ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ฝนไม่ถึงดิน |
ผู้เขียน | ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี |
เผยแพร่ |
ฝนไม่ถึงดิน | ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
รัฐสวัสดิการกับนโยบายอภิสิทธิ์ชน
ความแตกต่างที่ต้องตอกย้ำ
ในช่วงการเลือกตั้ง
เมื่อเข้าถึงช่วงการเลือกตั้งเรามักมีคำถามอยู่ตลอดว่า การพูดถึงนโยบายที่ประชาชนได้รับประโยชน์ก็จะมีคำถามว่า นโยบายนี้เป็นนโยบาย “ประชานิยม” หรือไม่
หรือหากเจาะจงลงไป นโยบายรัฐสวัสดิการแตกต่างกับประชานิยมอย่างไร?
เมื่อ 20 ปีก่อน คำว่าประชานิยมถูกใช้ในไทยด้วยนัยยะเชิงลบ ในลักษณะของการเป็นนโยบายที่ปราศจากการวางแผน นโยบายที่เน้นแต่การใช้เงิน เพื่อให้เกิดความนิยม
ซึ่งหากย้อนกลับไปสิ่งที่เราจะพบคือคำว่า “ประชานิยม” ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในช่วงยุคสมัยความรุ่งเรืองของลัทธิเสรีนิยมใหม่
ยุคสมัยที่อำนาจทุนขยายตัวอย่างมาก และการตัดสวัสดิการเกิดขึ้นแพร่หลายในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
นโยบายวินัยทางการคลัง การรัดเข็มขัดเชิงนโยบาย ลดหย่อนภาษีสำหรับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และนำสู่การตัดลดนโยบาย ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้น
ยังไม่นับรวมการขยายตัวของกลุ่มทุนข้ามชาติ ที่อาศัยประโยชน์จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในประเทศโลกที่สาม ตักตวงผลประโยชน์มากมายมหาศาล
กล่าวคือ ได้สร้างความเหลื่อมล้ำไปทั่วโลก
จนต้นศตวรรษที่ 21 พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกาเริ่มชนะการเลือกตั้งและมีแนวนโยบายที่ตรงข้ามกับแนวทางเสรีนิยมใหม่ โดยมีการรื้อฟื้นนโยบายสวัสดิการต่างๆ ขึ้นมา
ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้กลุ่มชนชั้นนำฝ่ายขวาในสหรัฐอเมริกา รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งเริ่มประดิษฐ์คำว่า “ประชานิยม-Populism”
เพื่อใช้โจมตีและด้อยค่ารัฐบาลฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกา
คําว่าประชานิยมระบาดไปทั่วโลกแม้กระทั่งในไทย
ในช่วงประมาณปี 2544-2549 คำว่าประชานิยมก็ถูกนำมาใช้เพื่อโจมตีนโยบายสวัสดิการของพรรคไทยรักไทย และเป็นหนึ่งในข้ออ้างของการรัฐประหารในปี 2549
คำว่าประชานิยมนี้มีช่วงพีกของตัวเองในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 แต่พอย่างเข้าสู่ช่วงทศวรรษ 2010 คำว่าประชานิยมก็เริ่มดูไร้สาระเพราะรัฐบาลฝ่ายขวาเองก็เริ่มใช้นโยบายประชานิยม
เช่น การปลุกแนวคิดชาตินิยม การกีดกันผู้อพยพ การตัดสวัสดิการแรงงานข้ามชาติ การแบ่งแยกชนชั้น การสร้างวัฒนธรรมจารีตนิยมเพื่อกดแรงงานสตรี และปลุกเร้าให้ได้รับความนิยมจากผู้สนับสนุนฝ่ายขวาของตนเอง ก็ล้วนสามารถใช้ “นโยบายประชานิยม” ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น ในบริบทสังคมโลก คำว่าประชานิยมจึงเสื่อมหายไป
ซึ่งไม่ใช่เพราะว่ามีแนวคิดอื่นมาโต้แย้ง แต่เป็นความน่าตลกที่ว่าสุดท้ายทุกฝ่ายก็มีความเป็นประชานิยมอยู่ในตัวเอง
ประชานิยมที่เป็นคำวิจารณ์ คำด้อยค่า ก็ถูกเลิกใช้ไปโดยปริยาย
เพราะทุกฝ่ายเมื่อถึงการเลือกตั้งก็ต้องพยายามสร้างความนิยมให้แก่นโยบายตัวเอง
ทีนี้ปัญหาหลักคือ รัฐสวัสดิการกับประชานิยม มีความต่างกันหรือไม่
ประการแรกที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจว่าช่วงหนึ่งมีความพยายามอย่างมากในการแยกนโยบายรัฐสวัสดิการออกจากนโยบายประชานิยม
เช่น พยายามบอกว่ารัฐสวัสดิการพูดเรื่องที่มาของรายได้ พูดถึงความเป็นสถาบันของการออกแบบนโยบาย ไม่ใช่เพียงแค่การแจกเงิน ฯลฯ
ความพยายามเหล่านี้เพื่อที่จะทำให้ทุกฝ่ายเกิดการยอมรับรัฐสวัสดิการ ว่าเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืนมากกว่านโยบายประชานิยมเมื่อ 20 ปีก่อน
แต่เมื่อเวลาผ่านก็พิสูจน์ให้เห็นว่า การต่อต้านนโยบายรัฐสวัสดิการที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามันเป็นนโยบายประชานิยมหรือไม่
แต่เกิดขึ้นเพราะ “รัฐสวัสดิการ” ท้าทายต่อผลประโยชน์ของชนชั้นนำ และเพิ่มผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ อันเป็นสิ่งที่เกิดมานานนับศตวรรษอยู่แล้ว
ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือไม่ใช่การแยกนโยบายรัฐสวัสดิการกับประชานิยม
แต่คือแยกนโยบายรัฐสวัสดิการกับนโยบายอภิสิทธิ์ชน
ซึ่งผมขอลิสต์ประเด็นดังต่อไปนี้
– รัฐสวัสดิการเน้นเก็บภาษีทางตรงอัตราก้าวหน้า นโยบายอภิสิทธิ์ชนลดหย่อนภาษีกลุ่มคนมั่งคั่ง
– รัฐสวัสดิการเน้นสวัสดิการถ้วนหน้าให้สวัสดิการในฐานะสิทธิ นโยบายอภิสิทธิ์ชนสวัสดิการแบบเงื่อนไขซับซ้อน เน้นระบบคูปอง พิสูจน์ความจนยุ่งยากเพื่อรับสิทธิ์แม้สิทธิประโยชน์จะน้อยกว่า
– รัฐสวัสดิการจะเข้มงวดกับชนชั้นนำกดดันให้ลดงบประมาณด้านความมั่นคงหรือสิทธิประโยชน์ของชนชั้นนำ ขณะที่นโยบายของอภิสิทธิ์ชนจะเข้มงวดกับประชาชนโดยอ้างเรื่องวินัยทางการคลัง และกลไกตลาด แต่กลับใช้งบประมาณมหาศาลเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มตัวเองเพียงแค่หยิบมือเดียว
– รัฐสวัสดิการ เงินบาทแรกจนบาทสุดท้ายถูกส่งตรงสู่ประชาชน ขณะที่นโยบายอภิสิทธิ์ชนปรนเปรอชนชั้นนำจนอิ่มหนำและโยนเศษเนื้อข้ามกำแพง
– รัฐสวัสดิการเน้นความสำคัญของชีวิตคน นโยบายของอภิสิทธิ์ชนนำตัวเลขเป็นข้ออ้างอยู่เหนือชีวิตของคน และผลักดันให้ประชาชนยอมรับเงื่อนไขว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่าชีวิตของประชาชนเสมอ
ในช่วงก่อนการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 ผมจะนำเสนอความแตกต่างของนโยบายสำหรับคนส่วนใหญ่ในนามของรัฐสวัสดิการที่แตกต่างจากนโยบายของอภิสิทธิ์ชนโดยละเอียดตลอดเดือนเมษายน สามารถติดตามได้อย่างต่อเนื่องในคอลัมน์นี้
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022