Mission 778X Stereo Amplifier & Streamer

กับชื่อชั้นของมิสชั่นนั้น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตลำโพงชั้นนำจากสหราชอาณาจักร ที่ให้สุ้มเสียงเป็นเอกลักษณ์แบบที่เรียกกันว่า British Sound มาตั้งแต่ยุคแรกๆ คือมีความสุภาพ นุ่มนวล ราบรื่นชวนให้ฟังได้นาน ปราศจากสีสันแบบจัดจ้าน หวือหวา ในลักษณะปรุงแต่งเพื่อให้สะดุดหูแต่แรกฟัง แบบลำโพงอเมริกันที่มีกำเนิดมาในรุ่นไล่ๆ กัน ซึ่งมักจะฟังดูแล้วถูกหูอย่างรวดเร็ว แต่อาจจะอยู่ด้วยกันไม่ได้นาน

อย่างไรก็ตาม ที่จะพูดถึงเรื่องของมิสชั่นเที่ยวนี้หาได้เกี่ยวกับลำโพงแต่อย่างใด หากเป็นเรื่องของสเตอริโอ แอมป์ ที่ค่ายนี้ว่างเว้นการผลิตออกมานานร่วมสี่ทศวรรษแล้ว

ครับ, นานประมาณ 40 ปีแล้ว ที่มิสชั่นไม่มีผลิตภัณฑ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ออกมาสู่ตลาด เนื่องเพราะเครื่องหลังสุดที่เห็นออกมาของแบรนด์นี้ก็ต้องย้อนไปถึงปี ค.ศ.1983 โน่น ซึ่งก็คือ Mission 778 ที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องสุดคลาสสิคในยุคนั้น เพราะได้รวมคุณภาพงานสร้างอย่างเหมาะสม ควบคุมการทำงานได้สะดวก ง่ายดาย ทั้งยังมีอินพุทให้เลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย และได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานกับสารพัดลำโพงได้อย่างคุ้มค่า เกินราคามาก

หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีก็ได้แยกไปก่อตั้ง Cyrus Audio ร่วมกับพันธมิตรที่ชื่อ SMS Electronics แล้วผลิตอินติเกรตเต็ด แอมป์ ออกมาภายใต้แบรนด์ Cyrus ซึ่งสองรุ่นแรก คือ Model One และ Model Two ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีผลิตภัณฑ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ (แบบครบวงจร) ออกมาอย่างต่อเนื่องตราบจนทุกวันนี้

และวันนี้มิสชั่นก็ได้กลับมาทำอินติเกรตเต็ด แอมป์ ภายใต้แบรนด์ลำโพงอีกครั้ง พร้อมกับนำชื่อของรุ่นแรกมาปรุงแต่งเป็น Mission 778X

เอกลักษณ์ที่เห็นชัดเจนประการหนึ่งของเครื่องเสียงค่ายไซรัสก็คือ มีแผงหน้าปัดกว้างเพียงครึ่งเดียวของเครื่องเสียงมาตรฐานทั่วๆ ไป ที่มักจะหน้ากว้างประมาณ 17-19 นิ้ว แต่เครื่องของค่ายนี้จะกว้างไม่ถึงสิบนิ้ว ลักษณะทางกายภาพที่เห็นจึงเป็นเครื่องหน้าแคบแต่ลึก ชนิดที่มองเห็นแต่ไกลบนชั้นวางก็บอกได้ว่าเป็นเครื่องของค่ายนี้แน่นอน

สำหรับแนวคิดในการออกแบบแอมป์รุ่นใหม่เครื่องนี้ ผู้ผลิตบอกว่าเพื่อการนำเสนอเสียงดนตรีด้วยความเพลิดเพลินแบบไม่มีเงื่อนไขในเรื่องของแหล่งที่มาของสัญญาณ ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมกับดนตรีทุกรูปแบบ และกับงานดนตรีทุกยุคสมัย ภายใต้ประสิทธิภาพการทำงานที่ให้ออกมาอย่างยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน ให้ไดนามิกเสียงที่เป็นเลิศ อุดมไปด้วยรายละเอียดที่ให้ออกมาอย่างชัดแจ้งและชัดเจน ทั้งแม่นยำและเที่ยงตรงในแง่ของจังหวะเวลา สัมผัสได้ถึงความประณีตในทุกเส้นเสียงที่สุนทรีย์และละเอียดอ่อน พลิ้วไหวไปกับท่วงทำนองของจังหวะดนตรีที่ชวนฟังแบบไม่รู้เบื่อ

ทั้งยังถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับลำโพงได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่คู่ละไม่ถึงหมื่นไปจนถึงลำโพงหรูหราที่มีราคาแพงกว่าตัวเครื่องเองหลายเท่าตัว และพร้อมทำงานกับลำโพงทุกประเภท มิใช่เหมาะจะทำงานกับลำโพงของมิสชั่นเองแต่อย่างใด

คุณสมบัติทั่วไปของ Mission 778X นั้นคือสเตอริโอ แอมป์ ที่ผนวกภาคแปลงรหัสสัญญาณจากดิจิทัลเป็นอะนาล็อก (DAC: Digital-to-Analogue Converter) แบบรายละเอียดสูงในตัว โดยใช้ชิปเซ็ตคุณภาพสูงรุ่น ESS Sabre 32 ES9018K2M ของ ESS Technology พร้อมมีวงจร Time Domain Jitter Eliminator เพื่อลดจิทเตอร์หรือการคลาดเวลา รองรับการถอดรหัสสัญญาณเสียงดิจิทัลรายละเอียดสูงแบบ PCM สูงสุดถึงระดับ 32-bit/384kHz และ DSD ถึงระดับ 11.2MHz (DSD256) ภาคขยายเสียงให้กำลังขับ 45W/Ch, ที่โหลด 8 โอห์ม หรือที่ 4 โอห์ม ให้กำลังขับสูงถึง 65W/Ch การทำงานแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 เพื่อสตรีมเพลงจากอุปกรณ์พกพาหรือคอมพิวเตอร์นั้น รองรับตัวแปลงสัญญาณทั้ง aptX และ AAC

