ธาริต-99 ศพ-ต้นเหตุรัฐประหาร | วงค์ ตาวัน

วงค์ ตาวัน

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพิ่งเดินเข้าเรือนจำ โดยศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฟ้องร้องนายธาริตและอีก 3 พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เนื่องจากการไปแจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ว่าเป็นผู้สั่งการในเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปี 2553 จนมีคนตาย 99 ศพ

โดยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพฟ้องร้องว่า นายธาริตและพนักงานสอบสวน มีเจตนากลั่นแกล้งให้คนทั้งสองได้รับโทษทางอาญา

ศาลชั้นต้นยกฟ้องนายธาริตกับพวก ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุกจำเลย 4 คน และสุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกนายธาริต 2 ปี

ก่อนวันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา นายธาริตได้แถลงข่าวต่อเนื่อง 2 วัน เปิดโปงเบื้องหลังเหตุการณ์ 99 ศพในหลายประเด็น รวมทั้งยังชี้ให้เห็นว่า คนตาย 99 ศพ ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายธาริตระบุว่า ก่อนการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ได้มีนายทหารใหญ่เรียกไปพบ พูดจาข่มขู่ว่า ธาริต อย่าดำเนินคดีเรื่อง 99 ศพ ถ้าไม่ฟังกัน พวกอั๊วปฏิวัติ และลื้อจะโดนย้ายคนแรก 9 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการพูดความจริงชัดเจนว่า ปฏิวัติเพราะอะไร พูดเรื่องจำนำข้าวบ้าง จริงหรือเปล่า พูดเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยบ้าง จริงหรือเปล่า

โดยนายธาริตยืนยันว่า คดี 99 ศพ เป็นเหตุสำคัญที่นำมาสู่การรัฐประหารดังกล่าว

สอดคล้องกับหลายฝ่ายที่วิเคราะห์เอาไว้ว่า การล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์และยึดอำนาจเมื่อปี 2557 นั้น เหตุผลประหารหนึ่งคือ ต้องการหยุดคดี 99 ศพ

เพราะนักการเมืองและผู้นำทหาร ในเหตุการณ์สลายม็อบเสื้อแดงจนตาย 99 ศพนั้น ตัวละครทั้งหมดเกี่ยวพันกับการก่อม็อบชัตดาวน์อันเป็นการปูทางไปสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ทั้งนักการเมืองและผู้นำทหาร เป็นชุดเดียวกัน

นอกจากการแถลงของนายธาริตจะเปิดโปงให้เห็นว่า คดี 99 ศพ ซึ่งมีพยานหลักฐานมากมายเห็นว่าใครยิง ใครทำให้ประชาชนตาย ใครทำให้เสื้อแดงตาย แต่ไม่สามารถดำเนินคดีกับคนสั่งการได้ เพราะการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 มีเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งคือ การหยุดคดีนี้ให้ได้

ขณะเดียวกัน นายธาริตยังแถลงให้เห็นว่า ตนเองและทีมพนักงานสอบสวนถูกฟ้องร้องจากนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ทำให้มีผลกระทบไปถึงคดีคนตาย 99 ศพ ซึ่งยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ยังไม่มีคนสั่งยิง ยังไม่มีคนยิง ถูกดำเนินคดีเลย

ประเด็นนี้ทำให้คนในสังคมได้เปรียบเทียบเห็นชัดว่า

เหตุการณ์สลายม็อบเสื้อแดง ระหว่างวันที่ 10 เมษายน ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 อันเป็นเหตุให้เสื้อแดงล้มตายกลางเมืองร่วมร้อยศพนั้น แม้จะเต็มไปด้วยพยานหลักฐาน ภาพนิ่ง ภาคเคลื่อนไหว เห็นนาทีลั่นไก เห็นนาทีเสื้อแดงล้มตาย

แต่กลับยังไม่มีคนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธ ต้องโดนดำเนินคดีเลยแม้แต่รายเดียว

ในทางกลับกัน ฝ่ายเสื้อแดงที่ถูกล้อมฆ่า โดนดำเนินคดีหลายต่อหลายราย ระดับแกนนำเสื้อแดงโดนข้อหาก่อการร้าย โดนข้อหาร้ายแรงสารพัด ติดคุกกันมาหลายรอบ ฝ่ายมวลชนผู้ชุมนุมก็โดนข้อหาเผาห้างเซ็นทรัล โดนข้อหาเป็นชายชุดดำยิงเจ้าหน้าที่

และสุดท้าย อดีตอธิบดีดีเอสไอและพนักงานสอบสวน ซึ่งทำหน้าที่ค้นหาความจริงและดำเนินคดีกับฝ่ายที่ทำให้คนตาย กลับต้องโดนดำเนินคดี และวันนี้นายธาริตต้องเข้าคุก!

