“บิ๊กตู่” เปิดใจ “ศึกเลือกตั้ง 2566”

จรัญ พงษ์จีน

“ศึกเลือกตั้ง 2566” เหลือเวลาเดือนเศษๆ จะระเบิดขึ้นแล้ว “ลึกแต่ไม่ลับ” เกาะติดสถานการณ์ เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอ จากวิเคราะห์-เจาะลึก สไตล์เดิม ปรับโฉมมาเป็นการสนทนากับบรรดาผู้นำ-ผู้สมัคร-ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จากทุกวงการ

เปิดปฐมฤกษ์ด้วยการนัดเปิดใจ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ขอต่อวีซ่า ชิงเก้าอี้คืนตึกไทยคู่ฟ้าอีกคำรบ พร้อมด้วยทีมงานในเครือ “มติชน” ทุกภาคส่วน ทั้ง “มติชนรายวัน-มติชนทีวี-มติชนสุดสัปดาห์-ข่าวสด-ประชาชาติธุรกิจ” และ “สื่อออนไลน์” สถานีนัดหมาย คลับเฮาส์สนามกอล์ฟราชพฤกษ์

โดย “พล.อ.ประยุทธ์” มากับคณะอันประกอบด้วย “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับ “ม.ล.ชโยธิต กฤดากร” หรือ “เสี่ยปืน” ทีมเศรษฐกิจและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 4 พรรค รทสช. ใช้เวลาสัมภาษณ์พิเศษ ทั้งในบท-นอกบท นานเกือบ 2 ชั่วโมง

เนื้อหา-ความเป็นมา ว่าด้วยการทำงานในตำแหน่งผู้นำประเทศ ทั้ง 2 คาบช่วง ก่อนและหลังเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” เปิดเผยความในใจ รายละเอียด ลงในสื่อกระแสหลักในสังกัด “เครือข่ายมติชน” กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขอประมวล สรุป บางเนื้อหากับครอบครัว กับการตัดสินใจไปต่อในทางการเมือง

ซึ่ง “บิ๊กตู่” เปิดใจว่า

“ผมเป็นคนโชคดี โดยเฉพาะเรื่องลูก เขาไม่ต้องการมาเป็นภาระของคนเป็นพ่อ ลูกผมก็อยากไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่เขาบอกว่าอยากไปในฐานะที่ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี 8 ปีแล้ว ลูกถามว่าเมื่อไหร่จะพาเขาไปเที่ยว แต่ทุกวันนี้ก็ได้ใช้ชีวิตครอบครัว รับประทานข้าวร่วมกันทุกวันที่บ้าน เพราะถ้าไปนอกบ้านจะวุ่นวายทั้งชุดรักษาความปลอดภัย ชุดล่วงหน้า ตำรวจเต็มไปหมด ชีวิตไม่ส่วนตัว แล้วเกิดใครมาทำอะไรชุดรักษาความปลอดภัยไม่ยอม ก็จะเกิดการทำหน้าที่แล้วจะไปทำให้มันวุ่นวายทำไม”

“ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ไม่ได้เดินทางไปที่สาธารณะเท่าไหร่ แต่สมัยก่อนเดินห้างสรรพสินค้า สวนจตุจักรเป็นตลาดนัดของผม ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ชอบไปพูดคุยเดินไปชมไป และคิดว่าวันนี้แฟนคลับของผมก็ยังอยู่ คงมีคำถามว่าผมหายไปไหนหลายปีมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นนายกฯ แล้วจะถือตัว ผมไม่ได้มีร้านประจำที่สวนจตุจักร ส่วนใหญ่เดินไปทั่ว ดูสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ เพราะต้องระมัดระวังการใช้เงิน วันนี้ก็ยังอยากจะไปหลายที่ที่เคยไปแต่ไม่ได้ไป แต่ที่ไปไม่ใช่สถานที่อบายมุข อยากไปเดินห้าง ไปเดินสวนสาธารณะ หรือกินกาแฟ สมัยก่อนไปมาเกือบทั้งหมด แต่วันนี้เมื่อรู้ตัวว่าไปลำบาก ถ้าไปแล้วเป็นภาระก็เลยไม่ได้ไป”

 

“ถาม ถ้าต้องไปต่ออีก 2 ปี ได้คุยกับครอบครัวแล้วหรือไม่”

