ซูเปอร์แลนด์สไลด์310เสียง หุ้นพุ่ง ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ ยกขบวนเข้า ‘เพื่อไทย’

9 มีนาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศซูเปอร์แลนด์สไลด์ 310 เสียง เป็นครั้งแรก จนสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการเมือง

ด้านหนึ่ง สร้างความแตกตื่น เพราะเชื่อว่าเป็นโพลลับที่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญ 310 คือกลยุทธ์หาเสียงที่สร้างความฮึกเหิมให้พลพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มเหนี่ยว

แต่ อีกด้านเป็นเสียงดิสเครดิต เชิงว่า นอนหลับฝันไป

วีระ ธีรภัทร นักวิเคราะห์ และนักจัดรายการชื่อดัง ตั้งคำถามว่า เป็นการฝันเกินไปหรือไม่ หรือจะเป็นโพยพนันที่คนเซียนพนันทุ่มกันสุดตัวทั้งบ้านทั้งรถ

เพราะถ้าพรรคเพื่อไทย ซูเปอร์แลนด์สไลด์ 310 นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.มากกว่าภูมิใจไทย 2 เท่า พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคก้าวไกล คูณ 4

ขณะที่นักรัฐศาสตร์รุ่นใหญ่อย่าง ดร.สุรชาติ บำรุงสุข คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ วิเคราะห์ในรายการ The Politics (14 มีนาคม 2566) อย่างน่าสนใจว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย แลนด์สไลด์ 310 นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยตัดเค้กจากระบบเขต 400 และระบบปาร์ตี้ลิสต์ 100 ไปมากกว่าครึ่งก้อน ทั้งสองระบบ เค้กที่เหลือ กลายเป็นเศษที่แบ่งกันหลายพรรค

สิ่งที่ต้องจับตามองการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์หรือไม่?

 

ทําไมต้องซูเปอร์แลนด์สไลด์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขยายความว่า จากหมุดหมายแรกที่พรรคเพื่อไทย เคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายชนะเลือกตั้งถล่มทลายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้องได้ ส.ส. มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อวางแนวทางชนะ ส.ว. 250 คน แต่ถึงเวลานี้ เราไม่กังวลกับหน้าที่และอำนาจของ ส.ว.อีกต่อไป เพราะเรามั่นใจว่าผ่านจุด 250 เสียงขึ้นมาแล้ว

หมุดหมายที่สอง พรรคเพื่อไทยต้องได้อำนาจจากพี่น้องประชาชน ได้ ส.ส. 310 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อกำจัดระบอบประยุทธ์ให้สิ้นซาก จัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย วันนี้จึงไม่มีคำว่ารักพี่เสียดายน้อง ไม่มีแบ่งคะแนน มีแต่คำว่าต้องกาเพื่อไทยสองใบ เพื่อแลนด์สไลด์เท่านั้น ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค

จากนั้น 13 มีนาคม 2566 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านนโยบายและเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ย้ำตัวเลข 310 อีกครั้ง บทเวที “มติชน : เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ)

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า จุดแข็งของพรรคเพื่อไทยคือ การชูยุทธศาสตร์ทวงคืนประชาธิปไตยสู่ประชาชนโดยสันติวิธี ด้วยบันได 3 ขั้น คือ

ขั้นแรก เพื่อไทยจะต้องเป็นพรรคใหญ่และชนะการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ ไม่ต่ำกว่า 250 เสียงเพื่อยืนมั่นคงจัดตั้งรัฐบาล และได้เสียงไม่ต่ำกว่า 310 เสียง เพื่อเป็นหลักประกันสู้กับ ส.ว.

ขั้นที่สอง เพื่อไทยชูธงสร้างรายได้ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น-ระยะยาวให้ประชาชนทุกภาคกลุ่มอาชีพ สร้างรายได้ หมุนเวียน สร้างภาษี และนำภาษีนั้นกลับมาดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดีไม่สิ้นสุด พรรคเพื่อไทยไม่นิยมปลาสำเร็จรูป กินมื้อเดียว แต่เรานิยมวิธีการตกปลา ให้ประชาชนยืนอยู่ได้มั่นคงตลอดไป

ขั้นที่สาม การแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ที่ได้ยึดเอาอำนาจของประชาชนไป จัดให้มีกระบวนการ ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง เพิ่มอำนาจประชาชน สร้างกลไกประชาธิปไตย กระจายอำนาจ การตรวจสอบ และถ่วงดุล

