‘ควัน’ | ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
สมเสร็จ - มีสถานภาพเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ถึงวันนี้ พวกมันมีประชากรเพิ่มมากขึ้น ผลจากการดูแลปกป้องแหล่งอาศัยอย่างเอาจริง ตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมา

ครั้งหนึ่งในฤดูฝน

ป่าเขียวชอุ่ม หญ้า ใบไม้ชุ่มน้ำตลอดเวลา บนด่านที่ว่างเว้นจากการเดินของฝูงช้างมีสภาพรกทึบ หญ้าสูงท่วมหัว ความแหลมคมของใบหญ้าทำให้ต้องใช้มือทั้งสองข้างยกบังใบหน้าเวลาเดินผ่าน อีกทั้งเถาวัลย์เล็กๆ แต่เหนียวนั่น มักเกี่ยวเป้ ขาตั้งกล้อง รวมทั้งขาที่บางครั้งล้าเกินกว่าจะยกข้าม

ร่องรอยของสมเสร็จซึ่งเข้ามาใช้โป่งน้ำเล็กๆ ในหุบ ซึ่งผมพบตอนเดินผ่านในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา

โป่งแห่งนั้นจึงเป็นจุดหมายที่ผมกำลังเดินไปหา โป่งที่ถูกขนาบด้วยผาชันสามด้าน มีทางเข้า-ออกทางเดียว น่าจะเป็นที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ป่าในช่วงฤดูฝน

 

หลังจากผ่านพ้นยุคที่เรียกได้ว่า เป็นยุคแห่งการทำลายล้าง ก่อนถึงช่วงเวลา 30 ปีหลัง ที่เริ่มมีการปกป้องสัตว์ป่า รวมทั้งแหล่งอาศัยของพวกมันอย่างเอาจริง

ก่อนหน้านั้น เรื่องราวความชุกชุมของสัตว์ป่า เป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมา

ป่าบางแห่งยังมีเค้าเดิมๆ อยู่บ้าง เช่นเดียวกับสัตว์ป่า ส่วนหนึ่งยังเหลือ หลายชนิดสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย บางชนิดหายไปจากเมืองไทย นั่นหมายถึง หายไปจากโลกด้วย

สำหรับคนที่เกิดมาในยุคแห่งคำเล่าขาน เมื่อได้ยินได้ฟังถึงความยิ่งใหญ่ของผืนป่าในอดีต สัตว์ป่าชุกชุม

เหล่านี้คือตำนานอันตื่นเต้นกว่าในนิยาย

ขณะบางครั้งมันคล้ายเป็นเชื้อไฟในใจ ให้ออกเดินทางค้นหา ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะเป็นเช่นไร

 

ผ่านไปสามวัน ผมเดินถึงจุดหมาย ท่ามกลางฟ้าครึ้มและฝนตกพรำๆ

ในโป่งมีรอยเก่าๆ สภาพรอบๆ ไม่มีที่เหมาะกับการตั้งซุ้มบังไพร ผมใช้มะเดื่อต้นใหญ่ที่มีง่ามเหมาะ สูงจากพื้นราว 6 เมตร ทำห้างบนนั้น

ใช้เวลาไปหลายวัน ไร้วี่แววสัตว์ที่ตามหา

ผมไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะอะไร นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาอันเหมาะสมหรืออย่างไร เป็นบทเรียนที่ทำให้ต้องหาทางเรียนรู้เพิ่ม

หรือเป็นเพียงสัจธรรม ยิ่งตามหา ยิ่งไม่พบ

 

ใช้เวลาในป่ามาแล้วกว่าสองสัปดาห์ เสบียงพร่อง ข้าวสารเหลือไม่กี่มื้อ

สมบุญ คนงานจากหน่วยพิทักษ์ป่า ชวนกลับ เขาจะนำกลับอีกทาง ซึ่งจะใช้เวลาสองวันจะถึงหน่วย มันเป็นทางลัด

และแน่นอนว่า เมื่อเป็นทางลัด เส้นทางเดินย่อมไม่ง่ายดาย

 

เราเก็บแคมป์ เริ่มเดินตั้งแต่เช้า แยกจากลำห้วยสายเล็กๆ ตัดขึ้นสันเขา พบด่านที่มีช้างฝูงเดินไปล่วงหน้า ทางเดินง่ายขึ้น

เมื่อช้างเดินไปล่วงหน้า ทางด่านก็ราบเรียบ สัตว์เล็กสัตว์น้อยเดินตามได้สะดวก และได้อาศัยกินพืชที่ช้างหักลงมาจากต้นไม้ที่อยู่สูงๆ ด้วย

