หลังเลนส์ในดงลึก / “เหมาะสม”

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ

“เหมาะสม”

อยู่ในป่า แถบอำเภออุ้มผาง ผมเคยมี “คู่หู” เป็นชายหนุ่มอายุ 19 ปี มาจากบ้านแม่ละมุ้งคี ชื่อ วราผ่อ

เขาเป็นคนตั้งชื่อให้ผมว่า จอมู่โคว้หว่า

ซึ่งแปลว่า ฟ้าขาว และผมใช้ชื่อนี้มาตลอดระยะเวลาที่ทำงานอยู่ในป่าแถบนี้

ค่ำวันหนึ่ง ในแคมป์ข้างๆ เชิงเขาบนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร

หลังดวงอาทิตย์ลับสันเขา อากาศปลายฤดูหนาวเย็นยะเยือก

“ผมยังไม่เคยเห็นทะเล” วราผ่อ ชวนคุย

“จอมู่โคว้หว่า พาผมไปทะเลนะ ไปทางใต้ ให้สุดประเทศไทยเลย” ผมพยักหน้ารับคำ

“ไปเมื่อไหร่ดีครับ” น้ำเสียงวราผ่อกระตือรือร้น สีหน้าจริงจัง

“ให้เราเจอม้าพระเจ้าสักตัวก่อนนะ” ผมตอบ นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังตามหาสมเสร็จ หรือที่คนถิ่นนี้เรียกว่า ม้าพระเจ้า

“โห! เมื่อไหร่ก็ไม่รู้” วราผ่อพูดเสียงอ่อย

สำหรับวราผ่อ ทะเลดูจะเป็นความฝันอย่างหนึ่ง

คล้ายจะเป็นความฝันง่ายๆ

อีกนั่นแหละ บางครั้ง

กับบางคน ฝันง่ายๆ ก็ไม่เคยมาถึง

นอกจากวราผ่อ ในทีมมีผู้อาวุโสอีกคน เขาคือ หยี่หง่วย แสงอุดม อดีตผู้ใหญ่บ้านแม่จันทะ แต่คนส่วนใหญ่มักเรียกเขาว่า ผู้ใหญ่เหล่าเก๊า

เขาพาผมกับวราผ่อไปโป่งแห่งหนึ่ง

“ทุกๆ วันโกน ม้าพระเจ้าจะมาที่โป่งนั้น” เป็นเหตุผลที่เขาพาเราไป

“ก่อนวันพระจันทร์ 15 ค่ำ สัตว์ป่าจะมาที่โป่ง เพราะโป่งไม่มีเจ้าของ พวกมันจึงต้องมาแสดงความเป็นเจ้าของในวันโกน” เขาอธิบายเพิ่มเติม

สัตว์ป่าส่วนใหญ่มีเส้นทางเดินไปตามแหล่งอาหารเป็นวงรอบ

การย้อนกลับมาที่เดิมในช่วงเวลาเดิมๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก

“รู้จัก” สัตว์ป่า รู้จักลักษณะนิสัยของพวกมันอย่างถ่องแท้ เป็นเรื่องที่ดี

แต่การพูดถึงพวกมัน ด้วยความเชื่ออีกแบบหนึ่ง

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน

โป่งที่เหล่าเก๊าพาไป มีขนาดเล็ก กว้างราว 2 ตารางเมตร มีน้ำไหลรินๆ ใกล้ดงไผ่ ที่ดูแห้งแล้ง กรวดหินระเกะระกะ

“นี่ไง มีรอยม้าพระเจ้า มีรอยลูกมันด้วย” เหล่าเก๊านั่งลง ชี้ให้ผมดูรอย

รอยเก่า คงผ่านไปแล้วหลายวัน

ผมหวังว่าใกล้ถึงเวลาที่มันจะย้อนกลับมา

โป่งอยู่ใกล้ลำห้วยเล็กๆ และไม่ไกลจากลำห้วยสายใหญ่ มีร่องรอยสัตว์ป่ามาใช้ประจำ ด่านค่อนข้างกว้าง

