ใส่บ่าแบกหาม พรพิมล ลิ่มเจริญ / A Man Called Ove

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

A Man Called Ove

เธอจ๊ะ

A Man Called Ove เป็นหนังสวีดิช

Ove เป็นชื่อคน อ่านว่า อู-เว แต่ดูมาจนจบเรื่องได้ฟังเขาเรียกชื่อนี้หลายครั้ง ฉันว่ามันเป็นเสียงสระแปลกๆ ฟังแล้วได้ว่าอยู่กลางระหว่าง อูเว่ และ อูเว่อ แต่ฉันเลือก อูเว่ แล้วกัน ฟังดูยูโรเปี้ยนดี อูเว่อ ฟังคล้ายแท็กซี่อูเบอ ไม่เป็นชื่อคน

หนังเรื่องนี้ดีนะ เป็นหนังชีวิต มีตลกด้วย หนังดีจนพี่ทอม แฮงก์ ซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตใหม่ และพี่ทอมจะแสดงเองด้วย

อูเว่เป็นชายแก่ขี้โมโห แกจะหงุดหงิดหนักก็ตอนที่สรรพสิ่งไม่เป็นไปตามใจแก

ภรรยาแกเพิ่งตายด้วยโรคมะเร็งไปเมื่อหกเดือนก่อนนี่เอง คุณอูเว่ก็เศร้าโศกไม่เลิกไม่รา ทุกวันแกจะซื้อดอกไม้ไปเยี่ยมภรรยาที่หลุมฝังศพ

เปิดฉากมาก็จะเห็นแกอยู่ที่ร้านดอกไม้ มีลูกค้ารอจ่ายเงินอยู่หน้าแคชเชียร์ 2 คน คือ ผู้หญิงคนหนึ่งกับคุณอูเว่ ช่วงระหว่างลังเลว่าใครจะจ่ายเงินก่อนดี คุณอูเว่ก็ประกาศก้อง

No, no, no, no.

This line starts behind me.

ไม่ ไม่ ไม่

ต่อแถวหลังจากผมไปเลย

นอกจากนั้นแล้วคุณอูเว่ยังได้โวยวายใส่พนักงาน ดอกไม้สองกำราคา 70 โครเนอร์ แต่ถ้ากำเดียว 50 โครเนอร์

I actually only want one bunch.

And unless I”m mistaken,

half of 70 is still no more than 35.

ผมอยากได้กำเดียว

ถ้าผมไม่ผิด

ครึ่งของ 70 ไม่มีทางเกิน 35 นะ

พนักงานพยายามอธิบาย ว่ามีคูปองไง ใช้คูปองจะได้ราคาพิเศษ

ลงท้าย คุณอูเว่เดินบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้งออกมาจากร้าน แต่ก็ซื้อมาด้วยแหละ ดอกไม้น่ะ

Two prices for one thing.

That”s totally insane!

ของชิ้นเดียวมีสองราคา

บ้าชัดๆ

ตอนเช้า คุณอูเว่จะเดินสำรวจตรวจตรารอบหมู่บ้านที่อยู่ คอยดูไม่ให้ใครเอารถเข้ามาขับที่ถนนในหมู่บ้าน ไปจนความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชนนั้น

หมู่บ้านแบบนี้ดีนะ เขาทำโรงรถแยกไว้ต่างหาก ใครมีรถก็เอาไปจอดในโรงรถของตนเอง มีประตูปิดมีล็อกมิดชิด ถนนในหมู่บ้านจึงดูสวยงามมีที่เดินเล่น เด็กๆ ออกมาเล่นได้ ไม่เป็นอันตราย

แต่ก็จะมีคนที่ทำผิด เอาหมาออกมาเดิน แล้วฉี่เรี่ยราด ให้คุณอูเว่ต้องคอยดุ เจ้าของหมาก็จะไม่ชอบใจในตัวคุณอูเว่เอามากๆ

That”s no dog. It looks more

like a hairy winter boot with eyes.

นั่นมันหมาเสียที่ไหน

เหมือนรองเท้าบู๊ตที่ใส่ตอนหน้าหนาว

แต่มีลูกตาเสียล่ะมาก

ว่าเจ้าของหมา แล้วพาลไปว่าหมาเขาอีก!

ส่วนที่ทำงานนั้นเล่า ผู้บริหารเรียกไปพบ เริ่มต้นที่ว่า…

You”re only 59 years old,

and you might want to do

something else in life?

คุณอายุ 59 ปีแล้ว

ชีวิตคุณอยากทำอะไรอย่างอื่นไหม?

คุณอูเว่จับทางได้เลย ว่าเขาจะไล่ออก ขี้เกียจฟังผู้บริหารเขาพร่ำรำพัน เลยตัดบทให้

Wouldn”t it be much simpler

if I just got up and walked out of here?

มันจะง่ายกว่านั้นไหม

ถ้าผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปเอง?

