ชีวิตของ ‘ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี’ เจ้าพ่อสื่อ-นักการเมือง-เรื่องอื้อฉาว

(Photo by Filippo MONTEFORTE / AFP)

ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะอายุ 86 ปี หลังล้มป่วยลงด้วยโรคลูคิเมีย หลังเพิ่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองมิลาน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา

แบร์ลุสโคนี ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจอยู่ในแวดวงการเมืองมายาวนาน

แถมยังเป็นนักการเมืองที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวมามากมาย

อีกทั้งยังเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐี ที่เป็นเจ้าของบริษัทสื่อที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี “ฟินอินเวสต์” อีกด้วย

 

แบร์ลุสโคนีเกิดเมื่อปี ค.ศ.1936 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นลูกชายของนายธนาคารและแม่ที่ทำหน้าที่แม่บ้าน

โดยแบร์ลุสโคนีนั้นได้ชื่อว่าเป็น “เอ็นเตอร์เทนเนอร์” มาตั้งแต่เด็ก เพราะมีพรสวรรค์ในการสร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้อื่น เมื่อโตขึ้นก็เริ่มเข้าสู่แวดวงด้านการก่อสร้าง ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนร่ำรวยขึ้นมา

ก่อนจะไปซื้อลิขสิทธิ์รายการโทรทัศน์หลายรายการจากสหรัฐที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเริ่มทำธุรกิจสถานีโทรทัศน์เคเบิล ก่อนจะขยายเป็นสถานีโทรทัศน์ คานาเล ชิงเก เคเบิลทีวีเอกชนแห่งแรก และยังได้ซื้อกิจการสถานีโทรทัศน์อิตาเลีย อูโน และสถานีโทรทัศน์ เรเต กวาโตร รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์ลาซังก์ของฝรั่งเศส เทเลฟุนฟ์ ของเยอรมนี และเทเลซิงโก ของสเปน

นอกจากจะมีสถานีโทรทัศน์แล้ว ก็ยังมีนิตยสาร และหนังสือพิมพ์อยู่ในครอบครอง

แถมยังเคยเป็นเจ้าของสโมสร “เอซีมิลาน” สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของอิตาลี อยู่นานถึง 31 ปี ก่อนที่จะขายไปเมื่อปี 2017

 

ในปี 1993 แบร์ลุสโคนีจึงได้เริ่มเข้าสู่แวดวงการเมือง ด้วยการตั้งพรรคฟอร์ซา อิตาลี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีแนวคิดสายกลาง-ขวา ขึ้นมา และได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีถึง 4 สมัย จนได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลีหลังยุคสงครามที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

ด้วยความที่มีสื่ออยู่ในมือ รวมถึงสถานะการเงินอันมั่งคั่ง แบร์ลุสโคนีจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างเต็มที่ เพื่อทำให้สถานะนักการเมืองของเขาอยู่ยืดยาวนาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะสร้างความจงรักภักดีให้เกิดขึ้น

แต่ความจริงคือ มันได้สร้างความชิงชังเกิดขึ้น เพราะข่าวสารที่ถูกป้อนเข้าไปมีแต่ด้านบวกของแบร์ลุสโคนี!

ก่อนที่ยุครุ่งเรืองของแบร์ลุสโคนีจะสิ้นสุดลงในปี 2011 เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวทางเพศมากมาย และวิกฤตการเงินในประเทศ

แบร์ลุสโคนีถือว่าต้องเจอกับเรื่องอื้อฉาวมากมาย ทั้งเรื่องการหนีภาษี และการมีเซ็กซ์กับเด็กหญิง โดยในปี 2013 เขาถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงภาษี ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี และห้ามดำรงตำแหน่งสาธารณะ 2 ปี แต่ได้รับการยกเว้นจากโทษจำคุก และให้รับโทษด้วยการทำงานบริการชุมชนแทน

เมื่อพ้นช่วงคำสั่งห้ามดำรงตำแหน่งสาธารณะ แบร์ลุสโคนีก็กลับสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง

นอกจากนี้ แบร์ลุสโคนียังเจอคดีซื้อบริการทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี และแม้ว่าศาลอุทธรณ์จะตัดสินยกคำร้อง ทำให้ไม่ต้องรับโทษจำคุก 7 ปี แต่เขาก็ต้องรับการไต่สวนกรณีจ่ายเงินปิดปากให้กับผู้หญิงหลายคน

นอกเหนือจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ แล้ว แบร์ลุสโคนียังเคยไปทำศัลยกรรมพลาสติกใบหน้า และปลูกผมใหม่ด้วย

 

แบร์ลุสโคนีมักจะพูดติดตลกอยู่บ่อยๆ ว่า เขาจะมีอายุถึง 120 ปี อย่างเช่นเมื่อตอนอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 84 ตอนถูกถามว่า เมื่อไหร่จะวางมือจากการเมือง และแต่งตั้งทายาททางการเมือง

แบร์ลุสโคนีบอกไว้ว่า “มันไม่ง่ายเลยนะที่จะหาอัจฉริยะที่เหมือนผม แต่คงยังไม่ต้องรีบ เพราะผมจะอยู่ถึงอายุ 120”!!

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แบร์ลุสโคนีตรวจพบว่าเป็นลูคิเมีย และถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2023 สิ้นสุดตำนานผู้นำอิตาลีผู้อื้อฉาวที่สุดคนหนึ่งของประเทศ