โศกนาฏกรรมเรือดำน้ำ ‘ไททัน’ ในวันที่ไปไม่ถึง ‘ไททานิก’

กลายเป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมช็อกโลก สำหรับเหตุเรือดำน้ำไททัน ของบริษัทโอเชียนเกต ที่ลงไปสำรวจซากเรือไททานิก ใต้ท้องทะเลลึก มหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศแคนาดา ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน แต่เกิดระเบิดก่อนลงไปถึงจุดที่เรือไททานิกอยู่ จนทำให้ผู้โดยสาร 5 คนในเรือดำน้ำไททัน เสียชีวิตทั้งหมด

ทั้งนี้ หลังจากเรือดำน้ำไททันขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันแรกของการลงไปใต้มหาสมุทรเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ หลังจากนั้นก็เริ่มมีปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ออกซิเจนในเรือดำน้ำจะหมด

กระทั่งวันที่ 23 มิถุนายน ก็มีรายงานพบซากชิ้นส่วนของเรือดำน้ำไททัน ทั้งกรวยหางเรือดำน้ำ แท่นลงจอด และชิ้นส่วนของช่องหน้าต่างด้านหน้าของเรือดำน้ำ

โดยข้อสันนิษฐานเรื่องการเสียชีวิตของทั้ง 5 คน แม้ว่าจะยังไม่พบร่าง เนื่องจากซากของชิ้นส่วนเรือดำน้ำไททัน ทำให้สามารถสันนิษฐานได้ว่า เรือได้เกิดระเบิดขึ้นจากการถูกบีบอัดอย่างรุนแรงเฉียบพลัน ภายในเสี้ยววินาที และทำให้ผู้โดยสารทั้ง 5 คนเสียชีวิตทั้งหมดในทันที

อีกทั้งไม่สามารถบอกได้ว่า จะสามารถพบร่างผู้เสียชีวิตได้หรือไม่

 

สําหรับเรือดำน้ำไททัน เป็นยานรูปทรงกระบอก สร้างขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นยานใต้น้ำแบบ ROV ยาว 6.7 เมตร น้ำหนักประมาณ 9,071 กิโลกรัม มีพื้นที่ว่างสำหรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง และมีห้องน้ำ 1 ห้อง

ทั้งนี้ ผู้โดยสารทั้ง 5 คนบนเรือ ประกอบไปด้วย สต็อกตัน รัช อายุ 61 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท โอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชัน เจ้าของเรือดำน้ำ และเป็นผู้ให้บริการนำเที่ยวชมซากไททานิก, ฮามิช ฮาร์ดิง อายุ 58 ปี นักธุรกิจพันล้านและนักสำรวจชาวอังกฤษ และประธานบริษัทด้านอากาศยาน แอ๊กชั่น เอวิเอชั่น, ปอล อองรี นาโชเลต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสวัย 77 ปี ผู้ที่ลงไปสำรวจซากเรือไททานิกมาแล้วหลายสิบครั้ง, ชาห์ซาดา ดาวูด อายุ 48 ปี นักธุรกิจชาวปากีสถาน และลูกชายของดาวูด คือ สุเลมาน อายุ 19 ปี

โดยผู้โดยสารของเรือดำน้ำไททันแต่ละคน จะต้องเสียเงินค่าบริการคนละ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.7 ล้านบาท สำหรับการเดินทางสำรวจเรือไททานิก ที่กินเวลารวม 8 วัน เพื่อลงไปดูซากเรือไททานิก ที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกที่ความลึก 3,800 เมตร

ซึ่งหากคำนวณจากเวลาที่ขาดการติดต่อของเรือดำน้ำไททัน ที่สัญญาณหายไปหลังลงไปใต้น้ำเพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตอนนั้นเรือดำน้ำน่าจะอยู่ลึกลงไปใต้มหาสมุทรที่ความลึกประมาณ 3,000 เมตร

 

ตอนนี้ อยู่ในช่วงปฏิบัติการค้นหาซากเรือดำน้ำไททันและร่างผู้เสียชีวิต มีการใช้ทั้งเครื่องบิน เรือ และหุ่นยนต์สำรวจใต้ทะเลลึก ซึ่งมีหลายประเทศเข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ ตั้งแต่หน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งของสหรัฐ แคนาดา ในฐานะเจ้าของสถานที่ และฝรั่งเศส รวมทั้งสหราชอาณาจักร ที่ร่วมมือกันปฏิบัติการค้นหา และสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรือดำน้ำไททัน

โดยหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งของสหรัฐ จะเป็นผู้นำในการสอบสวนโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหาว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรือดำน้ำไททันเกิดระเบิด

ร้อยเอกเจสัน นูบาวเออร์ เป็นหัวหน้าทีมในการสอบสวนเหตุการณ์เรือดำน้ำไททัน ไม่ได้เปิดเผยถึงไทม์ไลน์ของการสอบสวนว่าเป็นอย่างไร บอกแต่เพียงว่า รายงานสุดท้าย จะถูกส่งไปยังองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (ไอเอ็มโอ)

แต่เป้าหมายแรกของร้อยเอกนูบาวเออร์ คือการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ด้วยการจัดทำคำแนะนำที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือทั่วโลก

 

ทั้งนี้ ได้มีการประเมินค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการกู้ภัยครั้งนี้ว่า เฉพาะสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว ประเมินว่าอาจจะต้องใช้เงินราว 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 42.2 ล้านบาท

ยังไม่นับรวมประเทศอื่นๆ ที่ยื่นมือเข้าช่วยด้วย ที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกัน

ตอนนี้สิ่งที่ทีมค้นหาทำคือ นำชิ้นส่วนของเรือดำน้ำไททันขึ้นมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อมาตรวจสอบดูถึงสาเหตุที่แท้จริงของการระเบิดของเรือดำน้ำไททัน ที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเกี่ยวเนื่องกับเรือสำราญไททานิก ที่จมไปเมื่อ 111 ปี พร้อมกับชีวิตนับพัน

ก่อนที่เรือดำน้ำไททันจะระเบิดไปพร้อมกับ 5 ชีวิตในเรือ!!