กลับมาบ้านคุณอูเว่ตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย ทุกครั้งที่แกเตรียมตัวตาย แกจะเปลี่ยนชุดเป็นสูทผูกเนกไทเรียบร้อย เชือกก็มีแล้ว ปีนเก้าอี้ขึ้นไป ยังไม่ทันถึงอึดใจ บรรยากาศสงบก็ถูกทำลาย ที่หน้าบ้านมีคนเสียงดังอยู่

Easy does it!

Come on. Yes. Careful!

ช้าๆ ค่อยๆ

มาๆ แล้ว ระวัง!

ที่ข้างบ้าน หลังติดกัน สามีกำลังถอยรถพ่วงเข้ามาจอด กำลังย้ายเข้ามาอยู่กันน่ะสิ

Easy does it. เป็นสำนวน หมายถึง ช้าๆ แบบระวังระไว

สามีดูท่าว่าถอยรถไม่เก่งเอามากๆ ภรรยาชาวเปอร์เซียนก็ดูทางให้ แต่ดูไม่เป็นผล

คุณอูเว่ออกไปดู เทศนาการถอยรถอยู่พักใหญ่ แล้วก็รำคาญหนักขึ้น เลยถอยให้ง่ายกว่า

Go and stand somewhere

where you”re not in the way.

ไปยืนที่อื่นที่ไม่เกะกะไป

เพื่อนบ้านคนใหม่ของคุณอูเว่ สามีชื่อแพทริก ภรรยาชาวเปอร์เซียนชื่อพาร์วาเน่

คุณอูเว่พยายามตายอีกหลายต่อหลายครั้ง มีเสียงเคาะประตู มีหนูน้อยข้างบ้านมาเกาะหน้าต่าง ไปจนถึงเชือกขาด หล่นตุ้บลงพื้น เดินไปด่าร้านขายเชือกดีกว่า

What kind of shit do you sell? Hey?!

ขายของเฮงซวยอะไรอย่างนี้? หา?!

ตลกดี แกเอาเชือกขาดไปโยนคืนที่ร้าน คนขายถามว่าเอาไปทำอะไรมาเชือกถึงขาด แกก็หันหลังใส่เดินกลับควันออกหู

คุณอูเว่เลยเปลี่ยนวิธีการฆ่าตัวตายใหม่หลายที แต่ก็มีคนมาขัดจังหวะทุกทีไป

ช่วงที่เกือบได้ตาย หนังเขาก็ใช้ช่วงนั้นนำเสนอว่าคุณอูเว่รำลึกถึงช่วงเวลาสมัยก่อน ก็มีตั้งแต่สมัยเด็กๆ คุณอูเว่กับพ่อ พ่อก็มาตาย คุณอูเว่กับภรรยา คุณอูเว่กับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ประสบอุบัติเหตุ ต้องนั่งรถเข็น คุณอูเว่ต้องช่วยภรรยาต่อสู้ฟันฝ่าชีวิต จนได้เป็นครูสอนหนังสือในที่สุดสมดังหวังและตั้งใจ

หนังเขามีชั้นเชิงในการนำเสนอ น่าชื่นชม

ชอบที่คุณอูเว่แกอยากอยู่เงียบๆ คนเดียวจนกว่าจะได้ตายสมใจ แต่ผู้คนก็มีเหตุมาให้ต้องเข้าหาคุณอูเว่อยู่ร่ำไป ข้างบ้านมาฝากเลี้ยงลูกให้หน่อย มารบกวนให้ขับรถพาไปโรงพยาบาลที วัยรุ่นมาตามจักรยานที่ถูกริบไปคืน กับเพื่อนเก่าแก่ที่ไม่โอภาปราศัยนานแล้ว ภรรยามาตามไปดูท่อน้ำให้ที ฯลฯ

If what they say is true, that fate is

the sum total of our own stupidity, then I think

what altered my fate was a result

of the stupidity of my neighbors.

ถ้าที่เขาว่ากันมันจริงนะ

ว่าโชคชะตาเป็นผลรวมของความโง่เขลาของเรา

สิ่งที่มาเปลี่ยนโชคชะตาผมคือ

ผลแห่งความโง่เขลาของเหล่าเพื่อนบ้านผม

แกเลยไม่ได้ตายเสียที มีแต่คนเต็มไปหมด ชีวิตที่แกพยายามทำให้เปล่าว่าง กลับมีผู้คนมาเติมเต็ม ยิ่งพยายามทำให้ว่าง มันก็ยิ่งเต็ม โดยที่แกไม่รู้ตัว

สนุกดีนะ ไม่ได้ดูกันบ่อยๆ หนังสวีดิชเนี่ย เพลงประกอบก็ไพเราะงดงาม ภาพก็สวย ดูแล้วชื่นใจ ไพล่ให้นึกถึงตนเอง แก่ไปแล้วทำอะไรดี แบบหาหนทางตายเองแบบนี้ไม่เอาอ่ะ ฉันกลัว

ฉันเอง