ปัจจัย 3 ประการเพื่อทวงคืนประชาธิปไตยสู่ประชาชนแล้วคือ

(1) มีผู้สมัคร ส.ส. ใกล้ชิดประชาชน รับรู้ทุกข์-ปัญหาประชาชน พร้อมทางออกแก้ปัญหา

(2) มีนโยบายแก้ปัญหาทุกระดับ จากการระดมสมองคณะทำงานรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ ส.ส. อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประกอบการ นับหมื่นชั่วโมง เพื่อดำเนินการทำงานด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ พลังงาน การเกษตร ความเหลื่อมล้ำ การศึกษา

และ (3) ผู้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารเป็น เลือกคณะรัฐมนตรีที่มีความสามารถ บริหารรัฐบาลและนโยบายให้บรรลุผล

 

จากการซูเปอร์แลนด์สไลด์ 310 เสียง พรรคเพื่อไทยออกแคมเปญใหญ่ต่อเนื่อง โดยการประกาศผ่านเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ว่า วันยุบสภาอยู่ไม่ไกล พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว ที่จะแลนด์สไลด์ พาประเทศไทยออกจากทุกวิกฤต โดยการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบทั้ง 400 คน และนโยบายใหม่จากพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 ณ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ชั่วโมงนี้ หุ้นเพื่อไทยพุ่งแรง ขณะที่หุ้นพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ดิ่งเหวอย่างหนัก ข่าวใหญ่ที่ได้รับการยืนยันในการประชุม ครม.รัฐบาลประยุทธ์ 14 มีนาคม คือ การลาออกของ 2 รัฐมนตรีจากกลุ่มสามมิตร นั่นคือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม 2 รัฐมนตรี ได้ “ลาออก” จากสมาชิกพรรค พปชร.และตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อย้ายเข้าสังกัดขั้วฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังจะหมดวาระ จึงขอโอกาสย้ายไปอยู่พรรคใหม่ เพราะวันนี้ ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน เราก็ต้องดำเนินการให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยก็ขอให้ทุกท่านรอติดตามการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการวันที่ 17 มีนาคม

นอกจากสมศักดิ์และสุริยะแล้ว ยังมีสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี กรรมการบริหาร พปชร. หนึ่งในสมาชิกสามมิตรอีกคน ที่ประกาศลาออกจาก พปชร. ผ่านเฟซบุ๊ก ไปร่วมเพื่อไทย โดยจะขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีเพื่อไทยที่ชลบุรี 18 มีนาคม เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ครบทั้ง 10 เขต เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง

รวมถึง น.ส.พรรณสิริ กุลนารถศิริ ส.ส.สุโขทัย น้องสาวของนายสมศักดิ์ และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หลานชายของนายสุริยะ ก็จะลาออกจาก ส.ส. และสมาชิกพรรค พปชร. เพื่อย้ายไปอยู่พรรค พท.เช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ สมศักดิ์ได้ส่งลูกน้องทางการเมืองไปเปิดตัวเป็น “ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง” ในนามพรรคเพื่อไทย หลายคน เช่น นายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต ส.ส.พิจิตร นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล อดีต ส.ส.สุโขทัย

 

กล่าวสำหรับ สมศักดิ์ เทพสุทิน เขาเป็นเจ้าของวาทะการเมืองที่สำคัญ จนกลายเป็นการส่งสัญญาณทางการเมือง เช่น “ผมถนัดเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน” และ “ต้องบอกว่าผมไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ในขณะที่เป็น ส.ส.”

วันหนึ่ง สมศักดิ์ เทพสุทิน ให้สัมภาษณ์มติชนทีวี ที่ถามเรื่องย้ายพรรค เขาบอกว่า “พรรคพลังประชารัฐมีโอกาสเป็นรัฐบาล 99 เปอร์เซ็นต์” แต่เมื่อถูกถามว่า เขาจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร เรื่องย้ายพรรค เขาตอบแต่เพียงว่า “รอข้อมูลใหม่”

การย้ายเข้าเพื่อไทยของ สมศักดิ์ อาจเป็นได้ว่า เขาได้ข้อมูลใหม่ครบถ้วนแล้ว ทั้งจากในพรรคเพื่อไทย และผู้มีบารมีนอกพรรค ตกลงเงื่อนไขเรียบร้อยแล้ว

จนเป็นที่มาของประโยคทางการเมืองที่ว่า ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน!