เปิดวิถี ทหารคอแดง-คอเขียว บาลานซ์ อำนาจ กับความท้าทายใน ตท.28 และ ‘ไก่-กอล์ฟ’ ส่อง ตท.30-31 และท็อปแมน คอแดง

พลเอก เจริญชัย หินเธาว์, พลเอก สุขสรรค์ หนองบัวล่าง,พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์

แม้จะอยู่หน่วยทหารคอแดง ที่อยู่ใน ฉก.ทม.รอ.904 ผ่านการฝึกหลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์มาแล้วก็ตาม แต่หาใช่ว่าจะได้เป็นทหารคอแดงตลอดชีวิตรับราชการทหาร

เพราะเมื่อย้ายออกจากหน่วยคอแดง หรือไม่ได้อยู่ใน ฉก.ทม.รอ.904 แล้ว ก็จะมีคำสั่งปลดออกจากการเป็นทหารคอแดง หรือที่เรียกว่า ปลดคอแดง กลับมาเป็นทหารคอเขียว ตามเดิม

เช่นเมื่อไม่นานมานี้ มีคำสั่งปลดคอแดงราว 70 นายทหาร ที่ไม่ต้องใส่เสื้อคอแดง ไม่ต้องติดอาร์มหน่วยรักษาพระองค์ ใน ฉก.ทม.รอ.904 แล้ว ทั้งระดับนายพล จนถึงนายพัน

แต่ที่ถูกจับตามอง คือระดับนายพล ที่เคยถูกจิ้ม ติ๊กชื่อ ให้เข้ารับการฝึกหลักสูตรทหารคอแดง ใน 2 รุ่น ที่เคยเปิดฝึกมาในยุคบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และหยุดไปเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด

โดยมีบิ๊กบุ๋ม พล.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ผอ.ศปร. บก.ทัพไทย บิ๊กรุน พล.ท.กันตพจน์ เศรษฐรัศมี รอง เสธ.ทบ. และ เสธ.แนน พล.ต.พนาเวศ จันทรังสี ที่เพิ่งย้ายจาก เจ้ากรมการสัตว์ ทบ. อยู่ในจำนวน 70 นายด้วย

ในอีกมุมหนึ่ง อาจมองได้ว่า เพราะเป็น 3 นายทหารม้าที่หลุดไลน์ขึ้นสู่แม่ทัพภาคที่ 1 ผบ.ทบ. และ ผบ.ทหารสูงสุด แล้วด้วย ประกอบกับเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณค่าตอบแทนอีกด้วย

พลเอก สุวิทย์ เกตุศรี กับ พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์

ขณะที่บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ที่แม้จะย้ายพ้นจากรองแม่ทัพภาคที่ 1 แต่ก็ยังไม่หลุดจาก ฉก.ทม.รอ.904 และอาจจะมีโอกาสที่จะกลับเข้าสู่ตำแหน่งหลักในโยกย้ายปลายปีนี้ ทั้งการเข้าสู่ 5 เสือ ทบ. หรือข้ามไปอยู่ บก.ทัพไทย ต่อคิวเป็น ผบ.ทหารสูงสุด จากบิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.ทหารสูงสุด เพื่อน ตท.24 ที่เกษียณกันยายน 2568 ส่วน พล.อ.ธราพงษ์ เกษียณกันยายน 2569

หรือในอีกทางหนึ่ง อาจข้ามไปกลาโหม เพื่อต่อคิวบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม เพื่อนร่วมรุ่น ตท.24 อีกคน ที่จะเกษียณกันยายน 2568 และจะเป็นปลัดกลาโหมคอแดงคนแรก

แต่ก็ต้องจับตาที่บิ๊กปั้น พล.อ.ไพบูลย์ วรวรรณปรีชา ผอ.สำนักนโยบายและแผน กลาโหม (ผอ.สนผ.กห.) และ เสธ.หยอย พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ เสนาธิการทหารบก เพื่อน ตท.24 ที่เป็นทหารคอเขียวทั้งคู่ ที่ก็มีชื่อชิงปลัดกลาโหมด้วย

โดยเฉพาะ พล.อ.อุกฤษฏ์ ที่ถือเป็นคนเก่งของรุ่น แถมอายุน้อย เกษียณกันยายน 2570 จนมีกระแสข่าวว่า จะถูกส่งข้ามไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคต หรือแม้แต่เป็นเลขาธิการ สมช.

