ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | อัญเจียแขฺมร์ |
เผยแพร่ |
ในที่สุด ฉันก็เริ่มสงสัยว่า อะไรกันแน่? ระหว่างข่าวสารการเมืองไทยกับกัมพูชาที่เป็นปัญหาต่อภาวะ “บนปากเหว” ในจิตใจของฉัน?
โดยเหตุที่นอกจากยากจะเข้าใจแล้ว มันยังเต็มไปด้วยความพิสดารจนค่อยๆ ก่อเป็นมลพิษต่อฉันด้านจิตใจ เว่อร์ไหม?
แต่ฉันขอบอกว่า คนไทยจำนวนมากต่างสร้างภูมิคุ้มกันตนเองจากการคุมคามด้วยโรคการเมือง ซึ่งว่าไปก็ช่างเป็นขนบการเมืองอันแปลกและหาได้ยากมากในประเทศอื่นทั้งหมด ต่อกรณีที่พรรคชนะเลือกตั้งและรอการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ต้องเผชิญหน้าข้อกล่าวหาในความผิดจากกรณีต่างๆ
แต่เมื่อย้อนดูการเลือกตั้งกัมพูชาที่ครั้งนี้มีลูกชายคนโตเป็นแคนดิเดต
ก็ยิ่ง…เต็มไปด้วยความพิสดารไปอีก!

ทุกวันนี้ การสื่อสารกระแสใหม่ที่ท่วมบ่าไปด้วยการตีข่าวสารนานา ทั้งในแบบเปิดเผยและปิดบัง นับวันดูเหมือนเครือข่ายเรื่องราวฉาวโฉ่เหล่านี้ กระตุ้นความอยากรู้ในผู้คนชนิดนาทีต่อนาทีแบบเรียลไทม์
แต่ที่กัมพูชา นาฬิกาของที่นั่นดูจะเดินช้ากว่าที่อื่นในระดับหนึ่ง รวมทั้งวิถีการสื่อสารแบบใหม่ๆ อาทิ สมาคมอิลลูมินาติ หรือเหล่าปัจเจกชนผู้รอบรู้แต่ลึกลับเรื่องด้านมืดซึ่งเรียกกันยุคนี้ว่า “นาตาชา?” อันแล้วแต่จะเรียกขาน
แต่ไม่ว่าไทม์ไลน์ของเวลาเหล่านั้นจะหมุนช้าลงเพียงใด ในความจริงแล้ว ขนบของวิถีโลกเก่าไม่ว่าจะสายศาสตร์สาขาใด มันถูกร่นไล่เข้ามาอย่างกระชั้น
แต่นั่นแหละ หากนี่คือสิ่งที่เรียกว่า การ-Disruption หรือ “สิ้นสุดทางเดิน” ของขนบใดๆ
แต่มันกลับเข้าสู่ “วง” ไทม์ไลน์ที่แปลกมากของการเมืองเขมรที่ ‘สิ้นสุดทางเดิน’ นั่น
เราเห็นการ “ย้อนเวลา” ของนาฬิกาเขมรที่นำไปสู่ขนบการเมืองเดิมแบบระบอบพรรคเดียวหรือระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ที่คุ้นเคยมายาวนาน
ด้านหนึ่ง เราจึงได้เห็นภาพตื่นตะลึงที่ชวนให้ตื่นเต้นและคาดคะเนสิ่งที่ยังมาไม่ถึงในรูปแบบต่างๆ ของการเมืองแบบจัดตั้งที่เน้นกำราบฝ่ายตรงข้ามซึ่งกระบวนการย้อนทวนนาฬิกาเหล่านี้ ถ้าไม่มีผู้นาตาชาเป็นผู้ช่วยแวดวงสื่อกัมพูชาที่ขาดความเสรีลงทุกวัน
บางสื่อเหล่านั้น จึงหันไปคุยกับนาตาชา แทนการสัมภาษณ์คนของพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) แม้ว่า “นาตาชากัมพูชา” ที่ไม่ยอมจำนนบางคนจะกลายเป็นผู้ลี้ภัยและหมิ่นเหม่เรื่องเฉียดตาย
ซึ่งเมื่อฟังนาทีต่อนาทีในเรียลไทม์เหล่านี้ มันได้เผยให้เห็นถึงความฉ้อฉลในแบบเดียวกันเด๊ะ! ที่เกิดขึ้นในไทย
ตั้งแต่ขบวนการค้ามนุษย์ ยาเสพติด การฟอกเงินหยวนเป็นดอลลาร์ของทุนจีนสีเทา ตั้งแต่การค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดนถึงเขตเมืองกัมพูชาเกือบทั้งหมด!