ผมมองรอบๆ อากาศขมุกขมัว ตาแสบเพราะควันไฟ

เป็นเรื่องปกติ ซึ่งไฟจะลุกใหม้ช่วงฤดูแล้งในป่าบริเวณนี้

หมอกควันคละคลุ้ง ดวงอาทิตย์มองเห็นเพียงดวงส้มๆ

“ทำห้างบนต้นมะกอกนั่นได้” วราผ่อ ช่วยหาทำเล เพื่อผมจะได้เฝ้ารอ

วันรุ่งขึ้น เรากลับมาเพื่อทำห้าง

“ทิ้งไว้สักอาทิตย์หนึ่ง สัตว์จะได้ชิน” เหล่าเก๊าแนะนำ

เสียงและกลิ่นเราที่อยู่ที่นั่นนาน สัตว์ป่าสัมผัสได้

ไม่ประเมินความสามารถสัตว์ป่าต่ำ คือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งกับการทำงานของผม

ผมกับวราผ่อ ใช้เวลากว่าเดือนกับการตามหาม้าพระเจ้า กับเหล่าเก๊า

ตอนค่ำเรากลับมานอนที่บ้านไม้ไผ่ มุงหลังคาด้วยใบตองตึง

มีบ้านหลังใหญ่ พื้นและฝาเป็นไม้ มุงสังกะสี อยู่ติดกัน

“นั่นเป็นบ้านลูกสาว” อดีตผู้ใหญ่บอก

“ผมชอบแบบนี้” เขาหมายถึงบ้านแบบเดิม

เขามีเรื่องเล่ามากมาย ประสบการณ์ชีวิตโชกโชน

และพูดถึงโป่งใหญ่ ที่มีสัตว์ป่ามาใช้เยอะ

“แถวนี้ไม่ค่อยมีช้าง ทำซุ้มทิ้งไว้ได้” เหล่าเก๊าพูดพลางมวนยาเส้นด้วยใบกระโดนแห้ง จุดสูบพ่นควันโขมง

ผมเล่าให้เขาฟังถึงปัญหาที่โดนช้างรื้อซุ้มบังไพรบ่อยๆ

มีเสียงกระแอมดังๆ จากในครัว

เหล่าเก๊ารีบทิ้งยาเส้นที่ถืออยู่ “เมียไม่ชอบ” เขาพูด และลดเสียงลง

“ตอนชอบกัน เวลาไปไหน มวนบุหรี่ใส่ย่ามให้ แต่พอได้เราแล้ว เราสูบบุหรี่ก็ด่า”

วราผ่อหัวเราะ

ผมไม่ประหลาดใจ เพราะผู้ชายแถวนี้อยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะเก่งกล้า หรือโชกโชนเพียงใด

ในบ้าน เขาไม่ใช่คนที่ใหญ่ที่สุด

บางวันเขาใช้เรือหางยาวพาเราย้อนขึ้นไปตามแม่น้ำ

เช้ามืด สายหมอกบางปกคลุมผืนน้ำ

“สัก 2 ชั่วโมงก็จะถึงที่ เราจอดเรือและเดินต่อ”

การบังคับเรือผ่านแก่งหินในลำน้ำ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ทักษะและความชำนาญอย่างสูง

“เมียเขาว่าผมทะลึ่งจริงๆ เอาเรือขึ้นมาไม่มีใครทำหรอก”

เหล่าเก๊าตะโกนแข่งเสียงเรือ

ครั้งที่ได้เรือมาใหม่ๆ เขาเอาไปใช้ในที่ปกติใช้แต่แพไม้ไผ่

ริมฝั่งน้ำ ผมเห็นเพิงพักมีใบตองตึงที่เก็บมามัดรวมเป็นกองๆ

“เขาจะมาเก็บใบตองตึงไปเปลี่ยนหลังคาช่วงนี้แหละ ก่อนฝนมาตอนนั้นจะไม่มีเวลาด้วย เพราะต้องเริ่มทำนา” วราผ่อบอก

