แอสเตอริกซ์ : ความลับของน้ำยาวิเศษ

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

แอสเตอริกซ์ : ความลับของน้ำยาวิเศษ

Asterix : The Secret of the Magic Potion

 

ครั้งที่แล้วเล่าเรื่อง หนูน้อยนิโคลาส โดยผู้สร้างคือ เรเน่ กอสซินนี่ (1926-1977) และฌอง ฌาก เซมเป้ (1932-2022)

เรเน่ กอสซินนี่ มีงานเขียนที่มีชื่อเสียงมากมาย เป็นหน้าเป็นตาและสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส ที่เป็นระดับเดียวกับแต๋งแต๋งผจญภัยของเบลเยี่ยมคือหนังสือการ์ตูนชุด Asterix (The Adventures of Asterix) ซึ่งมีมากกว่า 30 เล่ม แปลมากกว่าร้อยภาษา ขายหลายร้อยล้านเล่มทั่วโลก

มีการสร้างหนังการ์ตูนแอสเตอริกซ์อยู่ 10 เรื่อง กับหนังคนแสดงอีก 5 เรื่อง หนังทีวีอีกต่างหาก

หนังเรื่องที่มีชื่อเสียงและทำรายได้มากในฝรั่งเศสคือ Asterix & Obelix: Mission Cleopatra และ Asterix & Obelix vs Caesar (ได้คริสเตียน เคลเวียร์ กับเจอราร์ด เดอปาริเย รับบทแอสเตอริกซ์และโอเบลิกซ์ตามลำดับ)

ส่วนหนังการ์ตูนที่สร้างล่าสุดคือตอน แอสเตอริกซ์กับความลับของน้ำยาวิเศษ ซึ่งสร้างเป็นการ์ตูนซีจีแอนิเมชั่น ฝีมือกำกับฯ ของ Alexandre Astier และ Louis Clichy ออกฉายเมื่อปี 2018 ได้คริสเตียน เคลเวียร์ มาพากย์เสียงแอสเตอริกซ์เป็นครั้งแรก

หนังสือการ์ตูนชุดนี้เล่าเรื่องชุมชนชาวกอล (Gaul) แห่งหนึ่งที่แข็งขืนยืนหยัดต่อสู้จูเลียส ซีซาร์ กับจักรวรรดิโรมันไม่เลิกรา คือเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนคริสตกาลซึ่งเป็นเวลาที่ชนเผ่ากอลแพ้สงครามกับโรมันไปแล้ว พวกเขาที่เหลือเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แต่มีอาวุธสำคัญคือน้ำยาวิเศษที่พ่อมดเกตาฟิกซ์ (Getafix) คิดค้นขึ้น

เป็นน้ำยาที่ชาวบ้านใช้ดื่มกินเพื่อเพิ่มพลังมหาศาล จะได้สู้กองทัพโรมันที่ดาหน้าเข้ามาอย่างสนุกสนาน

เรื่องชื่อพ่อมดเกตาฟิกซ์นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นความฝรั่งเศสของวรรณกรรมชุดนี้ ชื่อของเขาในต้นฉบับคือ Panoramix ซึ่งสู้กันนานมากกว่าจะได้ชื่อในฉบับแปลอังกฤษ แล้วสุดท้ายทั่วโลกก็รู้จักพ่อมดเครายาวรายนี้ในนามเกตาฟิกซ์มากกว่าในที่สุด (อ่านประวัติผู้แปล Anthea Bell และ Derek Hockridge น่าสนใจมาก)

มีงานวิจารณ์เขียนว่าการ์ตูนแอสเตอริกซ์และชาวกอลสู้โรมันนี้เป็นตัวแทนของชุมชนทั่วโลกที่ต่อสู้จักรวรรดินิยมอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านแสนยานุภาพหรือพลังของเทคโนโลยีสมัยใหม่

จะมีหลายบทหลายตอนที่แอสเตอริกซ์และชาวบ้านได้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการต่อสู้ ใช้วิถีชุมชนในการต่อต้าน แม้กระทั่งใช้ปรัชญาชาวบ้านในการแทรกซึม แต่ทั้งหมดนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าทำสำเร็จก็เพราะมีน้ำยาวิเศษหนุนหลังด้วย

เป็นที่ถกเถียงได้อีกว่าน้ำยาวิเศษมิใช่สูตรเคมีแต่เป็นไสยศาสตร์อันเป็นมรดกตกทอดของชาวบ้านอยู่ดี หนังการ์ตูนตอนล่าสุดแอสเตอริกซ์กับความลับของน้ำยาวิเศษได้แสดงให้เห็นความจริงข้อนี้

หนังเริ่มเรื่องด้วยพ่อมดเกตาฟิกซ์ตกต้นไม้ขาหัก เขาคิดถึงความไม่เป็นอมตะของตัวเองและออกเดินทางค้นหาผู้สืบทอดเพื่อที่เขาจะได้ถ่ายทอดวิธีปรุงน้ำยาวิเศษให้ แอสเตอริกซ์ค้านหัวชนฝาด้วยเกรงจะเป็นจุดจบของหมู่บ้านหากความลับนี้ตกในมือศัตรู เลี่ยงไม่ได้ที่แอสเตอริกซ์และสหายคู่หูโอเบลิกซ์ (Obelix) ต้องออกเดินทางคุ้มกัน