ด่านราบเรียบ เราทำเวลาได้เร็ว เย็นนี้เราจะเดินลงไปพักในหุบที่มีน้ำ

ลงจากสันเขาได้ราว 20 นาที สมบุญพาแยกไปทางขวา

“จากนี่เดินสักครึ่งชั่วโมงจะถึงริมห้วยที่ตอนลาดตระเวน ผมมาพักบ่อย” เขาหันมาบอก

ก่อนถึงริมห้วย สมบุญชะงัก หยุด และชี้ให้ผมดูที่พื้น

สีแดงคล้ำของไม้สีเสียดถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ วางกระจาย เป็นการวางไว้เพื่อผึ่งแดด ผมหยิบไม้สีเสียดชิ้นยาวราวนึ่งศอกขึ้นมาดู ทั้งกองนี้จะขายได้เท่าไหร่นะ คุ้มไหมที่คนตัดต้องเสี่ยงกับการถูกจับกุม

เสียงคุยเบาๆ พร้อมกลิ่นยาเส้น ผู้ชายวัยกลางคนสามคนเดินสวนมา

สมบุญแสดงตัว ทั้งสามไม่มีท่าทีว่าจะหนี

“ลุงช่วยกันเก็บสีเสียดใส่ถุงปุ๋ยซะครับ จะเอาไปเป็นของกลาง” สมบุญบอกสามคนนั่น

สมเสร็จ – มีสถานภาพเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ถึงวันนี้ พวกมันมีประชากรเพิ่มมากขึ้น ผลจากการดูแลปกป้องแหล่งอาศัยอย่างเอาจริง ตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมา

ตําแหน่งที่พักค่อนข้างสบายเป็นลานโล่ง ริมห้วยปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่หลายชนิด

เพิงพักของพวกเขามีผ้ายางเก่าๆ ขึงกันฝน กองไฟยังไม่มอด

ผมผูกเปลใต้ต้นไม้ ไกลกองไฟ

ทั้งสามคนปฏิเสธเมื่อผมชวนกินข้าว นั่งสูบยาเส้นเงียบๆ ข้างกองไฟ แววตาที่เหม่อดูเปลวไฟ แห้งแล้งไร้ประกาย

กินข้าวเสร็จ ผมเดินเข้าไปหา นั่งลงข้างๆ

คนท่าทางอาวุโสกว่าเพื่อน ยื่นยาเส้นให้ทั้งถุง

“ผมชื่อเชน ลุงชื่ออะไรกันบ้างครับ” ผมชวนคุย

“ชื่อลพ นี่ชื่อนอง และนั่น คำ” ลุงลพตอบ ประสานสายตากับผม ส่วนนองกับคำ ก้มหน้าเฉย รอบๆ มีเพียงเสียงน้ำไหล และเสียงปะทุจากกองไฟ ผมนึกหาเรื่องชวนพวกเขาคุย “ลุงไม่รู้เหรอครับว่า เขาห้ามเข้ามาหาของป่าที่นี่มันผิดกฎหมาย”

“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ เคยขึ้นมาหาตั้งแต่ยังไม่ประกาศห้าม เอาไปนิดหน่อยพอขายได้อยู่ไปวันๆ” ผมพยักหน้า เข้าใจในสภาพที่พวกเขาเผชิญ อยากชวนคุยต่อ

แต่ดูเหมือนจะมีก้อนสะอื้นในลำคอ ระหว่างผมกับแก มีเพียงกองไฟกั้นกลาง แต่ดูราวกับอยู่คนละโลก

ท่าทางเก้ๆ กังๆ ในการมวนยาเส้นของผม ทำให้ลุงลพอดไม่ได้ที่จะมวนและยื่นส่งให้ผม

ผมรับ มือกระทบกัน มือเหี่ยวย่นทำให้รู้ว่า เราไม่ได้อยู่คนละโลก

ผมกำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้น

กองไฟมอดดับ ทั้งสามเอนหลังบนผ้ายาง ผมผละมาขึ้นเปล

 

ผมสะดุ้งตื่น มีมือมาเขย่าเปล “คุณ ตื่นเถอะครับ สองคนนั่นหนีไปแล้ว” ลุงลพนั่นเอง

“ทำไมลุงไม่หนีล่ะครับ” ผมค่อนข้างผิดหวัง เพราะคาดว่าพวกเขาจะอาศัยความไม่ระวังอย่างจงใจของสมบุญแอบหนีไป

“ไม่หนีหรอก ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ยอมรับผิดก็ต้องหนีไปจนตาย” ลุงลพตอบเสียงดัง

แกกลับไปนั่งสูบยาข้างกองไฟ เงาที่ทอดไปเบื้องหลังดูใหญ่โตทะมึน ต่างจากร่างจริงที่บอบบาง

 

นัยน์ตาผมชื้น เป็นความชื้นที่ผมรู้ดีว่า ไม่ได้เกิดจากควันไฟ

ไม่ได้เป็นเพราะ “ควัน” เข้าตา แต่เป็นความชื้นที่ผมจำได้เสมอ

ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เป็นเรื่องราวที่ไม่เลือนหาย… จำได้ดี อีกทั้งมันบทเรียนที่ทำให้โลกแห่งความฝัน และโลกแห่งความจริงของผม แยกออกจากกัน •