หลายครั้ง เรือปีนไปบนก้อนหิน เอียงจนเกือบคว่ำ

เหล่าเก๊าบังคับเรือ ใบหน้าเรียบเฉย มีรอยยิ้มที่มุมปาก

ผมมองหน้าเขา ในใจนึกถึงประโยคที่เมียเขาว่า

ทุกโป่งที่เขาพาไป มีร่องรอยของสมเสร็จ

พวกมันอาศัยอยู่ทั่วไปในป่าบริเวณนี้ แม้จะเป็นสัตว์ที่มีพื้นเพอยู่ทางตอนใต้ แต่สมเสร็จก็แพร่กระจายพันธุ์มาถึงที่นี่

ว่าตามจริง ด้วยงานศึกษาวิจัย รวมทั้งอุปกรณ์ และเทคโนโลยี ในวันนี้ทำให้คนรู้จักสัตว์ป่ามากขึ้น

กล้องดักถ่ายภาพ ทำให้เราได้มีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าหายาก และโอกาสพบเจอน้อยหรือแทบไม่มี ได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่เคยเห็น

เรามีภาพสัตว์ที่มีสถานภาพค่อนข้างลึกลับ เช่น สมเสร็จ

จากการใช้กล้องดักถ่ายภาพมากมาย

และก็พบว่า ในป่ามีสมเสร็จอาศัยอยู่เกือบทุกที่ โดยเฉพาะในป่าด้านตะวันตก

ความลึกลับและรูปร่างหน้าตา “ประหลาด” อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้สมเสร็จรอดพ้นจากการถูกไล่ล่าเพื่อเอาอวัยวะ

ไม่มีความเชื่อว่าอวัยวะสมเสร็จส่วนใดรักษาโรค หรือเพิ่มสมรรถนะร่างกาย นอกจากความเชื่อว่า ขี้ของมันนำมาต้มน้ำดื่ม แก้ปวดเมื่อย

กระนั้นก็เถอะ มีบางพื้นที่เชื่อว่า มันคือ “ตัวซวย” เมื่อเจอในป่า จะทำให้โชคไม่ดี

พวกมันรอดพ้นจากการถูกไล่ล่า

แต่ดูเหมือนการสูญเสียถิ่นอาศัยเช่นเดียวกับสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ

สถานะความเป็น “ม้าพระเจ้า” ก็คล้ายจะหลีกเลี่ยงไม่พ้น

ทุกคืน หลังกินข้าว

เหล่าเก๊าจะมานั่งคุย ถือโอกาสสูบยาเส้น

“ไปมาทั่วแล้วสิ” ค่ำหนึ่งเขาถาม

“ก็หลายที่ครับ” ผมตอบ

“ชอบที่ไหน” เขาถามสั้นๆ เหล่าเก๊าพูดภาษาไทยชัด เช่นเดียวกับวราผ่อ

ผมนิ่งไปสักพัก ก่อนตอบไม่ตรงคำถาม

“ทะเลไม่ชอบผม”

ทุกครั้งที่ทำงานอยู่แถวทะเล ผมจะพบอุบัติเหตุเสมอ ผมเล่าหลายเหตุการณ์ให้เขาฟัง

“บางคนก็ไม่เหมาะกับบางที่” เหล่าเก๊าพูดเบาๆ

“ต้องพาผมไปก่อนถึงจะรู้ว่า ผมเหมาะกับทะเลไหม” วราผ่อพูด

ผมพยักหน้ารับคำ

วราผ่อหัวเราะร่าเริง เขาแหย่ให้เหล่าเก๊าด่าได้บ่อยๆ

ผมมองหน้าคู่หู ชายหนุ่มวัย 19 ปี จากบ้านแม่ละมุ้งคี ผู้มีความฝันง่ายๆ

ไม่เพียงแต่ต้องยอมรับว่าบางความฝันจะมาไม่ถึง

คนก็จำเป็นต้องรู้ว่า

สถานที่ใดเหมาะสมกับตนเอง