ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 กรกฎาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
ดูเหมือนโลกเราตอนนี้กำลังเผชิญกับ “ความร้อน” ที่ทำลายสถิติร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยข้อมูลจากศูนย์คาดการณ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา โลกทำสถิติร้อนสุดเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 17.23 องศาเซลเซียส จากที่ก่อนหน้านี้ อยู่ที่ 17.18 องศาเซลเซียส
ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงขึ้นทั่วโลก และคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุม ทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีน รวมไปถึงในยุโรป ที่กำลังกลายเป็นทวีปที่เผชิญกับภาวะโลกร้อนเร็วที่สุด และคาดกันว่า ปีนี้ยุโรปอาจจะทำลายสถิติร้อนที่สุดอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ยุโรปเองก็เผชิญกับสภาวะอากาศที่ร้อนจัดอย่างมาก และมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากอากาศร้อนจัดเพิ่มสูงขึ้น
จากการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันสาธารณสุขโลก บาร์เซโลนา ที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ เมดิซีน พบว่า เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับความร้อนในยุโรป มากถึง 61,672 ราย ช่วงระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 4 กันยายนของปี 2022
อิตาลีเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากความร้อนที่เกิดขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับความร้อนมากถึง 18,000 ราย ตามด้วยสเปนที่เสียชีวิตกว่า 11,000 ราย และเยอรมนี 8,000 ราย
นักวิจัยพบว่า ความร้อนที่รุนแรงนั้นเป็นอันตรายต่อกลุ่มผู้สูงอายุและผู้หญิง โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลการเสียชีวิตจากความร้อนทั้งหมดเกือบ 62,000 ราย พบว่า มีผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย ขณะที่อายุก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป เสียชีวิตจากความร้อนเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยผู้เสียชีวิตเหล่านี้ มีอยู่จำนวนไม่มาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากฮีตสโตรก หรือโรคลมแดด แต่ส่วนใหญ่อากาศที่ร้อนจัดจะคร่าชีวิตผู้คนด้วยการทำให้ร่างกายหยุดรับมือกับปัญหาสุขภาพที่มีอยู่ อย่างเช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับปอด
ผู้ช่วยศาตราจารย์ โจน บอลเลสเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะแวดล้อมและสาธารณสุข แห่งสถาบันสาธารณสุขโลก บาร์เซโลนา ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยครั้งนี้ บอกว่า จริงๆ แล้วมีคนที่เสียชีวิตอีกจำนวนมาก แต่ไม่ได้ถูกนำมาคำนวณเอาไว้ตามสูตรที่ใช้ เนื่องจากจะคิดเฉพาะคนที่ความร้อนเป็นต้นตอทำให้เสียชีวิต
ที่ผ่านมา ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานทางสถิติของยุโรป ได้พยายามที่จะระบุจำนวนผู้ที่เสียชีวิตเนื่องจากคลื่นความร้อนเมื่อปีที่ผ่านมา โดยการนับจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากเกินไป หรือดูว่ามีคนที่เสียชีวิตมากขึ้นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับช่วงฤดูร้อนปกติ
แต่สำหรับการศึกษาของบอลเลสเตอร์ ถือเป็นการวิเคราะห์เจาะเข้าไปว่า ฤดูร้อนปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตกี่คนที่เกิดขึ้นจาก “ความร้อน” เท่านั้น ด้วยการวิเคราะห์จากอุณหภูมิ และข้อมูลการเสียชีวิตของผู้คนระหว่างปี 2015 กับปี 2022 ใน 35 ประเทศของยุโรป
ผลการศึกษายังพบด้วยว่า ในทุกสัปดาห์ของช่วงฤดูร้อนปี 2022 อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในยุโรปสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเมื่อ 30 ปีก่อน และช่วงที่มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากความร้อนมากที่สุด คือระหว่างวันที่ 18-24 กรกฎาคม 2022 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากถึง 11,637 ราย
ยุโรปกลายเป็นทวีปที่มีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบสองเท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิทั่วโลก
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอันเกี่ยวเนื่องกับความร้อนในปี 2022 ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนี้ เป็นเพราะสภาพอากาศที่ผิดปกติ ความร้อนที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างปัจจุบันกับอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะทางตอนใต้ของยุโรป ที่ถือว่าร้อนกว่าตอนเหนือของยุโรป
สำหรับปีนี้ ยุโรปเองก็เผชิญกับคลื่นความร้อนที่ผิดปกติมาตั้งแต่ต้นปี โดยเมื่อช่วงเดือนมกราคม ที่อากาศจะต้องหนาวเย็น แต่ฤดูหนาวของยุโรปปีนี้กลับมีอุณหภูมิที่ร้อนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหิมะที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนในหลายประเทศ
ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาบางคนเรียกว่า เป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุโรป และระบุว่า อากาศที่ร้อนผิดปกตินี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
แน่นอนว่า ที่สุดแล้ว ต้นตอปัญหาจริงๆ ก็คือมนุษย์นี่เอง!!
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022