Morgan Library เพชรเม็ดงามที่คนนิวยอร์กยังไม่รู้เลยว่ามี

อัษฎา อาทรไผท

เมื่อได้ไปอยู่ที่นิวยอร์กนานจนไม่ทราบว่าจะทำอะไรดี เนื่องจากสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ก็ได้ไปมาจนหมดแล้ว ผมได้มาดูลิสต์สถานที่น่าไปที่เพื่อนของภรรยาให้มา หนึ่งในนั้นมีชื่อห้องสมุด Morgan Library อยู่ด้วย ซึ่งเบื้องต้นอ่านแค่ชื่อก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรนัก แต่พอเข้าอินเตอร์เน็ตไปดูเนื้อใน ก็พบว่านี่คือสถานที่พิเศษ ขนาดที่ผมต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิตให้ได้

บรรยากาศหน้า Morgan Library

จะไม่พิเศษได้อย่างไร ในห้องสมุดเล็ก ๆ บนถนน Madison แห่งนี้ นอกจากจะสร้างและตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตรแล้ว ยังเป็นที่เก็บคอลเลคชั่นสิ่งพิมพ์ หนังสือ จดหมายสำคัญและมีค่าของโลกไว้มากมาย ว่ากันว่าของสะสมที่นี่เป็นรองก็แค่ Library of Congress ห้องสมุดแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

ของดีของเขามีมากมายอาทิเช่น Gutenberg Bible คัมภีร์ไบเบิ้ลที่ถือเป็นปฐมบทของสิ่งพิมพ์โลก ที่พิมพ์ไว้อย่างสวยงามตั้งแต่ ค.ศ. 1450’s ต้นฉบับโน๊ตเพลงของศิลปินเอกของโลก ด้วยลายมือของ Beethoven, Brahms, Chopin, Mahler, Verdi และ Mozart ไปจนถึงกระดาษไอเดียเพลงของ Bob Dylan ที่ร่างเพลง Blowin’ in the Wind ไว้ นอกจากนี้ยังมีจดหมายเก่าแก่ด้วยลายมือของบุคคลสำคัญของอเมริกาและของโลกมากมาย รวมไปถึง first edition ของหนังสือที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ก็วางเรียงรายบนชั้นให้มองดูสันขลัง ๆ จนตาลาย

ห้องฝั่ง West สำหรับอ่านหนังสือ

ลำพังสิ่งที่อยู่ในห้องสมุดแห่งนี้อาจไม่ทำให้บุคคลที่ไม่ใช่คนบ้าหนังสือหรืออะไรแนวนี้สนใจได้ ทว่าสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในของ Morgan Library จะพาให้ทั้งหนอนหนังสือ นักประวัติศาสตร์ ไปจนกระทั้งดาว TikTok ร้องว้าวกันหมด เพราะเขาตกแต่งบรรยากาศการนำเสนอหนังสือได้อย่างอลังการน่าทึ่งจริง ๆ

ทั้งหมดนี้คือของสะสมของอภิมหาเศรษฐี J P Morgan นักการเงินผู้ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่หลงไหลในงานศิลปะเป็นอย่างมาก แต่การจะนำงานศิลปะจากยุโรปกลับมาที่อเมริกา ต้องมีการเสียภาษีนำเข้า เขาจึงเก็บงานศิลปะต่าง ๆ ไว้ที่คฤหาสน์ที่อังกฤษ ทว่าสื่อสิ่งพิมพ์และหนังสือสามารถนำเข้าได้โดยไม่ต้องเสียภาษี เขาจึงเสาะแสวงหาและลำเลียงที่สุดของหนังสือ จดหมาย โน๊ตเพลง และอื่น ๆ ที่เข้าข่าย กลับมารักษาไว้ในบ้านของที่มหานครนิวยอร์ก

โถงกลาง

นานวันเข้า เมื่อคอลเล็คชั่นใหญ่ขึ้น พื้นที่ในบ้านไม่พอ เขาจึงได้สร้างห้องสมุดส่วนตัวขึ้นมาแล้วสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1905 ซึ่งถือเป็นช่วงบั้นปลายของชีวิตเขาแล้ว เพราะเพียง 8 ปีให้หลัง ในปี ค.ศ. 1913 J P Morgan ก็เสียชีวิตลง และในพินัยกรรมได้มีความต้องการให้เปิดสถานที่นี้ให้ชาวอเมริกันได้เข้ามาชื่นชมของสะสมของเขา ซึ่งทายาทก็ทำตาม ได้เปิดให้ผู้คนเข้าชมเรื่อยมา พร้อมพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน โดยได้มีการขยาย ต่อเติมส่วนห้องสมุดออกไป มีห้องจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ เพิ่มขึ้นมาจนคล้าย ๆ จะเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อม ๆ อยู่แล้ว

