หนังสือของ พล.อ.ประยุทธ์ | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

หนังสือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอยู่ 2 เล่ม เล่มแรกเป็นรายงานวิจัยเรื่อง การปรับบทบาทของกองทัพไทยเพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ทำสมัยดำรงตำแหน่งพลโท เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แล้วเข้าเรียนการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 20 ปี 2550

ที่ผมนำมากล่าวถึงเพื่อทำความเข้าใจความคิดด้านความมั่นคงของไทยที่เขาเขียนไว้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ควรเข้าใจด้วยว่า มีการทำรายงานวิจัยเล่มนี้เป็นฉบับย่อ เป็นเล่มพ็อกเก็ตบุ๊ก วางจำหน่าย1

เล่มที่ 2 ถึงไม่ได้เขียนโดย พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็เป็นกลุ่มคนที่ใกล้ชิด เข้าใจ และเป็นเหล่าแฟนคลับ พล.อ.ประยุทธ์ จึงร่วมกันเขียนถึงชีวิต ผลงานและคุณประโยชน์ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์

นั่นคือ มาเหนือเมฆ2 เล่มนี้น่าสนใจไปอีกแบบตรงที่ ออกวางจำหน่ายและแจกจ่ายกันเดือนกุมภาพันธ์ก่อนวันเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมปีนี้ จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นโฆษณาทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไม่ต้องสงสัย

หนังสือ 2 เล่มมีเนื้อหาหลักอะไร แล้วมีความสำคัญหรือไม่สำคัญตรงไหน ผมจะลองวิเคราะห์ต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์กับภัยคุกคามรูปแบบใหม่

 

หากกล่าวในแง่รายงานวิจัย รายงานวิจัย การปรับบทบาทของกองทัพไทยเพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ (Non Traditional Threats) มีความสมบูรณ์ในแง่กระบวนการวิจัย กล่าวคือ มีประเด็นหลักเพื่อการวิจัย ระเบียบวิธีวิจัยมีทั้งการค้นคว้าข้อมูลเอกสาร เอกสารราชการ การทำ Focus group การสัมภาษณ์เชิงลึก ที่สำคัญควบคู่กันไป

นี่เป็นธรรมเนียมในหมู่ผู้นำทหารไทยที่จะก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ต้องผ่านการเรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ต้องมีรายงานวิจัย

เท่าที่ผมทราบ การมีหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กผลงานวิชาการและหรือว่าด้วยประวัติของนายทหารท่านนั้นๆ ยังหมายถึง ประชาสัมพันธ์ เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น บางทีอาจไม่ใช่แค่ผู้นำเหล่าทัพด้วย

 

เนื้อหา

นับว่าเนื้อหาของงานวิจัยของ พล.อ.ประยุทธ์ในปี 2550 ทันสมัยทีเดียว กล่าวคือ ด้วย พล.อ.ประยุทธ์เห็นว่าเมื่อสิ้นสุดสงครามเย็น ยุทธศาสตร์ความมั่นคงภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ ภัยคุกคามตามแบบดั้งเดิม (conventional Threat) ภัยคุกคามทางทหาร (Military Threat) คือการคุกคามกระทำรัฐต่อรัฐ ต่ออธิปไตย และบูรณภาพดินแดนลดลง แล้วเกิดภัยคุกคามรูปแบบใหม่คุกคามโลก รวมทั้งไทยอีกด้วย

แล้ว พล.อ.ประยุทธ์เห็นว่าอะไรคือภัยคุกคามใหม่ต่อไทย

1. ภัยเร่งด่วน คือความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ การก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด แรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัย

2. ภัยที่ก่อผลในระยะปานกลาง คือ สภาพแวดล้อมของธรรมชาติ หรือ Climate Change และโรคระบาด

3. ภัยหรือปัญหาในระยะยาวของไทยคือ ความยากจน

งานวิจัยนี้ให้ความสำคัญไม่น้อยเรื่อง องค์กรและการบริหารภายในกองทัพไทย แต่ก็เป็นเพียงการกล่าวถึงการจัดการบริหารองค์กร สายการบังคับบัญชา

