ปรากฏการณ์ ‘ก้าวไกล’ | หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ทุกคนเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอย

คำว่า “แลนด์สไลด์” หรือได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งหรือ 250 คน เป็นเป้าหมายของ “เพื่อไทย”

และเริ่มขยับเป็น 310 คนในเวลาต่อมา

สอดรับกับผลโพลที่คะแนนนิยมของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคก้าวไกลตามมาอันดับที่ 2

…แบบห่างๆ

พรรคเพื่อไทยโดดเด่นมากจากการจัดปราศรัยใหญ่ในจังหวัดต่างๆ ผู้คนเต็มพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน

แต่พรรคก้าวไกลกลับคึกคักในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะติ๊กต็อก

ผู้สมัครตัดคลิปสั้นๆ การหาเสียงลงในติ๊กต็อก

และมีคลิปจาก “หัวคะแนนธรรมชาติ” เต็มไปหมด

เรียกได้ว่าถ้าในโซเชียลมีเดีย พรรคก้าวไกลล้อมไว้หมดแล้ว

วันนั้น คนส่วนใหญ่ยังประเมินว่าพรรคก้าวไกลมีกระแสแต่ในโซเชียล

ไม่ใช่คะแนนจริง

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ “มติชน-เดลินิวส์โพล” ที่ให้พรรคก้าวไกลเป็นอันดับ 1 ทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ

และ “พิธา” ได้รับความนิยมสูงที่สุด

ตามมาด้วยการปราศรัยใน กทม.ที่สามย่านมิตรทาวน์ของพรรคก้าวไกล

“สามย่าน” แตก

ภาพของคนหนุ่มสาววิ่งไปจองที่นั่ง และปริมาณคนที่ล้นออกมาริมถนน

กระแสก้าวไกลที่เคยถูกมองว่าได้รับความนิยมในโซเชียลเริ่มปรากฏตัวให้เห็นเป็นตัวเป็นๆ

พร้อมกับความเชื่อจากผลโพลว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง

จากนั้นก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งพรรคก้าวไกลได้

ตอนแรกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะมองว่าพรรคก้าวไกลคงได้รับความนิยมจากคนหนุ่มสาว และคนในเมืองกรุง

อย่างดีก็ขยายไประดับแค่หัวเมืองใหญ่ที่มีมหาวิทยาลัย

ผมก็คิดแบบนั้น

เพราะในอดีตกลุ่มก้าวหน้าของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เคยส่งผู้สมัครลงแข่งสนามการเมืองท้องถิ่น

แพ้ราบคาบเลยครับ

กระแสก็จุดไม่ขึ้น และเจอกระสุนในช่วงท้ายอีก

การเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ก็คงไม่แตกต่างจากครั้งอื่นๆ พรรคก้าวไกลไม่มีทางจะสู้ระบบอุปถัมภ์ของบ้านใหญ่ และกระสุนในช่วงโค้งสุดท้ายได้

ต่อให้ผลโพลจะดีแค่ไหน แต่นักวิเคราะห์ทุกคนเชื่อกันว่าคะแนนจริงๆ จะได้ต่ำกว่าโพล

ขนาด ผอ.นิด้าโพล ให้สัมภาษณ์สื่อก็ยังให้ตัวเลข ส.ส.ที่พรรคก้าวไกลได้ต่ำกว่าตัวเลขในโพล

เพราะเชื่อว่าไม่น่าจะทานกระสุนในช่วงโค้งสุดท้ายได้

ส่วนใหญ่จะประเมินว่าพรรคก้าวไกลจะได้ ส.ส.อยู่ในระดับ 40-70 คน

“กระแส” ก็คือ “กระแส”

ไม่มีจริงหรอก

ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง พรรคก้าวไกลปรับแผนการหาเสียงใหม่ ด้วยการจัดคาราวานหาเสียงแยกกันเป็นสาย

จากภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ มุ่งตรงเข้า กทม.ก่อนวันปราศรัยใหญ่

ทุกเวทีปราศรัยมีคนมาฟังปราศรัยเยอะมาก

ที่สำคัญเป็นพลังบริสุทธิ์ ไม่ต้องขนมาฟังเหมือนพรรคการเมืองอื่น

ภูเก็ตแตก เชียงใหม่แตก เชียงรายแตก ขอนแก่นแตก ชลบุรีแตก นนทบุรีแตก สมุทรปราการแตก ฯลฯ

ผมนั่งดูคลิปการปราศรัยของพรรคก้าวไกลด้วยความตื่นตาตื่นใจ

กระแสแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน

ไม่ใช่แค่ปริมาณคน แต่ความรู้สึกร่วมของคนฟังก็เห็นชัดว่าแตกต่างจากเวทีของพรรคการเมืองอื่นๆ

เพราะตั้งใจฟังอย่างจริงจัง

ภาพของขบวนรถมอเตอร์ไซค์ตามรถปราศรัยของ “พิธา” ที่เดินทางไปจุดอื่น

ไปส่งจนพ้นจากพื้นที่ของตัวเอง

บรรยากาศแบบนี้ไม่เคยเห็นในประวัติศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง

ผมเริ่มรู้สึกว่าครั้งนี้กระแสของพรรคก้าวไกลแรงมาก

เป็น “ของจริง”