 

นอกจากพยานหลักฐานมากมาย โดยช่างภาพสื่อมวลชน ที่ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ เห็นเจ้าหน้าที่ทหารลักษณะหน่วยซุ่มยิง ลงมือยิงอย่างโจ่งแจ้ง มีเจ้าหน้าที่ทหารคนส่องกล้องทำหน้าที่ชี้เป้า มีพลซุ่มยิงคอยลั่นไก

ที่ชัดเจนเป็นหลักฐานสำคัญอีกประการคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่รักษาการณ์บนตึกสูงภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดในวัดปทุมวนารามอย่างชัดเจน และถ่ายวิดีโอเอาไว้เห็นนาทีลั่นไกยิง

โดยในเย็นวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมพื้นที่ราชประสงค์ไว้ได้หมด สลายการชุมนุมจบสิ้น และแกนนำเสื้อแดงเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดนส่งตัวไปคุมขังหมดแล้ว

แต่ยังคงมีผู้ชุมนุมนับพัน ที่เข้าไปพักพิงอยู่ภายในวัดปทุมวนาราม เนื่องจากมีการประกาศเป็นเขตอภัยทาน เอาไว้ให้ผู้ชุมนุมที่เจ็บป่วยและสตรีกับเด็กเข้ามาพักพิง ครั้นเมื่อม็อบถูกสลาย ผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดจำนวนหนึ่งซึ่งยังขวัญเสีย ได้เข้ามาหลบภัยภายในวัดด้วย

ทำให้ ศอฉ.และเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่ไว้วางใจผู้ชุมนุมที่เข้าไปอยู่ภายในวัดปทุมวนาราม จึงจัดเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งมาตรึงอยู่บนรางรถไฟฟ้าบริเวณหน้าวัด และอีกชุดอยู่พื้นราบหน้าวัด

ต่อมามีการเล็งปืนและลั่นไกลงไปภายในวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟฟ้าที่ลงมือยิงนั้น มีกล้องวิดีโอของตำรวจบันทึกภาพเอาไว้ตลอด กลายเป็นหลักฐานสำคัญอีกชิ้นที่นำไปใช้ในการพิสูจน์พยานหลักฐานขั้นตอนไต่สวนชันสูตรพลิกศพ

และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นพยาน ได้ให้การประเด็นสำคัญคือ ภาพจากวิดีโอเห็นได้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟฟ้ายืนเล็งยิงเข้าไปภายในวัด โดยไม่ได้ก้มหลบอะไรเลย นั่นแปลว่า เป็นการลงมือยิงฝ่ายเดียว ไม่มีการยิงต่อสู้จากคนภายในวัด

พยานหลักฐานเหตุการณ์วัดปทุมวนาราม ที่มีคนภายในวัดถูกยิงตาย 6 ศพ ต่อมาศาลได้มีคำสั่งผลการไต่สวนชันสูตรศพว่า ผู้ตายถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟฟ้าและยิงจากพื้นราบหน้าวัด อีกทั้งไม่มีชายชุดดำยิงต่อสู้กับทหารแต่อย่างใด

นอกจากศาลได้ชี้ผลการไต่สวนชันสูตรศพ 6 ศพวัดปทุมวนารามว่า ตายด้วยปืนทหารแล้ว ยังมีอีก 11 ศพ ที่ศาลได้ชี้ผลการไต่สวนชันสูตรศพทำนองเดียวกัน

 

จากสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ที่ศาลชี้แล้ว 17 ศพนี้เอง ที่ดีเอสไอได้นำไปเป็นสำนวนคดีอาญา เพื่อฟ้องร้องนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ในฐานะผู้ควบคุมศูนย์ ศอฉ. แต่ลงเอยทั้งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพต่อสู้ในประเด็นข้อกฎหมายว่า การฟ้องร้องกล่าวหาคนทั้งสองนั้น ไม่สามารถฟ้องเป็นคดีอาญาได้ ต้องไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ก่อน เพราะเป็นการกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ทำให้ศาลอาญาตีตกไป

สุดท้ายการฟ้องร้องเอาผิดกับผู้สั่งการและฝ่ายที่ทำให้คนตาย 99 ศพ จึงยังไม่เป็นคดี ยังไม่สามารถนำขึ้นพิสูจน์ในศาลได้

แต่ต่อมานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพได้ฟ้องนายธาริตกลับพวก ข้อหาทำคดีเพื่อจงใจกลั่นแกล้ง และสุดท้ายนายธาริตต้องเข้าคุก

นี่จึงเป็นคำถามว่า เหตุใดฝ่ายถูกฆ่า 99 ศพ จึงยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ยังไม่มีการพิสูจน์คดีในชั้นศาล

เป็นคำถามว่า ฝ่ายหนึ่งยังไม่เคยมีใครต้องโดนคดี แต่ฝ่ายม็อบถูกดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่คนค้นหาความจริงตามกฎหมายถูกดำเนินคดีอีกด้วย

คดี 99 ศพ จึงเป็นคดีที่สะท้อนความจริงของสังคมไทย ความแตกต่างระหว่างฝ่ายมีอำนาจ กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ระดับกลาง รวมทั้งประชาชน

กระนั้นก็ตาม แม้นายธาริตจะต้องสิ้นอิสรภาพ แต่อย่างน้อยถ้อยแถลงก็ได้เปิดโปงความจริงอันสำคัญ

ประการหนึ่งคือ เบื้องหลังการรัฐประหาร มีเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งคือการหยุดคดี 99 ศพ

อีกประการหนึ่ง คนตาย 99 ศพ ยังไม่เคยได้รับความเป็นธรรม ยังไม่สามารถนำคดีขึ้นพิสูจน์ความจริงในศาลได้!