การทำงานในภาคขยายเสียงเป็นแบบ Class-A/B ใช้หม้อแปลงหรือทรานสฟอร์เมอร์แบบ Toroidal ที่มีค่าสัญญาณรบกวนต่ำ ขนาดใหญ่ 200VA ผ่านตัวเก็บประจุไฟฟ้าที่มีค่าสูงถึง 15,000 ไมโครฟารัดสองตัว โดยทำงานแยกแต่ละแชนเนลเป็นอิสระกัน ขณะที่ทางเดินสัญญาณในภาคปรีแอมป์นั้นเป็นแบบเรียบง่ายที่สุด สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของสัญญาณ และจัดวางแผงวงจรด้วยรูปแบบที่มีการปกป้องสัญญาณรบกวนต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมการทำงานด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง ทั้งยังมีภาคจ่ายกระแสแบบสัญญาณรบกวนต่ำ แยกอิสระ เพื่อการทำงานในช่วงวิกฤตโดยเฉพาะอีกด้วย

นอกจากนั้นแล้ว, เครื่องนี้ยังคงคุณสมบัติเด่นแบบดั้งเดิมเอาไว้ด้วยการมีอินพุทให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งอะนาล็อกและดิจิทัล ประกอบไปด้วยอินพุต USB Type-B แบบ Asynchronous (หรือที่เรียกกันว่า PC USB นั่นแหละครับ) และมีอินพุต S/PDIF ให้สามชุด แบ่งเป็น Coaxial หนึ่งชุด และ Optical สองชุด ทั้งยังมีอะนาล็อก อินพุต แบบสเตอริโอ (AUX) ผ่านช่องเสียบ RCA ให้อีกสามชุด ซึ่งหนึ่งในนั้นรองรับ Phono MM: Moving Magnet แบบ Low-Noise และยังมีพอร์ต USB สำหรับการอัพเดตเครื่องในอนาคตให้ด้วย

ทางด้านมีดิจิทัล เอาต์พุต มีให้ทั้งโคแอ็กเชียลและออพทิคัลอย่างละชุด รวมถึงมีภาค Pre-Out ให้สำหรับทำหน้าที่เป็นปรีแอมป์แล้วไปต่อใช้กับเพาเวอร์-แอมป์เครื่องอื่น

ในส่วนของช่องเสียบชุดหูฟังนั่น มีภาคขยายเสียงเฉพาะการทำงานในส่วนนี้แยกต่างหาก ซึ่งเป็นแบบ High-Speed Output ที่มีค่า Slew Rate สูง ซึ่งช่วยให้ได้ไดนามิกที่ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีรายะเอียดเสียงที่ครบถ้วน ชัดเจน และรองรับการทำงานได้เป็นอย่างดีกับชุดหูฟังทุกประเภท

บนแผงหน้าปัดที่เรียบหรูนั้น ประกอบไปด้วยปุ่มลูกบิดขนาดใหญ่สองชุด ชุดด้านซ้ายสำหรับเลือกอินพุตสัญญาณ (Source Selector) ซึ่งจะมีไฟแสดงตำแหน่งของช่องสัญญาณที่ถูกเลือกใช้งาน ชุดลูกบิดด้านขวาเป็นปุ่มควบคุมระดับความดังเสียง (Volume Control) มีไฟ LED สีขาว แสดงความแรงสัญญาณตามระดับความแรงที่หมุนไป ที่กึ่งกลางแผงหน้าปัดที่เห็นเป็นวงกลมเล็กสามวงนั้น วงกลางคือปุ่มกดเปิด/ปิดเครื่อง เมื่อกดเปิดการทำงานจะมีไฟ LED สีแดงแสดงสถานะเหนือปุ่ม วงด้านซ้ายเป็นแผงเซ็นเซอร์ IR รับคำสั่งจากรีโมตคอนโทรล ส่วนวงขวาเป็นช่องเสียบชุดหูฟังกับแจ็คมาตรฐาน ขนาด 6.35 มิลลิเมตร

เป็นเครื่องที่มีมิติโครงสร้าง (กว้าง x สูง x ลึก) 236 x 98 x 380.6 มิลลิเมตร หนัก 6.3 กิโลกรัม

และมาพร้อมรีโมตคอนโทรล ขนาดกะทัดรัดแต่กระชับมือดี เป็นรีโมตแบบสามแถบ แถบบนสุดสำหรับเปิด/ปิดเครื่อง และ Mute เสียง แถบกลางสำหรับกดเลือกแหล่งสัญญาณแบบเนวิเกเตอร์ ส่วนแถบล่างสุดสำหรับกดเพิ่ม/ลดระดับความดังเสียง

Mission 778X ได้รับการยกย่องจากสื่อต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน ว่าให้น้ำเสียงที่มีความเป็นดนตรีสูงมาก และด้วยคุณภาพอันประณีตอย่างแท้จริง ทั้งยังเหนือกว่าหลายๆ เครื่องที่มีราคาสูงกว่ามันด้วยซ้ำ บางรายถึงกับออกปากว่า Highly Recommended in Everyway นั่นเทียว

เข้ามาบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมปิดป้ายเอาไว้ที่สองหมื่นกลางๆ ครับ นับว่าเป็นราคาที่น่าคบหามาก!!! •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]