สำหรับภายในห้องสมุด ที่นี่แบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกอยู่ตรงกลางเป็นโถงไม่ใหญ่นัก แต่เมื่อแหงนหน้าไปเบื้องบนจะพบกับโดมที่ตกแต่งไว้ทุกกระเบียดนิ้ว ด้วยปูนปั้นแบบนูนต่ำ และโมเสก ที่รวมความงดงามทั้งกรีกและโรมันไว้ได้อย่างลงตัว นึกถึงสมัยก่อน ที่สถานที่นี้เป็นที่สำหรับคน ๆ เดียว แล้วสัมผัสได้ถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของผู้สร้างจริง ๆ

ทางฝั่ง west เป็นส่วนห้องอ่านหนังสือและทำงาน ตกแต่งด้วยโทนสีแดงสด พร้อมประดับด้วยภาพวาดล้ำค่าจากยุค Medieval เต็มผนัง ในโซนนี้หนังสือไม่มากนัก เพราะเป็นห้องสำหรับให้นำหนังสือมาอ่าน มีโต๊ะทำงานหนึ่งตัว และโซฟาหนึ่งตัว และมีส่วนที่เป็นห้องเซฟ สำหรับเก็บหนังสือล้ำค่าอยู่

Gutenberg Bible

ฝั่ง east เป็นห้องเพดานสูง ทุกด้านของห้องเต็มไปด้วยตู้เก็บหนังสือล้ำค่า แบ่งออกเป็น 3 ชั้นสูงขึ้นไปจรดเพดาน ที่เป็นหลังคาทรงโค้งอัดแน่นไปด้วยภาพผาหนังไปจรดกับกระจกใสบนเพดาน ตรงกลางจัดแสดงสิ่งพิมพ์และจดหมายต่าง ๆ รวมไปถึง Gutenberg Bible และ โน๊ตเพลง ในตู้กระจก

ห้องฝั่ง East และชั้นวางหนังสือสูง 3 ชั้น

เมื่อครั้งที่ผมได้ไปเยือน ไปถึงที่นั่นราวบ่าย 3 โมงเย็น ขณะไปติดต่อจ่ายค่าเข้า เจ้าหน้าที่ใจดี (จริง ๆ การจะเข้าชมต้องเสียค่าเข้า เพราะไม่ได้มาในช่วงเวลาที่ฟรี เนื่องจากไม่ชอบคนเยอะ ๆ) ติดสติ๊กเกอร์ให้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้า แต่จะเข้าไปชมได้เฉพาะส่วนห้องสมุด ไม่สามารถเข้าชมห้องแสดงนิทรรศการต่าง ๆ ได้ ซึ่งจุดหมายของผมคือแค่ห้องสมุด จึงถือว่าโชคดีไป

ห้องฝั่ง East
ห้องฝั่ง East

ที่ Morgan Library นี้ ถ้าใครเป็นคนที่อินอะไรแนวนี้มาก ๆ สามารถอยู่ได้นานหลายชั่วโมง ค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ ละเลียดพินิจพิเคราะห์แต่ละชิ้นงานไปเรื่อย ๆ สลับกับซึมซับบรรยากาศ และความสวยงามของสถานที่ ที่อัดแน่นไปทุกอณูก็น่าจะฟินมิรู้ลืม หรือใครชอบถ่ายรูป ก็มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะ แต่น่าจะโพสต์ท่าอะไรกันมากไม่ได้ เพราะอย่างไรก็ตาม นี่คือห้องสมุด บรรยากาศขลัง และเงียบสงบมาก

บรรยากาศหน้า Morgan Library

สำหรับผม การได้มาเดินวนเวียน ชื่นชมคอลเล็คชั่นของ J P Morgan สักครั้งถือเป็นความโชคดีอย่างมาก และขอบคุณที่เขาใจกว้าง ให้คนทั่วไปได้เข้ามาชื่นชมของรักของเขา สถานที่นี้คือเพชรเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในมหานครใหญ่ ญาติของผมที่นิวยอร์กเอง หรือเพื่อนชาวนิวยอร์กของผม ยังไม่ทราบเลยว่ามีที่แบบนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านพวกเขา ต้องให้ผมที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล มาเป็นคนบอกว่ามี สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณเพื่อนภรรยาที่แนะนำครับ