ยิ่งไปคุยกับพี่-เพื่อน-น้อง หลายกลุ่ม

ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนเลือกพรรคก้าวไกล

ทั้งคนหนุ่มสาว นักธุรกิจวัยกลางคน และผู้อาวุโส

ผมไม่เคยเจอความสมานฉันท์ทางการเมืองแบบนี้มาก่อน

แม้โดยสัญชาตญาณจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนพายุกำลังจะมา

แต่ “กรอบความเชื่อ” เดิมที่คิดว่า “กระแส” เจอ “กระสุน” เข้าก็ร่วงยังคงอยู่

เวลาให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง ผมจึงระมัดระวังการวิเคราะห์เสียงของพรรคก้าวไกลมาก

เพราะทำนายยากมาก

สามารถวิ่งได้ตั้งแต่ 60 ถึง 160

แต่ในใจผมคิดว่าได้ถึง 100 ก็มหัศจรรย์แล้ว

เชื่อไหมครับว่า จนถึงตอนที่เริ่มนับคะแนน ตัวเลข ส.ส.ของ “ก้าวไกล” ขึ้นอันดับ 1

แซงพรรคเพื่อไทย

ผมก็ยังไม่เชื่อ

ยังเตือนน้องๆ เลยว่าคะแนนช่วงต้นส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ กทม.และในหัวเมือง

ต่างอำเภอจะเข้ามาตอนท้ายๆ

เดี๋ยว “ก้าวไกล” ก็แผ่ว

จนถึงเวลา 4 ทุ่มที่ผมต้องไปจัดรายการ The Power Game กับทาง The Standard ในสตูดิโอ

ผมก็ยังบอกน้องๆ เหมือนเดิม

จนการนับคะแนนเริ่มเกิน 50% ผมจึงเริ่มยอมรับความจริง

ปรากฏการณ์ “ก้าวไกล” เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

และสังคมไทยเปลี่ยนไปแล้ว

ภาพจากทวิตเตอร์ Pita Limjaroenrat

ผลการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง

ได้ ส.ส. 152 คน เป็น ส.ส.เขต 113 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 39 คน

พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 141 คน ส.ส.เขต 112 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 29 คน

“ก้าวไกล” กวาด ส.ส.กทม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ

ภาคตะวันออกกวาดเกลี้ยงทั้งตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี

ตีเชียงใหม่ และอุดรธานี เมืองหลวงของ “เพื่อไทย” สำเร็จ

ปักธงภาคใต้ได้ที่ภูเก็ต

แค่นี้ก็ตื่นตาตื่นใจแล้ว

แต่ถ้าใครลองกดดูคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่เลือกพรรคในแต่ละจังหวัดดู จะยิ่งตกใจ

ใน กทม. “ก้าวไกล” ได้ 48%

ภาคใต้ “ก้าวไกล” สูงที่สุด มากกว่ารวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์

บุรีรัมย์ แม้ภูมิใจไทยของ “พี่เน” ได้ ส.ส.เขตยกจังหวัด

แต่คะแนนบัญชีรายชื่อ “ก้าวไกล” ชนะ

ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ธรรมดาแล้ว

พรรคก้าวไกลไม่ใช่มีแค่คนหนุ่มสาวอย่างที่คิดกัน

แต่เขากวาดคนทุกระดับ ทุกวัน

อย่าลืมว่าพรรคก้าวไกล ขาย “ความชัดเจน” ตรงไปตรงมา

ไม่ใช้สำนวนการเมืองแบบเดิมๆ ที่คลุมเครือให้ตีความ

แต่บอกตรงๆ ไปเลยว่า “มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา”

เขาพูดถึงความเหลื่อมล้ำ การชนกับทุนผูกขาด การแก้ปัญหาระดับโครงสร้างต่างๆ ทั้งการปฏิรูปกองทัพ และการแก้ไขมาตรา 112

เป้าหมายของเขา คือ เปลี่ยนประเทศ

ในขณะที่พรรคเพื่อไทยขาย “จุดแข็ง” เดิมที่ประสบความสำเร็จมาตลอด คือนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ

ค่าแรง 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท

เงินดิจิทัล 10,000 บาท

ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ฯลฯ

หลายคนเชื่อว่าในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่มายาวนาน ชาวบ้านก็คงเลือกนโยบายพรรคเพื่อไทย

คงอยากได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท

แต่ใครจะไปนึกว่าชาวบ้านรากหญ้าจะยอมมองผ่านเงิน 10,000 บาท

และเลือก “ความหวัง” ที่จะเปลี่ยนประเทศแทน

นี่คือ สัญญาณที่อันตรายมากถ้าไม่เข้าใจความหมายนี้

ผมสรุปจบในรายการว่าการเมืองไทยวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว

และประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ผมนึกถึงคำคมที่ว่าเวลาเราเห็นคนเต้นระบำกลางถนน

เขาบ้า

หรือ เราไม่ได้ยินเสียงดนตรี

ผมหวังว่าคนที่คิดว่ามีอำนาจในประเทศ

จะได้ยินเสียงดนตรีแห่ง “ความเปลี่ยนแปลง” •

 

 

 

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC