คอร์ตหญ้าวิมเบิลดัน

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

คอร์ตหญ้าวิมเบิลดัน

 

การแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน 2023 แกรนด์สแลมรายการที่ 3 ของปี เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม จะไปสิ้นสุดวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม

เทนนิสอาชีพปีนี้ทั้งปี มีการแข่งขันบนคอร์ตหญ้าเพียง 8 รายการ

สาเหตุที่มีการแข่งขันเทนนิสอาชีพบนคอร์ตหญ้าน้อย เพราะคอร์ตหญ้าดูแลรักษายากกว่าคอร์ตทุกชนิด

อย่างคอร์ตที่ใช้แข่งเทนนิสวิมเบิลดันต้องใช้เวลาเตรียมการถึง 1 ปี

 

สนามเทนนิสวิมเบิลดัน มีพื้นที่รวมกว่า 100 ไร่ รองรับผู้ชมได้วันละ 38,500 คน

โดยแบ่งเป็นคอร์ตแข่งขัน 18 คอร์ต, คอร์ตหญ้าสำหรับซ้อม 22 คอร์ต, คอร์ตดิน 8 คอร์ต, คอร์ตในร่ม 5 คอร์ต และคอร์ตหญ้าเทียม 2 คอร์ต รวมทั้งสิ้น 55 คอร์ต

ตลอดทั้งปีจะมีสมาชิกสโมสรและผู้เล่นที่ได้รับการสนับสนุนจากลอว์นเทนนิสสมาคม (Lawn Tennis Association) เข้าไปใช้คอร์ตต่างๆ ที่ไม่ใช่ 18 คอร์ตที่ใช้แข่งวิมเบิลดัน

เซ็นเตอร์คอร์ต (Centre Court) ซึ่งเป็นคอร์ตในฝันของทั้งคนเล่นและคนดู มีต้นหญ้าบนพื้นสนามประมาณ 54 ล้านต้น

เซ็นเตอร์คอร์ต เป็นคอร์ตที่ใช้สำหรับการแข่งขันแมตช์ที่มีนักเทนนิสชื่อดังลงแข่งและแมตช์รอบชิงชนะเลิศ

 

ในช่วงการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันอากาศที่ลอนดอนเริ่มร้อน พื้นคอร์ตจะแห้ง

พอย่างเข้าสัปดาห์ที่สองซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการแข่งขัน หญ้าที่บริเวณท้ายคอร์ตถูกเหยียบย่ำมากที่สุดจะชอกช้ำแหว่งเป็นหย่อมๆ

ดังนั้น การตัดหญ้าให้อยู่ได้นาน ทนทานต่อการแข่งขันต้องมีเทคนิค

ซึ่งจากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ปี 1995 พบว่าการตัดหญ้าให้สูง 8 มิลลิเมตรจากพื้นสนามจะทำให้หญ้าอยู่ได้นานขึ้น

สำหรับการบำรุงรักษาคอร์ตเทนนิสที่วิมเบิลดัน ในแต่ละปีจะใช้เมล็ดพันธุ์หญ้าสำหรับปลูกบนคอร์ตถึง 9 ตัน และตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา วิมเบิลดันได้เปลี่ยนมาใช้หญ้าเพเร็นเนียล ไรย์กราส (Perennial Ryegrass) ซึ่งเป็นหญ้าพันธุ์เดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่บราซิล เพื่อเพิ่มความทนทานให้สนามหญ้า ทำให้ทนต่อความเสียหายจากแรงเหยียบย่ำของนักเทนนิสได้ดีเยี่ยม

จากการค้นคว้าของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยสนามหญ้าของกีฬาในเมืองยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ พบว่าเปลี่ยนมาใช้หญ้าเพเร็นเนียล ไรย์กราส ทั้งหมด 100% จากที่เมื่อก่อนใช้เพียง 70% เปอร์เซ็นต์ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างความทนทานให้กับพื้นคอร์ตโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วของลูกเทนนิสซึ่งโดยทั่วไปผลกระทบจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของพื้นดินตามกาลเวลาและสภาพอากาศช่วงก่อนและระหว่างการแข่งขัน

 

โดยในสภาพอากาศที่หนาว ชื้น ลูกเทนนิสจะหนักและหน่วง

ในทางตรงกันข้ามลูกเทนนิสจะเบาและไวในสภาพอากาศที่ร้อน แห้ง

ที่น่าสนใจก็คือ การที่ลูกเทนนิสจะเด้งมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของดิน ไม่ใช่หญ้า ซึ่งในช่วงการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันทั้ง 14 วันนั้นดินต้องมีความแข็งและแห้ง

ดังนั้น ในช่วงที่มีการแข่งขัน จะมีการตรวจสอบสภาพสนาม รวมถึงการปรับแต่งหน้าดิน และตัดหญ้าทุกวัน

ในช่วงการแข่งขันวิมเบิลดัน ทีมดูแลคอร์ตจะตัดหญ้าทุกวัน โดยตัดหญ้ามีความสูง 8 มิลลิเมตร ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้

เรื่องการรดน้ำ ทีมดูแลจะรดน้ำทุกวันตอนกลางคืน แต่จะไม่รดจนเปียกชุ่ม รดน้ำในปริมาณที่พอให้หญ้าไม่ตาย เพื่อดินบนคอร์ตจะได้แห้งและแข็ง

เมื่อการแข่งขันวิมเบิลดันจบลง ทีมงานจะไม่ดูแลคอร์ตอย่างละเอียดใกล้ชิดขนาดนี้

โดยหลังแข่งเสร็จ จนถึงเดือนสิงหาคม จะตัดหญ้าบนคอร์ตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และจะรดน้ำเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้หญ้าไม่ตาย

 

งานดูแลคอร์ตเทนนิสประเภทคอร์ตหญ้า ใช้เงิน ใช้คน ใช้ความรู้ และใช้เวลาเยอะมาก ดังนั้น โลกนี้จึงมีสนามเทนนิสคอร์ตหญ้าน้อยกว่าคอร์ตประเภทอื่น

อย่างในเมืองไทย เท่าที่ทราบ มีที่ราชกรีฑาสโมสร และสนามเทนนิสในบ้านของคนชอบตีเทนนิสที่มีเงินเยอะ สร้างไว้เล่นกับเพื่อนตอนเย็นๆ

ใครที่เล่นเทนนิสแบบชอบเทนนิสจริงๆ ถ้าโอกาสได้เล่นเทนนิสบนคอร์ตหญ้าผ่านเข้ามาในเส้นทางชีวิต

จะโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม…

ขอแนะนำให้คว้าเอาไว้

เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าของคนเล่นกีฬาจริงๆ ครับ