แต่ผมคิดว่า ที่สำคัญกว่านั้นคือ ภัยคุกคามใหม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์มองเห็นนั้น พล.อ.ประยุทธ์เห็นและรู้หมดแล้วว่ามีอะไรที่เป็นภัยคุกคามใหม่ต่อไทยบ้าง

แต่ตลอด 16 ปีต่อมา เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้บัญชาการทหารบก แล้วก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้าคณะปฏิวัติบริหารประเทศเกือบ 3 ปี ต่อมาเป็นนายกรัฐมนตรียาวนานกว่า 8 ปี

ภัยความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้หมดไปไหม ทำไมปัญหายาเสพติดจึงยังคุกคามสังคมไทยอย่างหนักอยู่

เรายังไม่เคยเห็นรูปธรรมของการแก้ปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวเท่าไรนัก

ยิ่งเรื่องผู้ลี้ภัย หากกรณีผู้ลี้ภัยจากฝั่งเมียนมาที่หนีภัยสู้รบและภัยการเมืองจากรัฐบาลทหารเมียนมา เราก็แทบไม่เห็นนโยบายสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการใดๆ เลย

นอกจากสั่งการแล้ว ให้รับผลการอพยพย้ายถิ่น แต่มิได้ดำเนินการอะไรเพื่อให้ความขัดแย้งภายในเมียนมาที่เป็นต้นตอปัญหาลดน้อยลง

รายงานวิจัยกับนโยบายและการแก้ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์เมื่อมีอำนาจทางการเมืองทั้งอำนาจบริหารและอำนาจทางทหารยาวนานกว่าทศวรรษ ดูเหมือนเป็นเพียงแค่ คุณพ่อรู้ดี คือรู้ทุกเรื่อง รู้มานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำอะไรมากนักกับภัยคุกคามใหม่อย่างที่ท่านรู้จัก

นี่ทำให้ผมอดคิดถึงคำขวัญของ พล.อ.ประยุทธ์และพรรคไทยรักษาชาติไม่ได้คือ ทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อไป คือบอกเสมอว่าทำอะไรมากมาย ทำหลายเรื่อง ทำทุกวัน ทำแม้แต่ในฝัน เมื่อทำแล้ว มีอะไรสำเร็จบ้าง

 

คราวนี้เราลองอ่านหนังสือเล่มที่ 2 ของ พล.อ.ประยุทธ์

เขาบอกว่า มาเหนือเมฆ

…มาเหนือเมฆ คือ สิ่งที่เกิดขึ้น 22 พฤษภาคม 2557 ล่าสุดคือการตัดสินใจลงปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรครวมใจสร้างชาติ…

นี่เป็นเหตุผลหลักของหนังสือที่ผู้เขียนซึ่งเป็นแฟนคลับของ พล.อ.ประยุทธ์เขียนไว้ที่หน้า 238 ของหนังสือมาเหนือเมฆ

นับเป็นเหตุผลที่แปลกประหลาดมาก 22 พฤษภาคม 2557 คือการทำรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ความจริงแล้วหาใช่เรื่อง มาเหนือเมฆ เสียทีเดียว ด้วยมีการก่อกระแสความขัดแย้งรุนแรงตามท้องถนนเพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลานานพอสมควร

แล้วสังเกตได้ว่า มีการสั่งการให้กำลังทหารจัดกองกำลังเป็นจุดๆ ล้อมบริเวณที่มีการขับไล่รัฐบาล

ด้านหนึ่งจึงเป็นการปกป้องฝ่ายผู้ชุมนุมขับไล่ อีกด้านหนึ่งเท่ากับเตรียมพร้อมก่อการรัฐประหาร ในช่วงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์อ่อนแอ คุมและสั่งการกองทัพไม่ได้

ที่สำคัญมาก การตัดสินใจทำรัฐประหารเกิดขึ้นช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังจะเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกปี 2557 ซึ่งกำลังถกเถียงกันใน คณะกรรมการสภากลาโหมซึ่งฝ่ายยิ่งลักษณ์มีเสียงข้างมากอยู่

ส่วนการเป็นปาร์ตี้ลิสต์พรรคไทยรักษาชาติที่บอกว่า มาเหนือเมฆ โดยอ้างเหตุผลว่า ต้องการหนีนักการเมืองน้ำเน่าในพรรคพลังประชารัฐ