ขบวนการนี้จะธำรงสถาพรต่อไป ตราบใดที่ระบอบฮุนเซนยังชนะเลือกตั้ง และเบ็ดเสร็จยิ่งกว่าอดีตนั้น หากระบอบฮุนเซนสามารถเดินหน้าสืบเอาทายาทตนขึ้นเป็นผู้นำประเทศคนต่อไป
ซึ่งคำสรรพแสงที่ฟังคล้ายๆ “ไทยแลนด์โอนลี่” หรือ “กัมปูเจียปนเนาะ” วลีคลุมเครือในความหมายแต่คุ้นๆ อยู่ในหมู่พลเมือง 2 ประเทศนี้ที่ต่างต้อง “ต่อสู้” กับระบอบรัฐอำนาจที่ประหลาดในพลวัตการปกครอง โดยเฉพาะกัมพูชา ที่ล่วงมาเกือบจะ 40 ปี!
นับวันก็ยิ่งจะคล้ายกับเกาหลีเหนือ!
มองผ่านสายตาแบบ “ชูวิทย์-เขมร” หรือ “นาตาชา” บางราย ไม่ต่างกับการเปิดหน้าสู้กับระบอบอำนาจรัฐ ที่สกัดกั้นการทำงานของสื่ออิสระ แต่บัดนี้ สาบานได้! วงการข่าวเขมรกำลังพัฒนาไปไกลกว่าขีปนาวุธอย่าง BM21 ที่สมเด็จฮุน เซน คุ้นเคย!
เพราะมันได้ฝ่าแนวรับทะลุเข้าไปใกล้สุดของตระกูลฮุนที่คนภายนอกยากจะเข้าถึง ซึ่งมีแต่ “นาตาชา” แห่งวงลับข่าวฉาว Scandal เท่านั้นจะทำเรื่องพวกนี้ได้
ดังนั้น เมื่อเรื่องลับๆ พวกนี้ถูกนำมาสตรีมมิ่งไลฟ์สดบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างนั้น จึงสู้กันอย่างฟาดฟัน
โดยสื่อเขมรบางสำนักนั้น ถึงกับมุดลงไปใช้ช่อง “ยูทูบคิดส์” ด้วยซ้ำ โดยหวังหลบเลี่ยงเสี่ยงภัยจากระบอบฮุนเซน-และพวกเขาทำได้ เมื่อผู้ติดตามนับวันจะมากขึ้น
จินตนาการไม่ถูกเลยล่ะว่า “สมรภูมิการเปิดโปง” ปัญหาทมๆ ของกัมพูชา โดยเฉพาะ “ด้านมืด” ของว่าที่แคนดิเดตตัวแทนการเมืองของบิดาอย่างฮุน มาแนต และฮุน มานี ที่มีประวัติโชกโชนไม่น้อย
อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งซึ่งวันนี้กลายเป็นนาตาชา เขามีนามว่า นายมอม อัสนี ได้ออกมาแฉแก่สื่ออย่าง “เดอะแคมโบเดียเดลี่/TM” ราวกับการไต่สวนของตำรวจหรือผู้พิพากษา และเราไม่เคยเห็นมาก่อนในบทสัมภาษณ์แบบนี้ที่เขมร
ก่อนหน้าจะหนีไปต่างประเทศนั้น มอม อัสนี ถูกกล่าวหาว่าเป็นชนละเมิดกฎหมายจากหลักฐานมากมายที่มัดตัว
แต่อัสนีกลับแฉว่า เขาต่างหากที่ถูกกระทำจากคนของรัฐ ทั้งการคลุมถุงดำรัดศีรษะจนเกือบขาดอากาศหายใจ และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ เพื่อสร้างหลักฐานเท็จเพื่อแบล๊กเมล์ตนเอง
อัสนีชี้ไปที่บองทมคนนั้นที่คุกคามตนเองว่า คือ “ฮุนตู้จ” หรือนายน้อย ซึ่งเผยว่า นี่คือฉายาในวงการของฮุน มาแนต
พลัน เรื่องลับๆ ของนายรองแห่งบองทมคนใหม่ ก็เผยด้านมืดที่การเดินตามรอยบิดาของฮุน มาแนต นั้น มีกฎข้อหนึ่งที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยง นั่นคือ เรื่องลึกเร้นในหมู่พี่น้องตระกูลฮุนที่ต่างคนต่างมี ซึ่งแต่ละฝ่ายนั้น ใช่ว่าจะเพิกเฉยในการสร้างโปรไฟล์เพื่อชิงมรดกของบิดา นั่นคือตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง!