พลตรี สราวุธ ไชยสิทธิ์

ปัจจุบัน แม้ไม่มีการฝึกหลักสูตรทหารคอแดงสำหรับนายพล เช่นที่เคยมี 2 รุ่น ก่อนโควิด แต่นายพลที่เป็นทหารคอเขียว หากถูกคัดเลือกจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง แบบที่ต้องเรียกว่ามี ‘สัญญาณ’ มา ก็จะได้ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง 3 เดือน แล้วก็กลายเป็นทหารคอแดง

เช่นที่บิ๊กปู พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่คุมขุมกำลังรบ ก็ขึ้นมาจากรองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่เป็นทหารคอเขียว ก่อนได้รับไฟเขียวให้ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง

รวมทั้ง ผบ.กอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. เพราะตอนที่เป็น ผบ.มทบ.11 ก็ยังเป็นทหารคอเขียวอยู่ และได้ขยับเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. ซึ่งเป็นหน่วยทหารคอแดง ดังนั้น เมื่อมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. จึงได้ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง และกลายเป็นทหารคอแดง

ที่น่าจับตาคือ เพิ่งจบหลักสูตร 3 เดือนแบบหมาดๆ เป็นทหารคอแดงแบบสมบูรณ์ปุ๊บ ก็ได้ขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ปั๊บ ในการโยกย้าย 10 มีนาคมที่ผ่านมา แบบเหนือความคาดหมาย เพราะเพิ่งนั่ง ผบ.พล.ร.2 รอ. แค่ 6 เดือน เพราะตามสเต็ป จะต้องขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ในโยกย้ายกันยายน 2566 นี้

พลเอก เจริญชัย หินเธาว์, พลเอก สุขสรรค์ หนองบัวล่าง,พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์

ดังนั้น นี่จึงเป็นที่ฮือฮา ที่ พล.ต.สราวุธขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อโยกย้ายที่ผ่านมา จนทำให้ถูกจับตามองว่า จะเดินรอยตาม พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ พล.ท.พนา ที่เข้าสู่เส้นทาง “คอแดงฟาสต์แทร็ก” ของการขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. หรือไม่

เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายกันยายนนี้ พล.ท.พนา แม่ทัพภาคที่ 1 จะต้องขยับขึ้น 5 เสือ ทบ. เพื่อเตรียมเข้าไลน์ จ่อขึ้น ผบ.ทบ. จึงต้องมีแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่

จากเดิมที่มีบิ๊กไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ (ตท.28) และบิ๊กใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ตท.27 เป็นแคนดิเดตชิงกันอยู่ ก็มี พล.ต.สราวุธเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงขึ้นมา

ที่สำคัญเป็นการขึ้นมาแบบเงียบเชียบ แม้แต่เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 28 ส่วนใหญ่เองก็แทบไม่ระแคะระคายเลยด้วยซ้ำ จนทำให้เกิดความฉงนสงสัยว่า มีการเปลี่ยนแปลงการวางตัวแม่ทัพภาคที่ 1 จาก พล.ต.วรยส มาเป็น พล.ต.สราวุธ หรือไม่

ด้วยเพราะมีกระแสข่าวสะพัดว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ พล.ท.พนา พึงพอใจในการทำงานของ พล.ต.สราวุธ เรียกได้ว่า อยู่ในสายตาตลอดมา

ขณะที่ พล.ต.วรยส เป็นเพื่อนรักก๊วน ตท.28 ของทั้ง ผบ.ซัน พล.ต.วณัฐ ลักษณสิริ ผบ.หน่วยข่าวกรองทางทหาร ทบ. เสธ.เก๋ พล.ต.จักรชัย ศรีคชา ผช.ผบ.รร.จิตอาสาฯ ผบ.แอ้ม พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ ผบ.พล.1 รอ. และ ผบ.มด พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร ผบ.พล.ม.2 รอ. ที่ถือว่ามีเพาเวอร์ในรุ่นไม่น้อย

จนทำให้ ตท.28 เสียงแตกว่า พล.ต.วรยสที่เกษียณ 2571 ควรจะขึ้นก่อน แล้ว พล.ต.สราวุธที่เกษียณ 2573 ค่อยขึ้นเป็นต่อ ก็ยังได้ เพื่อไม่ให้มีผลต่อมิตรภาพในรุ่น เพราะหากเกิดศึกใน ย่อมไม่เป็นผลดี เพราะ ตท.28 ต้องผนึกกำลังสู้กับ ตท.27 อยู่แล้ว

แต่ท้ายที่สุด พวกเขารู้ดีว่า คนที่ตัดสินใจ ไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นผู้บังคับบัญชา และหน่วยเหนือ

พลโท พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาค1

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า พล.ต.อมฤต รองแม่ทัพภาคที่ 1 แคนดิเดตอีกคน ก็มีพลังของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัย เพราะต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังมีบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการ สนว. และอดีต ผบ.ทบ. เป็นกำลังหนุนสำคัญในสายทหารคอแดงที่อาจต้องมีการเช็กกำลังกันกับสาย ตท.28

ที่ต้องจับตามองคือ หลัง 1 เมษายนนี้ พล.ต.สราวุธ จะมารับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 คู่กับ พล.ต.วรยส และ พล.ต.อมฤต ที่จะทำให้สวนมิสกวัน เป็นจุดสนใจ

และต้องรอดูว่า พล.ท.พนาจะมอบหมายงานสายใดให้รองแม่ทัพภาคที่ 1 ทั้ง 3 คน ว่าใครจะดูแลรับผิดชอบเรื่องใด

