน พล.อ.อ.ณรงค์ นั้นเดินทางไปต่างประเทศ ส่วน พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ ก็ติดประชุมจิตอาสาฯ พอดี

อีกทั้งมีรายงานว่า พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ได้ไปพบนายทหารรุ่นพี่ ตท.23 แคนดิเดต ผบ.ทอ.ทุกคนแล้ว หลังจากที่มีโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ผบ.ทอ.

เพราะที่ผ่านมา พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ออกตัวเสมอว่า ไม่ต้องการแข่งขันกับรุ่นพี่ เพราะยังรอได้

แต่ในที่สุด พล.อ.อ.อลงกรณ์ ก็ทะลุกลางปล้อง เสนอชื่อ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ที่มีอายุราชการ 2 ปี สู้และยืนยันตามนั้น เพื่อสกัดกั้น พล.อ.อ.ชานนท์

ท่ามกลางการจับตามองว่า ในการโยกย้ายครั้งต่อๆ ไป จนถึงโยกย้ายใหญ่ปลายปีหน้า พล.อ.อ.พันธ์ภักดี จะแก้ปัญหา ให้ความเป็นธรรม ตท.25 ที่โผที่ผ่านมา ถูกย้ายออกนอกไลน์หมด เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.อ.เสกสรร ขึ้น เสธ.ทอ.

แต่ก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.อ.เสกสรร เป็นคนเก่ง โปรไฟล์ดี ก็ย่อมต้องมีฟาสต์แทร็ก และถูกมองว่า จะเป็น ผบ.ทอ.คนต่อจาก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี

 

ขณะที่กองทัพเรือยังไม่ปรากฏภาพความปรองดองสามัคคีกันของบิ๊กดุง

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม
พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม

ผบ.ทร.คนใหม่ กับอดีตแคนดิเดต ผบ.ทร. รุ่นเพื่อนและรุ่นน้อง

ทั้งกับบิ๊กโอ๋ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ ผช.ผบ.ทร. เพื่อนร่วมรุ่น ที่ยังรอลุ้นเป็น ผบ.ทร.ในปีหน้าอีกครั้ง แต่กลับปรากฏท่าที และกระแสข่าวว่า พล.ร.อ.อะดุง มีแนวโน้มจะสนับสนุนบิ๊กน้อย พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสธ.ทร. รุ่นน้อง ตท.24 มากกว่า

โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง พล.ร.อ.อะดุง กับบิ๊กวิน พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ทร. รุ่นน้อง ตท.25 ที่ขึ้นมาครองอัตราพลเรือเอกพิเศษ และอาวุโสที่สุดใน ทร.อีกสมัย หลังจากที่โผที่ผ่านมา ระดับผู้บังคับบัญชาในเวลานั้น ตกลงใจที่จะให้ พล.ร.อ.อะดุง รุ่นพี่ เป็น ผบ.ทร.ก่อน จากนั้นในปีหน้า พล.ร.อ.สุวิน จึงค่อยเป็นต่ออีก 1 ปี

จนร่ำลือกันว่า มีสัญญาใจระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมในเวลานั้น กับบิ๊กจ๊อด พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร.ตอนนั้น

โดยมีบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม เป็นเสมือนพยาน ที่ไกล่เกลี่ยหาทางออกแบบพบกันครึ่งทาง

สภาพปัญหาความขัดแย้งในกองทัพ แม้อาจจะไม่รุนแรงเช่นตำรวจ แต่ทว่า ยังคงมีอยู่ และรอวันปะทุตามฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้าย

จึงทำให้ นายสุทิน คลังแสง ที่เป็น รมว.กลาโหม มา 1 เดือนแล้ว ระบุว่า ได้เข้าใจถึงวัฒนธรรมองค์กรและเข้าใจทหารดีขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่ค่อยหนักใจ และสบายใจขึ้นเรื่อยๆ

แต่ที่ยังต้องคอยระแวดระวัง คือ การแต่งตั้งโยกย้าย ที่นายสุทินระบุถึงเรื่องรุ่นของทหาร ว่า ก็มีทั้งดีและไม่ดี อย่าคิดว่าไม่ดีทั้งหมด ความเป็นรุ่นหากเขายอมรับ ก็จะไม่มีปัญหากัน ทหารย่อมมีรุ่นมีเหล่า

โดยจะดูให้เกิดความเป็นธรรม แต่หากไม่ยอมกันเลย และมีความพยายามยัดเรื่องรุ่นและเหล่าเข้ามา อันนี้ก็จะเป็นทุกข์

“ผมต้องดูความเป็นธรรม ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง เพียงแต่ระแวดระวังความเป็นธรรมให้ อำนวยความเป็นธรรมให้ ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมจะช่วยดูแลให้ ไม่ได้แทรกแซง” นายสุทินกล่าว

“คนที่ขัดแย้งกัน ไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็ต้องมาช่วยอำนวยความยุติธรรมดูแล ตามนโยบายของนายกฯ” รมว.กลาโหมพลเรือนระบุ