ซึ่งคนหนึ่งคือลูกพ่อ, ส่วนมานี-ลูกแม่ แต่ฮุน มาแนต เป็นฝ่ายชนะไปแล้วยกแรก!
แต่ศึกระหว่าง 2 พี่น้องที่น่าสนใจนี้ กลับเป็นเรื่องลับๆ ระหว่างพี่น้องในแวดวงชู้รักไฮโซ-ทหาร ที่กลับซ้ำรอยอดีตของบิดาอย่างน่าประหลาด ซึ่งสตรีเหล่านี้ กล่าวกันว่า พวกเธอมีความสัมพันธ์กับ พล.อ.ฮุน มาแนต และฮุน มานี
โดยในบรรดาชู้รักบางราย ได้นำไปสู่อุบัติเหตุความตายทั้งที่ทำอัตวินิบาตกรรมชิงฆ่าตัวตายจริง และแบบที่เกิดขึ้นอย่างมีเงื่อนงำ
และนั่นหรือไม่ที่ทำให้ 2 พี่น้องฮุนภายหลัง ต่างหันมาแฉกันเอง?
มองมุมกลับ บิดานายกฯ สมเด็จฮุน เซน ในอดีตก็เคยลักลอบมีชู้กับอดีตนางรำนักแสดง พิสิต พิลิกา จนเป็นเหตุให้เธอถูกสังหาร ลือกันว่า ผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งตายคือภรรยาบุน รานีฮุนเซน และนั่นคือ ปมอดีต 24 ปีก่อนที่หลอกหลอนผู้นำกัมพูชา ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นผู้นำคติชีวิตแบบผัวเดียวเมียเดียว
แต่ความอื้อฉาวของลูกชายทั้งสอง ดูเหมือนจะถูกปิดบังไว้ได้อย่างมิดชิดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่บิดาเชิดชู ที่สะท้อนให้เห็นว่า ทั้งมาแนตและมานี ต่างแข่งขันเหลี่ยมคูการเมืองกันแบบนัยที เพื่อให้บิดายอมรับ
ซึ่งมอม อัสนี ยืนยันโดยกล่าวหาว่านายน้อย “ฮุนตู้จ-มาแนต” นั้นได้ชื่อว่า มือหนึ่งในบรรดาความฉาวโฉ่ (ที่ไม่อื้อฉาว) ของพี่น้องทั้งหมด
น่าตกใจมาก!
“จริงๆ ฮุน มานี มีพื้นฐานะทุกอย่างในมือด้านความพร้อมที่จะแข่งขันกับพี่ชาย ประสบการณ์ที่เป็น ส.ส.ก่อนฮุน มาแนต การคุมสหพันธ์สัมพันธ์เยาวชนกัมพูชา (สสยก) ที่ใช้เป็นต้นทางสร้างความนิยมเชิงวัฒนธรรมในหมู่คนรุ่นใหม่ และนี่คือข้อได้เปรียบของฮุน มานี”
นอกจากนี้ เขายังมีที่ปรึกษาคือ นายยึม ไชลี ซึ่งเป็นพ่อตาของตัวเอง นี่คือรองนายกรัฐมนตรีหลายสมัยในพรรคซีพีพี เมื่อเทียบกับพ่อตาของฮุน มาแนต นอกจากนี้ ยึม ไชลี ยังมีความทะเยอทะยานด้านการลงทุนการเมืองที่คร่ำหวอดและทรงอิทธิพลคนหนึ่ง
และไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมฮุน เซน จะไม่รู้ว่าลูกชายคนเล็กอยากเป็นนายกฯ?
ดังนี้ ข่าวลือเรื่องโหวตสรรหาแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคซีพีพีรอบก่อนมีความชะงักงัน ซึ่งข่าวลือภายนอกชี้ไปที่สมเด็จเตีย บันห์ ในบางสถานการณ์ “เลือดอาจข้นน้อยกว่าน้ำ?”
สมเด็จฮุน เซน นั้น ทราบดีว่าตนมีคลื่นใต้น้ำ ซึ่งว่าไปแล้วในฮุน มาแนต ก็เป็นจุดอ่อนของตนและว่าด้วยศึกสายเลือด?
นั่นหรือไม่ ที่จนบัดนี้จะเลือกตั้งอยู่รอมร่อ
แต่ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ฮุน มาแนต ยังคงแขวนลอยต่อไปอย่างไม่มีคำตอบ!



สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022