ยอดนักร้องคันทรี่ชาวอเมริกันที่ถือว่าฮ็อตที่สุดอีกคนหนึ่ง เคนนี่ เชสนีย์ (Kenny Chesney) เรียกเสียงฮือฮาด้วยการนำอัลบั้มเข้าอันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ด

สำหรับเชสนีย์ การนำอัลบั้มเพลงคันทรี่เข้าชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด ถือเป็นครั้งที่แปด

อัลบั้มที่ว่านี้ก็คือ Live in No Shoes Nation ด้วยยอดขายประเดิม 219,000 ชุด คิดจากการขายอัลบั้มเพลงแบบเดิม และการดาวน์โหลดการเผยแพร่ทางดิจิตอลที่เทียบเท่ากับการขายอัลบั้ม

Live in No Shoes Nation เอาชนะ พ็อพดีวา เคลลี่ คลาร์กสัน กับอัลบั้มใหม่ล่าสุด Meaning of Life เข้าเป็นอันดับสอง ประเดิมการวางจำหน่ายด้วยยอดจำหน่ายในสัปดาห์แรก 79,000 อัลบั้ม

อัลบั้มแสดงสดคันทรี่เข้ายึดท็อปชาร์ตใหญ่แบบนี้ ไม่ใช่ธรรมดา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่มีอัลบั้มแสดงสดขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตนี้ ก่อนหน้านี้ได้แก่ อัลบั้มการกุศล Hope for Haiti Now เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 และถือเป็นอัลบั้มแสดงสดโดยศิลปินคนเดียวที่เข้าอันดับ 1 ในรอบหลายปี นับจากเดือนสิงหาคม 2009 ที่อัลบั้มแสดงสด Sugarland”s LIVE ไปอยู่บนอันดับหนึ่งของชาร์ตเดียวกันนี้

ผลงานของเชสนีย์ที่เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ด ได้แก่ Life on a Rock ปี 2013, Hemingway”s Whiskey ปี 2010, Lucky Old Sun ปี 2008, The Road and the Radio ปี 2005, Be as You Are : Songs From an Old Blue Chair ปี 2005, When the Sun Goes Down ปี 2004 และ No Shoes, No Shirt, No Problems ปี 2002

สำหรับ Live in No Shoes Nation รวบรวมเอา 29 เพลงที่เป็นไฮไลต์ในการตระเวนแสดงสดของเชสนีย์ ย้อนกลับไปถึงปี 2007 และมีแขกรับเชิญมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น เทย์เลอร์ สวิฟต์, เดฟ แมตธิวส์, เกรซ พอตเตอร์ และ เอริก เชิร์ช

 

พลิกปูมประวัติ เคนนี่ เชสนีย์ ชื่อจริง เคนเนธ อาร์โนลด์ เชสนีย์ เกิด 1968 ที่น็อกซ์วิลล์ เทนเนสซี สืบเชื้อสายชาวอังกฤษและไอริช จากพ่อซึ่งเป็นครู และแม่เป็นช่างทำผม

จบไฮสกูลในปี 1986 ซึ่งนอกจากเล่นเบสบอลและฟุตบอลแล้ว ยังฝึกเล่นกีตาร์ด้วยตนเอง เข้าเรียนโฆษณาที่อีสต์เทนเนสซีสเตตยูนิเวอร์ซิตี้ ที่จอห์นสันซิตี้

ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เชสนีย์เข้าร่วมในโปรแกรมดนตรีบลูกราสของมหาวิทยาลัยด้วย และจบการศึกษาในปี 1990

ปี 1989 ทำเดโมอัลบั้ม โดยบันทึกเสียงที่สตูดิโอในบริสตอล เวอร์จิเนีย และขายได้ 1 พันชุด ขณะออกแสดงในคลับท้องถิ่นในจอห์นสันซิตี้ เขาเอาเงินจากการขายอัลบั้มไปซื้อกีตาร์ใหม่

จากจอห์นสันซิตี้ เชสนีย์เดินทางไปแนชวิลล์ และแสดงในคลับที่นั่น และกลายเป็นนักดนตรีประจำที่เดอะเทิร์ฟ บาร์ในย่านประวัติศาสตร์ของเมือง

เซ็นสัญญากับค่ายเพลงอิสระแคปริคอร์นเร็กคอร์ดส์ ออกผลงานแรก In My Wildest Dreams ในปี 1994 ขายได้ 1 หมื่นชุด จากนั้นค่ายเพลงปิดแผนกดนตรีคันทรี่

เชสนีย์ย้ายไปเซ็นสัญญากับ BNA Records ออกอัลบั้ม All I Need to Know ในปีต่อมา ซิงเกิ้ลติดอันดับบนๆ ในชาร์ต ตามมาด้วย Me and You ในปี 1996 เป็นผลงานแรกที่ได้แผ่นทองคำจากการขายเกิน 5 แสนชุด และยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นกับ I Will Stand ออกในปี 1997 สะสมความสำเร็จมาเรื่อยๆ จนบัดนี้ เชสนีย์มีผลงานมาแล้ว 20 อัลบั้ม 14 ชุด จากจำนวนนี้ ขายหลักห้าแสนชุดขึ้น มีเพลงขึ้นชาร์ตมากมาย

และมี 29 เพลงขึ้นถึงอันดับ 1

 

ผลงานของเชสนีย์ติดชาร์ตฮ็อต 100 อันเป็นชาร์ตที่รวมเพลงฮิตจากทุกสาขา จึงถือเป็นศิลปินคันทรี่ที่ประสบความสำเร็จในการข้ามมาสู่ตลาดกระแสหลักหรือครอสโอเวอร์มากที่สุดคนหนึ่ง ขายผลงานไป 30 ล้านชุดทั่วโลก

คว้ารางวัลในสาขาดนตรีคันทรี่ ทั้ง Country Music awards และ Country Music Association การตระเวนทัวร์มีแฟนเพลงคับคั่งและทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ในการออกทัวร์ Flip-Flop Summer Tour เมื่อปี 2007 ของเชสนีย์ เป็นการแสดงสดที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปีในแวดวงดนตรีคันทรี่

29 เพลงในอัลบั้มนี้ มาจาก 2 ดิสก์ด้วยกัน ดิสก์แรก 14 เพลง ได้แก่ Flora-Bama, Summertime, Big Star, Boston, When I See This Bar, No Shoes, No Shirt, No Problems, Anything But Mine, Down the Road, Guitars and Tiki Bars, Hemingway”s Whiskey, Everybody Wants to Go to Heaven, I”m Alive, Save It for a Rainy Day และ Pirate Flag

ส่วนดิสก์สอง ประกอบด้วย Somewhere With You, I Go Back, One Step Up, American Kids, You and Tequila, Young, There Goes My Life, Out Last Night, Dust on the Bottle, Coastal, The Boys of Fall, Noise, Old Blue Chair, Medley : The Joker/Three Little Birds และ Happy on the Hey Now (A Song for Kristi)

เป็นเพลงคันทรี่ที่ละลายเส้นแบ่งเพลง และประสบความสำเร็จอย่างน่าสนใจ