ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 สิงหาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | The Gratitude Diary ขอบคุณที่ทำให้ชีวิตนี้มีความหมาย |
ผู้เขียน | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ |
เผยแพร่ |
1
Sawa Nao เป็นศิลปินพลาสติก
ตอนเด็กๆ เธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่ เพราะแม่ไม่ยอมรับเธอ
เธอจึงต้องตามใจแม่ทุกอย่าง เพราะไม่อยากทะเลาะกับแม่ และเก็บกดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ตลอด
ปมนี้กลายเป็นปมมัดแน่นมาจนถึงตอนโตที่เธอเป็นศิลปิน เพราะช่วงชีวิตหนึ่งของเธอ เธอกลายเป็นศิลปินที่ทำงานศิลปะเพื่อให้คนอื่นพอใจ ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเธอเองพอใจ
เธอรู้สึกว่าความสุขของเธอขึ้นอยู่กับ “การอนุมัติ” ของคนอื่น
ปมนี้ส่งผลกระทบไปถึงการขาดจินตนาการและความรู้สึกรักตัวเอง
Sawa พบว่าเธอไม่มีความสุขเลย
2
จุดเปลี่ยนในชีวิตของ Sawa คือการได้พบกับ Drag Queen ที่สอนให้รู้จักการแสดงออกถึงตัวตนที่ซ่อนอยู่ผ่าน “การแปลงร่าง”
ในตอนแรก Sawa รู้สึกเขินที่จะแต่งแดร็ก
แต่กลายเป็นว่าผู้คนกลับรู้สึกชื่นชมที่เธอแสดงออก
นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ว่า การได้เป็นตัวเอง การเปิดเผยความรู้สึกที่อยู่ข้างใน มันทำให้เธอรู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่จริงๆ เป็นครั้งแรก
ในที่สุดเธอก็หา “พื้นที่” ของตัวเองเจอ
3
เธอเอาประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในฐานะคนที่กลัวการเปิดเผยความรู้สึก มาผสมกับความเป็นศิลปิน และบวกกับการแต่งกาย
ออกมาเป็นเวิร์กช็อปที่ใช้เครื่องแต่งกายมาบ่งบอกสิ่งที่อยู่ในใจเรา
เป็นเวิร์กช็อปที่ช่วยให้เราค่อยๆ เปิดใจเป็นตัวเองผ่านการลงมือทำเสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่ว่านี้ไม่ได้อาศัยการตัดเย็บแบบมืออาชีพใดๆ แต่เป็นการนำยูรีเธนโฟมมา “เล่น” ให้กลายเป็นเสื้อผ้า
ทุกคนจะได้ปลดปล่อยจินตนาการ เปิดเผยความเป็นตัวเอง
อยากให้ชุดเป็นแบบไหนก็ทำขึ้นมาเอง ไม่มีผิด ไม่มีถูก ไม่ต้องรอการอนุมัติจากใคร จะกลายเป็นชุดพิสดารแค่ไหนก็ได้
“ไม่ต้องเพอร์เฟ็กต์ แค่เอาสิ่งที่อยู่ในใจออกมาและเป็นตัวเอง” เธอบอกในเวิร์คช็อป
4
ผู้เรียนในเวิร์กช็อปมีตั้งแต่พ่อแม่ เด็กๆ ไปจนถึงผู้บริหาร
เมื่อทำเสื้อผ้าตามจินตนาการเสร็จ ทุกคนมาใส่ชุดนั้นแล้วมานั่งล้อมวงรวมกัน
ทุกคนจะผลัดกันชื่นชมถึงชุดของแต่ละคน — ไม่ว่าจะออกมาประหลาดแค่ไหนก็ตาม
เป็นการบอกว่า เมื่อเธอเป็นตัวเอง ฉันก็ชื่นชมยินดีในสิ่งที่เธอเป็น
หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นที่สุด
นั่นคือทุกคนจะใส่ชุดที่ตัวเองทำกับมือ แล้วออกไปเดินบนถนนด้วยกัน
5
ในตอนแรกทุกคนจะรู้สึกอาย
แน่นอนมีสายตาที่มองมาด้วยความแปลกใจ
แต่ผู้เรียนกลับมาบอกว่า เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ต่อให้แต่งตัวประหลาดแค่ไหน แต่ชุดนี้คือชุดที่เราสร้างขึ้นมาเอง สะท้อนความเป็นตัวเราเอง
คนอื่นจะมองแบบไหนก็แล้วแต่ คงไม่สำคัญเท่าที่เรามองตัวเอง
เราไม่เหมือนใคร แต่นี่ไง เราคือเรา เราค้นพบแล้วว่านี่คือตัวตนของเรา
แล้วพาตัวเราออกมาให้โลกเห็น
นี่คือฉันจริงๆ ที่อยากให้โลกได้รู้จัก
6
หลังกลับมาที่เวิร์กช็อป ทุกคนพากันบอกว่า ชุดประหลาดๆ นี้ทำให้เขารู้สึกได้เป็นตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ
พอถึงจุดหนึ่ง ทุกคนต่างรู้สึกว่าไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นอีกแล้ว
ใครจะมองก็ช่าง แต่เราสนุกของเรา
“หลายคนรู้สึกว่าการแสดงออกทางอารมณ์เป็นเรื่องยาก สำหรับฉัน ฉันอยากให้เวิร์คช็อปนี้ช่วยทำให้ผู้คนได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในใจเขา” Sawa บอก
7
เวิร์กช็อปของ Sawa ทำให้ทุกคนกลายเป็น “ดีไซเนอร์”
เริ่มต้นจากการดีไซน์เสื้อผ้าที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง
แล้วจึงเป็น “ดีไซเนอร์ชีวิต”
คนที่ออกแบบชีวิตของตัวเองว่าฉันจะเป็นแบบไหน
นี่แหละตัวฉัน และฉันรักตัวเองที่เป็นแบบนี้
ไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ฉันรัก
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022