22 ส.ค. บันทึกการเมืองไทย ครอบครัวชินวัตร-คนเสื้อแดง เฮรับ ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย สำหรับการกลับมาตุภูมิในรอบ 15 ปี ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ที่กลายเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ประกาศขอกลับบ้านอย่างจริงจังหลังลูกสาวคนเล็ก “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” ได้ให้กำเนิดทายาทคนที่สอง และเป็นหลานคนที่เจ็ดของทักษิณ

โดยให้เหตุผลว่าขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลานและยินดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย นับตั้งแต่หลบหนีคดีไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้กำหนดกลับบ้านของทักษิณครั้งแรก ถูกประกาศโดยอุ๊งอิ๊งว่าบิดาจะกลับมาในวันที่ 10 สิงหาคม แต่ไม่กี่วันก่อนถึงวันที่กำหนด ทางอดีตนายกฯ ก็ได้ทวีตข้อความแจ้งข่าวเลื่อนการเดินทาง โดยระบุหมอเรียกให้ไปตรวจร่างกาย แต่ปรากฏภาพร่วมวงงานฉลองวันเกิดอายุ 72 ปีของ “สมเด็จฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อย่างชื่นมื่น

จนเกิดการตั้งคำถามว่าการเลื่อนเพราะตรวจสุขภาพหรือเพราะสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่เรียบร้อยกันแน่

จนกระทั่ง 19 สิงหาคม อุ๊งอิ๊งได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า “อังคารที่ 22 สิงหาคม 09:00 น. ณ ดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณค่ะ” ยืนยันการเดินทางกลับบ้านของคุณพ่ออย่างแน่นอน

พร้อมบทสรุปการจัดตั้งรัฐบาลที่ผลออกมาว่าพรรคเพื่อไทยประกาศจับมือกับ 11 พรรคการเมือง ซึ่งมีพรรคพลังประชารัฐของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยเหตุผลเพื่อการปรองดองสมานฉันท์ หลังเกิดความขัดแย้งมานานเกือบ 20 ปี

ซึ่งมีทั้งกระแสรับได้และรับไม่ได้การกับเลือกจุดยืนของเพื่อไทยในครั้งนี้

 

และแล้ววันที่ครอบครัวชินวัตรรอคอยก็มาถึง 22 สิงหาคม เวลา 09.00 น. สื่อมวลชนทุกสำนัก รวมถึงกลุ่มเสื้อแดงที่ยังคงรักและเคารพทักษิณสุดหัวใจ ได้มาปักหลักรอการกลับมาของอดีตนายกฯ ในท่าอากาศยานดอนเมือง

ทักษิณเดินทางกลับมาด้วยเครื่องบินเจ็ต Gulfstream รุ่น G 650 ก่อนจะเดินออกมาทักทายแกนนำพรรคเพื่อไทยและประชาชนบางส่วนที่มารอต้อนรับด้วยรอยยิ้ม

และช็อตสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ถูกสื่อทุกสำนักบันทึกอย่างพร้อมเพรียง เมื่ออดีตนายกฯ เข้าไปกราบถวายความเคารพ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง

ขณะที่คนในครอบครัวชินวัตรก็ได้มีการเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลหลังคุณพ่อเดินทางมาถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ไม่ว่าจะเป็นอุ๊งอิ๊ง ที่โพสต์รูปครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาในอินสตาแกรมส่วนตัว

พร้อมข้อความระบุว่า “Welcome back to Thailand daddy ตอนนี้คุณพ่อเดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว และได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายเรียบร้อย ขอบคุณทุกคนที่มารอรับคุณพ่อ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้นะคะ อิ๊งค์และครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ ค่ะ”

และ “เอม พินทองทา” ลูกสาวคนรองได้โพสต์รูปครอบครัวนั่งรอเครื่องบินของคุณพ่อแลนดิ้ง พร้อมข้อความระบุว่า “ทุกวินาทีของการรอคอย Welcome to Thailand ka Daddy”

รวมถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยอีกหลายคน และ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่าน X หรือทวิตเตอร์ ต้อนรับการกลับมาของทักษิณ

โดยระบุว่า “การกลับมาประเทศบ้านเกิด พร้อมหน้ากับครอบครัว เป็นสิ่งที่ไม่มีความสุขไหนจะเทียบได้ ยินดีกับครอบครัวชินวัตร และอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ที่วันนี้จะได้กลับสู่ประเทศไทยครับ”

 

ชะตากรรมของอดีตนายกฯ ทักษิณ หลังเหยียบแผ่นดินประเทศไทย ถูกแสดงหมายจับในทันที

โดย “พ.ต.อ.คมวุฒิ จองบุญวัฒนา” ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานกรุงเทพ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ก่อนถูกส่งตัวให้ศาลและนำตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที และมีการแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์ออกมาว่า นายทักษิณถูกจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง อายุเกิน 60 ปี พบว่ามีโรคประจำตัวหลายโรค