ที่กลาโหม นายสุทิน มีทั้งบิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม ที่นั่งทำงานในห้องที่เคยเป็นห้อง รมช.กลาโหมเดิม เพราะยุคนี้ไม่มี รมช.กลาโหม ขณะที่บิ๊กอั๋น พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม และบิ๊กตุ๋น พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ ผช.รัฐมนตรี ก็นั่งทำงาน

โดยนายเศรษฐา ซึ่งดูแลความมั่นคง และคุมกลาโหมเอง ได้เรียก พล.อ.ณัฐพล พล.อ.สมศักดิ์ และ ผบ.อ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด ไปหารือวงเล็กมาแล้ว จากที่ปกติจะหารือ พล.อ.ทรงวิทย์ เสมอๆ นายเศรษฐาก็ย่อมต้องมีข้อมูลเรื่องในกองทัพ

รวมทั้งย่อมต้องมีทหารแตงโม คอยเป็นหูเป็นตา สอดส่อง และให้ข้อมูลด้วย

ขณะที่ผลพวงของการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ที่มีผลเมื่อ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ ตำแหน่งที่กำลังเป็นที่จับตาของทหารคอเขียว คือ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ที่กำลังจะกลายเป็นตำแหน่งที่เป็นทหารคอแดง แม้ใช่กองพล ไม่ใช่หน่วยรบ

หากย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่า ในระยะ 5 ปีหลังมานี้ ผบ.มทบ.11 มาจากทหารคอแดงหมด เช่น บิ๊กเล็ก พล.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ จนมาบิ๊กหนุ่ย พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ และ ผบ.ตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล

ส่วน ผบ.กอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ แม้ตอนมาเป็น ผบ.มทบ.11 จะเป็นทหารคอเขียวอยู่ แต่จากนั้นก็ได้ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง ก่อนขยับไปเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. กองพลคอแดง

ขณะที่ ผบ.กบ พล.ต.ปัญญา ตั้งความเพียร ผบ.มทบ.11 คนต่อมา ก็เป็นทหารคอแดง มาจากรอง ผบ.พล.ร.2 รอ.ในเวลานั้น

และมาปัจจุบัน เป็น “ผบ.ด้วง” พล.ต.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ ผบ.มทบ.11 คนใหม่ ที่เป็นคอแดงสายวงศ์เทวัญ ที่โตมาจาก ร.31 รอ. จนเป็น ผบ.ร.31 รอ. ก่อนขึ้นรอง ผบ.พล.1 รอ. แล้วมาติดยศพลตรี ผบ.มทบ.11

และหากดูไปถึงรอง ผบ.มทบ.11 จะเห็นว่า มีทหารคอแดงมาจ่อรอถึง 2 คน ทั้งรองโป๊งเหน่ง พ.อ.ธวัชชัย วรรณดิลก และ พ.อ.ยุทธนา สุนทรมณี

ทั้งนี้ก็เพราะ มทบ.11 เป็นหน่วยที่ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นหน่วยที่เป็นกองอำนวยร่วมในการจัดการถวายความปลอดภัย สถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งการจราจร

อีกทั้งเดิมที่ตั้ง มทบ.11 อยู่แถวถนนพระราม 5 ใกล้พระราชวังดุสิต มักจะเป็นที่มาประชุมและนัดหมายในภารกิจต่างๆ และ ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย แต่ทว่า จะยังไม่ได้แปรสภาพเป็นหน่วยทหารคอแดง แต่แค่มีทหารคอแดงมาประจำหน่วยมากขึ้น เพราะยังต้องทำหน้าที่ของหน่วย มทบ.11 ที่จะต้องดูเรื่องการสัสดี การเกณฑ์ทหารต่างๆ ด้วย

แต่ก็ถือว่า กลายเป็นอีกหน่วยที่ ผบ.หน่วย ต้องมาจากทหารคอแดง และเป็นหน่วยระดับ มทบ. หน่วยแรกและหน่วยเดียวในเวลานี้ ที่เป็นทหารคอแดง

ท่ามกลางการจับตามองว่า ทหารคอแดงจะค่อยๆ สยายปีกคุมพื้นที่ คุมหน่วยมากขึ้นๆ

ใน บก.ทบ. ก็มีทหารคอแดงระดับนายพลมากที่สุด เพราะได้จังหวะโตพอดี โดยมีบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. หัวแถวของทหารคอแดง และมีบิ๊กโต พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รอง ผบ.ทบ. บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ผช.ผบ.ทบ. และบิ๊กปู พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เสธ.ทบ. และมีบิ๊กหยอย พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ ผช.ผบ.ทบ. คนเดียว ที่เป็นทหารคอเขียว

ท่ามกลางการจับตามองว่า จะมีความเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นหรือไม่ ระหว่างทหารคอเขียว และทหารคอแดง ในยุคนี้