โอเบลิกซ์เป็นตัวการ์ตูนไซด์คิกที่ดึงดูดนักอ่านมาก เขาตกลงไปในหม้อน้ำยาวิเศษตั้งแต่เป็นทารกแล้วรอดชีวิตจึงมีพละกำลังมหาศาลในสายเลือด เป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่ไม่จำเป็นต้องเติมพลังน้ำยาวิเศษเป็นครั้งๆ

ก่อนสู้โรมัน เกตาฟิกซ์ห้ามเขากินน้ำยาวิเศษอีกด้วยซ้ำเพราะเกรงจะเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง จะเห็นว่าตำนานซูเปอร์ฮีโร่มีมานานแล้วตั้งแต่ก่อนคริสตกาล อุบัติเหตุเกิดกับใครบางคนแล้วใครบางคนนั้นก็เหนือมนุษย์ ความเหนือมนุษย์นั่นเองที่เป็นอันตราย

แต่เพราะโอเบลิกซ์เป็นคนซื่อและภักดีต่อหมู่บ้านอย่างซื่อๆ จึงนำมาซึ่งพลังที่ไร้เทียมทานกว่าสิ่งใด

เรื่องความซื่อของชาวบ้านเป็นอาวุธหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องไร้เดียงสาเรื่องหนึ่งของการ์ตูนชุดนี้ ดังที่เรารู้เห็นกันว่าทุนและอำนาจทำลายชุมชนทั่วโลกไปแล้วมากเพียงใด

เกตาฟิกซ์ แอสเตอริกซ์ และโอเบลิกซ์ กับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งออกเดินทางค้นหาผู้สืบทอด หัวหน้าหมู่บ้านคือไวทอลสตาติสติกซ์ (Vitalstatistix) ออกเดินทางไปด้วย ทิ้งลูกบ้านส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่โยงเฝ้าหมู่บ้านร่วมกับคาโคโฟนิกซ์ (Cacofonix) ตัวละครสำคัญอีกคนหนึ่ง

ตัวการ์ตูนอย่างไวทอลสตาติสติกซ์นี้เป็นตัวแทนของประชาธิปไตยที่เราเห็นแม้ว่าจะขาดๆ เกินๆ และชุลมุนวุ่นวายอยู่เสมอๆ

เรามิได้เห็นเพียงฉากต่อสู้หรือแก๊กตลกทั่วไป ชาวกอลมิได้เป็นเพียงนักสู้แต่เป็นนักดื่มด้วย พวกเขาสู้ไปฉลองไปอยู่เรื่อยๆ (fight & feast) เราจะได้เห็นการทุ่มเถียงกันเอาเป็นเอาตายกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้อารมณ์เสียอยู่เสมอๆ

ข่าวพ่อมดชาวกอลต้องการหาผู้สืบทอดล่วงรู้ถึงจูเลียส ซีซาร์ พ่อมดชั่วร้าย เดมอนนิกซ์ (Demonix) ซึ่งมีชื่อฝรั่งเศสว่า Sulfurix สมคบคิดโรมันส่งศิษย์เอกของตัวไปเข้าตาพ่อมดเกตาฟิกซ์เพื่อล่อลวง

ในขณะเดียวกันทัพโรมันก็เคลื่อนพลประชิดหมู่บ้านที่มีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่กับน้ำยาวิเศษที่เหลืออยู่จำนวนจำกัด ดูเหมือนชาวกอลจะถึงอวสานก็ครานี้ ด้านหนึ่งสูตรลับกำลังจะถูกช่วงชิง อีกด้านหนึ่งฐานที่มั่นกำลังจะถูกทำลาย

แอสเตอริกซ์กับพวกพ้องก็ไม่ค่อยอยู่กับที่ หลายเล่มของหนังสือชุดนี้เป็นการผจญภัยไปในดินแดนอื่นๆ ของยุโรปอยู่แล้วและได้พบบุคคลสำคัญร่วมสมัย (หรือเปล่า) เป็นครั้งๆ เช่น คลีโอพัตรา (ฉบับคนแสดงจริงรับบทโดยโมนิกา เบลูซี่ เลยทีเดียว) สปาร์ตาคัส (ซึ่งลายเส้นเข้าใกล้เคิร์ก ดักลาส) ซิกมันด์ ฟรอยด์ (ซึ่งมีชื่อว่า Psychoanalytix) จะเห็นว่าการ์ตูนทำได้ทุกอย่าง

เรเน่ กอสซินนี่ เขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 1959 เขียนรูปโดย Albert Uderzo จนกระทั่งกอสซินนี่ถึงแก่กรรมเมื่อปี 1977 หลังจากนั้นอูเดอร์โซรับเขียนเรื่องต่อมาจนถึงปี 2009 (รวม 34 เล่ม) เมื่ออูเดอร์โซถึงแก่กรรมในปี 2020 ยังมีหนังสือเล่มใหม่โดยทีมใหม่ออกมาอีก (เล่ม 35-39) มีการแปลไปมากกว่าร้อยภาษาทั่วโลก แต่น่าแปลกใจที่ไทยไม่แปล

สำหรับเรื่อง Asterix : The Secret of the Magic Potion นี้เขียนขึ้นใหม่เพื่อสร้างหนังโดยเฉพาะ ไม่มีปรากฏในรายชื่อหนังสือ 39 เล่มที่ตีพิมพ์ไปแล้ว! •

 

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์