อาทิ มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดต้องทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ตลอดเวลา มีประวัติปอดอักเสบรุนแรงเมื่อครั้งติดโควิด เกิดพังผืดในปอดและปอดอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง มีภาวะเสื่อมตามอายุอื่นๆ ต้องได้รับการดูแลตามหลักการมาตรฐานของเรือนจำทั่วประเทศ เบื้องต้นได้แยกขังไว้ที่โซนพิเศษไว้เพียงคนเดียว มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับคดีและการนับโทษของทักษิณในการกลับมาครั้งนี้ “ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล” อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายผ่านเฟซบุ๊ก เอาไว้ดังนี้

1. คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อ 23 เมษายน 2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี

2. คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อ 6 มิถุนายน 2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่ได้มีการให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงก์

3. คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2563 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 5 ปี และให้นับโทษต่อจากคดี เอ็กซิมแบงก์ (คดีที่ 1) และหวยบนดิน (คดีที่ 2) เนื่องจากคดีหวยบนดิน ไม่ได้มีการให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงก์ คดีเอ็กซิมแบงก์กับคดีหวย บนดินจึงจะนับโทษซ้อนกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ที่บัญญัติให้โทษจำคุกเริ่มตั้งแต่วันมีคำพิพากษา

ซึ่งวันที่นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยวันนี้ ศาลจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด หรือหมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุกในคดีเอ็กซิมแบงก์และหวยบนดิน ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป พร้อมกันทั้ง 2 คดีเลย ส่วนคดีชินคอร์ป ศาลฎีกาจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด หรือหมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุก หลังจากที่รับโทษในคดีเอ็กซิมแบงก์และคดีหวยบนดินเสร็จสิ้นแล้ว

รวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี (3 ปี (คดีที่ 1= 3 ปี, คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน) +5 ปี) โดยคดีที่ 1 กับ 2 นับโทษซ้อนกัน ส่วนคดีที่ 3 รอนับต่อหลังจากรับโทษคดี 1 และ 2 เสร็จสิ้นแล้ว

 

ด้านโลกโซเชียล แฮชแท็ก #ทักษิณกลับไทย ในโซเชียลมีเดีย X หรือชื่อเดิมทวิตเตอร์ ติดเทรนด์ยอดนิยมภายในประเทศเป็นอันดับหนึ่ง

มีการแสดงความคิดเห็นมากถึง 9 แสนกว่าครั้ง ในหลายแง่มุม

ทั้งการแสดงความยินดี และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อการกลับมาที่ดูคล้ายจะมีการเอื้อประโยชน์ในทางการเมือง

แม้ทางเพื่อไทยจะยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับทางการเมืองใดๆ ก็ตาม แต่ทว่าคนในสังคมส่วนใหญ่กลับไม่ได้คิดเช่นนั้น

ทีมข่าวมติชนทีวี ได้สัมภาษณ์คนเสื้อแดงรายหนึ่งที่มาจากจังหวัดสุรินทร์ เพื่อมารอต้อนรับอดีตนายกฯ ที่บริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า

วันนี้เป็น 17 ปีที่รอคอย ตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ เพราะเป็นวันโชคดีของประชาชน เป็นวันที่อนาคตประเทศจะได้กินดีอยู่ดี ไม่ใช่ท่านทักษิณจะมาเป็นนายก แต่ท่านเป็นสมองคอมพิวเตอร์ พรรคเพื่อไทยต้องการคนชี้แนะต้องการคนแนะนำว่าจะต้องทำยังไง ประเทศชาติถึงจะดีขึ้น

 

ปรากฏการณ์ทักษิณกลับบ้านในครั้งนี้ ถูกจับตามองจากสังคมอย่างหนัก

โดยเฉพาะประเด็นการเตรียมขออภัยโทษ

และการกลับมาในยามที่พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว จะมีการเอื้อประโยชน์ใดกับอดีตนายกฯ คนนี้ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค รวมถึงการเลือกปฎิบัติไม่เหมือนนักโทษคนอื่นหรือไม่

หลังมีรายงานข่าวออกมาว่ากลางดึกคืนแรกในเรือนจำ ทางอดีตนายกฯ มีอาการป่วยกำเริบและถูกนำตัวส่งรักษาและพักอยู่ที่ห้องสูทของ รพ.ตำรวจ

และที่สำคัญยังเกิดการตั้งคำถามอีกว่า ในอนาคตหากผู้ลี้ภัยทางการเมืองคนใดคิดจะกลับบ้าน จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเฉกเช่นเดียวกับที่อดีตนายกฯ คนนี้กำลังได้รับหรือไม่