แต่จริงๆ พรรคพลังประชารัฐไม่ได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ข้อสำคัญ นักการเมืองน้ำเน่า พล.อ.ประยุทธ์เหมารวมนักการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามคือ ระบอบทักษิณ กับคนดี ซึ่งก็หมายถึงตัวเขาเอง

คนดีคือ ความคิดทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์นั่นเอง

ในหนังสือ มาเหนือเมฆ นิยาม พล.อ.ประยุทธ์คือ คนดี ซึ่งก็เป็นวาทกรรมอนุรักษนิยม

คนดีคือ คนที่มีความจงรักภักดีใน 3 สถาบันหลักของชาติ แต่คนอื่นเป็นฝ่ายจ้องทำลาย

หรือ คนดีก็คือตัวของเขาเอง ดังที่หนังสือมาเหนือเมฆ ได้เขียนถึงประวัติของเขาโดยสังเขปตั้งแต่เข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยจุลจอมเกล้า การได้รับหัวใจสีม่วงของทหารเสือราชินี เป็นความจงรักภักดี

คนดี วาทกรรมอนุรักษนิยมมีการปลุกผีคู่ตรงข้ามคือ ระบอบทักษิณชัดเจนขึ้นเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์และกลุ่มของเขาในพรรครวมไทยสร้างชาติปราศรัยครั้งแรกในกรุงเทพฯ โดยอ้างถึงกลุ่มคนชังชาติ ที่ต้องกำจัดออกไปในสังคมไทย ให้ย้ายไปอยู่ในประเทศอื่น

แล้วก็เริ่มพูดถึงเพลงพระราชนิพนธ์เรื่องความรัก ความสามัคคี แล้วก็หยิบประเด็นเรื่องความสงบ ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

คนดี ตรงข้าม พวกชังชาติ อ้างถึงความสงบ นับเป็นวาทกรรมเก่า สะท้อนอนุรักษนิยม อ้างสถาบันหลักของชาติ

แต่คนดีและความสงบไม่ได้เกิดขึ้นเลยหรือในช่วง 16 ปีของการครองอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์

ที่สำคัญ ความรู้เรื่องภัยคุกคามใหม่จากรายงานวิจัยของเขาไม่เคยนำมาใช้ ทำไมภัยคุกคามใหม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์รู้มาแทบทุกเรื่องแล้วเมื่อ 16 ปีก่อน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ยังมีอยู่แล้วซับซ้อนขึ้น เช่น ตั๋วช้าง ทุนจีนสีเทา พนันออนไลน์ ทำไมคนรู้ดีจึงแก้ปัญหาไม่ได้

ผลงานใหม่ที่อ้างในมาเหนือเมฆ ก็ไม่เป็นความจริง การรับมือโควิด ไม่ใช่ฝีมือของพวกเขา เป็นความสามารถของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ การลงทุนรถไฟไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ก็เป็นผลงานของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่เสนอไว้ตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์

ไม่ประหลาดใจเลยที่หนังสือมาเหนือเมฆ เผยแพร่ก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ไม่ประหลาดใจที่เป็นข้อเขียนประชาสัมพันธ์ของเหล่าแฟนครับของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อความอบอุ่นใจของแฟนคลับ ซึ่งต้องเน้น แกนกลางความคิดทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นหลักคิดเก่าฝ่ายความมั่นคง เป็นภัยคุกคามเก่าคือ ปกป้องชาติด้วยกำลังทางทหารเพื่อสร้างความสงบ แล้วต้องปลุกผี คนชังชาติ ไม่มีอะไรใหม่เลย

ทั้งหมดเป็นภัยคุกคามเก่า ที่กำลังสร้างอยู่ด้วยมือของพวกเขาเอง ไม่มีอะไรเหนือเมฆเลย

 


1ราคา 199 บาท จัดพิมพ์โดยสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2551 เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก

2คำรณ ปราโมช ณ อยุธยา (บรรณาธิการ) มาเหนือเมฆ (สำนักพิมพ์ อิเมจ มีเดีย 2566)