แต่ทั้งหมดนี้ก็สะท้อนเส้นทางเติบโตของทหารคอแดง ที่สามารถมาจากทหารคอเขียว ก่อนมาเป็นทหารคอแดงก็ได้ จึงไม่ต้องมีการขวนขวายไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดงก่อน

 

จุดนี้เป็นการคลายล็อก และผ่อนคลายความรู้สึก แปลกแยก ระหว่างทหารคอเขียวกับทหารคอแดง ที่เกิดขึ้นในกองทัพลงได้บ้าง เพราะทำให้ทหารคอเขียวได้ลงตำแหน่งสำคัญ แต่ทว่า คนนั้นต้องได้รับเลือกไปฝึกเป็นทหารคอแดงเสียก่อน หาใช่การขึ้นตำแแหน่งด้วยการเป็นทหารคอเขียว

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นทหารคอแดงอยู่แล้ว หรือเป็นทหารคอเขึยว จึงมีความหวังที่จะเติบโตในตำแหน่งสำคัญได้ หากมีความสามารถ มีความเป็นผู้นำ และลักษณะทหารดี ก็จะได้รับการคัดเลือกให้ไปฝึกเป็นทหารคอแดง

เพราะจำนวนนายพลคอแดงที่ฝึกมาใน 2 รุ่น เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ก็เติบโตจนจะเกษียณราชการกันในไม่กี่ปีนี้แล้ว จึงต้องใช้วิธีการคัดเลือกทหารคอเขียวเฉพาะบุคคล ให้มาฝึกเพื่อเป็นทหารคอแดง และลงตำแหน่งสำคัญ เช่น วิถีของ พล.ท.พนา และ พล.ต.สราวุธ

เพราะในเมื่อกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก ต้องมี ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นทหารคอแดงเท่านั้น ไม่อาจถอยหลังกลับไปเป็น ผบ.ทบ.คอเขียวได้อีกแล้ว

 

เมื่อมองไปในอนาคตอันใกล้ จาก ตท.28 ก็จะผ่องถ่ายอำนาจต่อยัง ตท.30 และ ตท.31 ที่กำลังเบียดแข่งกันขึ้นมา

กล่าวกันในกองทัพว่า ผบ.พล.1 รอ.คนต่อไปในโยกย้ายกันยายนนี้ จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1และ ผบ.ทบ.คอแดง คนต่อๆ ไป

โดยมี 3 แคนดิเดต ทั้งรองลาภ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ รอง ผบ.พล.1 รอ. (ตท.30) กับรองด้วง พ.อ.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ รอง ผบ.พล.1 รอ. (ตท.31) และ ผบ.โอ่ง พล.ต.เอกอนันต์ เหมะบุตร ผบ.พล.ร.11 ที่ได้ชื่อว่า เป็น ผบ.พล. ที่อายุน้อยที่สุดใน ทบ. และถือว่าเป็นสายตรงทั้งบิ๊กบี้และบิ๊กแดงเลยทีเดียว

แต่ก็ไม่อาจมองข้ามสายรบพิเศษคอแดง อย่างรองเอิร์ธ พ.อ.อินทนนท์ รัตนกาฬ รอง ผบ.พล.รพศ.1 (ตท.31) จ่อเติบโตที่จะเป็น ผบ.พล.รพศ.1 และ ผบ.นสศ. ในอนาคต ก่อนชิง ผบ.ทบ. เพราะเป็นดาวเด่นในสายท็อปแมน นักรบพิเศษ

ถึงขั้นที่บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี อดีต ผบ.นสศ. และ ผบ.ทบ. เลือกมาเป็นนายทหารคนสนิท และผ่านตำแหน่งสำคัญในสายรบพิเศษ จนเป็น ผบ.รพศ.3 รักษาพระองค์ มีบทบาทสำคัญในยุคเริ่มต้นของทหารรบพิเศษ รักษาพระองค์

เพราะหากเป็นเช่นนั้น พ.อ.อินทนนท์ จะเป็น ผบ.นสศ. และ ผบ.ทบ. สายรบพิเศษคอแดงคนแรก

เพียงแต่ต้องรอดูว่า ในตอนนั้น หน่วยเหนือจะบาลานซ์สายวงศ์เทวัญคอแดง บูรพาพยัคฆ์คอแดง กับรบพิเศษคอแดง อย่างไร

เพราะ พ.อ.อินทนนท์ เกษียณ 2574 หลังสุด ในบรรดาแคนดิเดต ตท.30 และ ตท.31

เหล่านี้คือสถานภาพการวางทายาทอำนาจในกองทัพ ในระยะ 5-10 ปีต่อจากนี้ เพื่อวางตัวให้ ผบ.ทบ.เป็นผู้นำกองทัพ ที่เป็นหลักในฝ่ายความมั่นคง ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน หลังการเลือกตั้งพฤษภาคม 2566 และต่อไปอีก 4 ปีเลยทีเดียว