“พล.อ.ประยุทธ์” ตอบว่า “คุยกันแล้ว ซึ่งครั้งแรกคิดว่าอยู่มา 8 ปีแล้ว เราจะทำอย่างไรกันต่อ คำตอบคือการพักผ่อน อายุเยอะแล้ว เกือบจะ 70 ปี แต่ก็คุยกับลูกๆ ว่า แล้วสิ่งที่พ่อยังทำไม่เสร็จแล้วใครจะทำต่อ แต่ได้ทำต่อครบวาระพ่อต้องหาคนทำให้ได้ก็แล้วกัน เราเลยบอกว่าเดี๋ยวก็มีคนทำอยู่ดีนั่นแหละ เป็นเรื่องภายในครอบครัว ซึ่งเขาเข้าใจ เขาอดทน สมัยหนุ่มๆ จบโรงเรียนนายร้อยก็อยู่ต่างจังหวัดมาโดยตลอด อยู่ชายแดนที่ปราจีนบุรี ตั้งแต่สมัยที่ยังมีคอมมิวนิสต์ มีการรบกันตามแนวชายแดน เพิ่งมาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2548 มาเป็นรองแม่ทัพ และเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เพิ่งจะมีชีวิตที่เข้ามาใช้อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังต้องเดินทางไปที่ต่างๆ ทุกจังหวัดที่ต้องดูแลทุกกองกำลัง

“อย่าลืมว่าตอนลูกผมเกิดมาตั้งแต่สมัยผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดน ช่วงนั้นกลับบ้านเพียงเดือนละครั้ง ไม่กี่วัน 3-5 วัน โชคดีที่ลูกผมทั้ง 2 คนเรียนหนังสือดี เป็นฝาแฝด เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจของผม แต่ไม่ได้มางานรับปริญญาลูก เพราะอยู่ในพื้นที่ มาไม่ได้เนื่องจากกำลังมีปัญหาในพื้นที่ ลูกๆ ต้องอยู่กับแม่ วันสำคัญต่างๆ ส่วนใหญ่ผมไม่ได้กลับบ้านเพราะติดภารกิจ

“แต่ถือว่าโชคดี เนื่องจากภรรยาผมเข้าใจ เจ็บท้องเข้าโรงพยาบาลเขาอยู่ของเขาคนเดียว มีพี่สาวคอยดูแลช่วงที่คลอด ผมอยู่ได้เพียงวันเดียวและต้องกลับพื้นที่ จากนั้นก็ไปๆ กลับๆ วันรับปริญญาลูกก็ไม่ได้กลับมา แค่ได้ถ่ายรูปกับลูกที่บ้าน ผมก็คิดว่าผมทำถูกหรือไม่ แต่ครอบครัวผมเข้าใจ ไม่เช่นนั้นคงโกรธกันตาย ภรรยาผมไม่เคยงอนอะไรเลย เขาเป็นผู้ใหญ่พอ”

“พล.อ.ประยุทธ์” ยอมรับว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบดนตรี แต่เล่นดนตรีไม่เป็น มีเพียงสมัยเด็กที่เล่นดนตรีไทยบ้างเล็กน้อย อย่างเช่น อังกะลุง แต่คนที่ชอบดนตรีและเล่นดนตรีฝีมือใช้ได้คือลูกผม ไม่ทราบว่ามาจากใครเหมือนกัน ลูกผมเคยทำวงดนตรีตั้งแต่เด็ก วันนี้ก็ยังซ้อมอยู่ที่บ้าน ก็นั่งฟังเขาเล่นทั้งกลอง กีตาร์ เปียโน สำหรับผมชอบร้องเพลง แต่ร้องไม่ค่อยเพราะ เพราะไม่ได้เกิดมาเป็นนักร้อง แต่ชอบฟังเพลง ข้อเสียคือผมจำชื่อเพลงไม่ได้ จำเนื้อได้ เวลาขอเพลงก็ร้องเนื้อให้ฟัง ล่าสุดเพลงหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ช่วยเขียนบ้างนิดหน่อย ว่าทำอย่างไรให้เนื้อหาเพลงลุงตู่อยู่ไหน สามารถเชื่อมกับเบอร์ 22ได้

“วันนี้ถือว่าในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็โอเค ประชาชนให้กำลังใจ เพลงออกมาปลุกใจให้คนในพรรคมีกำลังใจ เชื่อว่าอีกไม่กี่วันคงกระหึ่มทั้งกรุงเทพฯ หลังสงกรานต์ไปแล้ว เพลงคงจะดังว่อนไปหมด”

นี่คือบางตอนที่ “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวเปิดใจกับ “เครือมติชน” ที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เน้นที่ “โลกส่วนตัว-ครอบครัว”