ไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์แบบ | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์https://www.facebook.com/toffybradshawwriter

1

Sawa Nao เป็นศิลปินพลาสติก

ตอนเด็กๆ เธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่ เพราะแม่ไม่ยอมรับเธอ

เธอจึงต้องตามใจแม่ทุกอย่าง เพราะไม่อยากทะเลาะกับแม่ และเก็บกดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ตลอด

ปมนี้กลายเป็นปมมัดแน่นมาจนถึงตอนโตที่เธอเป็นศิลปิน เพราะช่วงชีวิตหนึ่งของเธอ เธอกลายเป็นศิลปินที่ทำงานศิลปะเพื่อให้คนอื่นพอใจ ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเธอเองพอใจ

เธอรู้สึกว่าความสุขของเธอขึ้นอยู่กับ “การอนุมัติ” ของคนอื่น

ปมนี้ส่งผลกระทบไปถึงการขาดจินตนาการและความรู้สึกรักตัวเอง

Sawa พบว่าเธอไม่มีความสุขเลย

2

จุดเปลี่ยนในชีวิตของ Sawa คือการได้พบกับ Drag Queen ที่สอนให้รู้จักการแสดงออกถึงตัวตนที่ซ่อนอยู่ผ่าน “การแปลงร่าง”

ในตอนแรก Sawa รู้สึกเขินที่จะแต่งแดร็ก

แต่กลายเป็นว่าผู้คนกลับรู้สึกชื่นชมที่เธอแสดงออก

นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ว่า การได้เป็นตัวเอง การเปิดเผยความรู้สึกที่อยู่ข้างใน มันทำให้เธอรู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่จริงๆ เป็นครั้งแรก

ในที่สุดเธอก็หา “พื้นที่” ของตัวเองเจอ

3

เธอเอาประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในฐานะคนที่กลัวการเปิดเผยความรู้สึก มาผสมกับความเป็นศิลปิน และบวกกับการแต่งกาย

ออกมาเป็นเวิร์กช็อปที่ใช้เครื่องแต่งกายมาบ่งบอกสิ่งที่อยู่ในใจเรา

เป็นเวิร์กช็อปที่ช่วยให้เราค่อยๆ เปิดใจเป็นตัวเองผ่านการลงมือทำเสื้อผ้า

เสื้อผ้าที่ว่านี้ไม่ได้อาศัยการตัดเย็บแบบมืออาชีพใดๆ แต่เป็นการนำยูรีเธนโฟมมา “เล่น” ให้กลายเป็นเสื้อผ้า

ทุกคนจะได้ปลดปล่อยจินตนาการ เปิดเผยความเป็นตัวเอง

อยากให้ชุดเป็นแบบไหนก็ทำขึ้นมาเอง ไม่มีผิด ไม่มีถูก ไม่ต้องรอการอนุมัติจากใคร จะกลายเป็นชุดพิสดารแค่ไหนก็ได้

“ไม่ต้องเพอร์เฟ็กต์ แค่เอาสิ่งที่อยู่ในใจออกมาและเป็นตัวเอง” เธอบอกในเวิร์คช็อป

4

ผู้เรียนในเวิร์กช็อปมีตั้งแต่พ่อแม่ เด็กๆ ไปจนถึงผู้บริหาร

เมื่อทำเสื้อผ้าตามจินตนาการเสร็จ ทุกคนมาใส่ชุดนั้นแล้วมานั่งล้อมวงรวมกัน

ทุกคนจะผลัดกันชื่นชมถึงชุดของแต่ละคน — ไม่ว่าจะออกมาประหลาดแค่ไหนก็ตาม

เป็นการบอกว่า เมื่อเธอเป็นตัวเอง ฉันก็ชื่นชมยินดีในสิ่งที่เธอเป็น

หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นที่สุด

นั่นคือทุกคนจะใส่ชุดที่ตัวเองทำกับมือ แล้วออกไปเดินบนถนนด้วยกัน

5

ในตอนแรกทุกคนจะรู้สึกอาย

แน่นอนมีสายตาที่มองมาด้วยความแปลกใจ

แต่ผู้เรียนกลับมาบอกว่า เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

ต่อให้แต่งตัวประหลาดแค่ไหน แต่ชุดนี้คือชุดที่เราสร้างขึ้นมาเอง สะท้อนความเป็นตัวเราเอง

คนอื่นจะมองแบบไหนก็แล้วแต่ คงไม่สำคัญเท่าที่เรามองตัวเอง

เราไม่เหมือนใคร แต่นี่ไง เราคือเรา เราค้นพบแล้วว่านี่คือตัวตนของเรา

แล้วพาตัวเราออกมาให้โลกเห็น

นี่คือฉันจริงๆ ที่อยากให้โลกได้รู้จัก

6

หลังกลับมาที่เวิร์กช็อป ทุกคนพากันบอกว่า ชุดประหลาดๆ นี้ทำให้เขารู้สึกได้เป็นตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ

พอถึงจุดหนึ่ง ทุกคนต่างรู้สึกว่าไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นอีกแล้ว

ใครจะมองก็ช่าง แต่เราสนุกของเรา

“หลายคนรู้สึกว่าการแสดงออกทางอารมณ์เป็นเรื่องยาก สำหรับฉัน ฉันอยากให้เวิร์คช็อปนี้ช่วยทำให้ผู้คนได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในใจเขา” Sawa บอก

7

เวิร์กช็อปของ Sawa ทำให้ทุกคนกลายเป็น “ดีไซเนอร์”

เริ่มต้นจากการดีไซน์เสื้อผ้าที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง

แล้วจึงเป็น “ดีไซเนอร์ชีวิต”

คนที่ออกแบบชีวิตของตัวเองว่าฉันจะเป็นแบบไหน

นี่แหละตัวฉัน และฉันรักตัวเองที่เป็นแบบนี้

ไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ฉันรัก