สารพิษปริศนา พุ่งเป้านักเรียนหญิงอิหร่าน

เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า นักเรียนหญิงในประเทศอิหร่านกว่า 1,000 คน ในโรงเรียนกว่า 30 แห่ง ใน 10 จังหวัด (จากทั้งหมด 31 จังหวัด) ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากถูกโจมตีด้วยก๊าซพิษ จนทำให้นักเรียนหญิงเหล่านี้เกิดปัญหากับระบบทางเดินหายใจ มีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และเหนื่อยล้า

รายงานระบุว่า การมุ่งทำร้ายนักเรียนหญิงในอิหร่าน เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ที่เมืองกอม เมืองศักดิ์สิทธิ์ของมุสลิมนิกายชีอะห์ในอิหร่าน ซึ่งเกิดเหตุขึ้นที่โรงเรียนช่างเทคนิคนูร์ ที่มีรายงานนักเรียน 18 คนของโรงเรียน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากถูกสารพิษเข้าไป

ก่อนที่จะพบเหตุการณ์เหมือนกันที่เมืองอื่นๆ และพบว่า เป็นการวางยาพิษอ่อนๆ ที่พุ่งเป้าไปที่นักเรียนหญิง ซึ่งเด็กนักเรียนที่ถูกวางยา ต่างบอกว่า ได้กลิ่นคล้ายส้ม หรือกลิ่นปลาเน่า ก่อนจะล้มป่วยไปตามๆ กัน

การโจมตีเฉพาะกลุ่มนักเรียนหญิงดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายมองว่า การใช้สารพิษดังกล่าวอาจจะต้องการบังคับให้ “ปิดโรงเรียนสตรี” ในอิหร่าน

และเชื่อว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มสุดโต่งทางศาสนา ที่ต่อต้านการเรียนหนังสือของเด็กผู้หญิง

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอิหร่านเองไม่ได้บอกว่า เชื่อในทฤษฎีดังกล่าวหรือไม่ โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขของอิหร่านระบุเพียงว่า การสืบค้นว่าสารพิษอ่อนๆ นี้มาจากไหน และมีเป้าหมายอะไรในการก่อเหตุ “ไม่ได้” อยู่ในขอบเขตการกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข

ด้านสำนักข่าวฟาร์ส ได้อ้างคำกล่าวของอาลีเรซา โมนาดี-เซฟิดัน ประธานคณะกรรมการการศึกษาของรัฐสภา ที่ระบุว่า จากการสอบสวนพบว่า ก๊าซพิษดังกล่าว มีส่วนประกอบของไนโตรเจนผสมอยู่

เรื่องนี้ผู้นำศาสนาระดับสูง สมาชิกสภานิติบัญญัติ และนักการเมืองหลายคน ต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่า ล้มเหลวในการยุติการโจมตีนักเรียนด้วยสารพิษดังกล่าว

และได้เตือนถึงการให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกับเตือนว่า ความคับข้องใจของคนในครอบครัว อาจจะทำให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้น

 

ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า เหตุที่นักเรียนหญิงเหล่านี้ อาจจะกำลังถูกเอาคืนจากรัฐบาล หลังจากที่พวกนักเรียนหญิงจำนวนมากเข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในการประท้วงการเสียชีวิตของมาห์ซา อามินี หญิงสาวที่ถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวเนื่องจากถูกกล่าวหว่า สวมผ้าคลุมศีรษะ หรือฮิญาบ ไม่เรียบร้อย เผยให้เห็นเส้นผม ซึ่งผิดหลักจารีตประเพณีอันดีงามของสตรีชาวอิหร่าน และอามินี เสียชีวิตไม่นานหลังถูกขังที่เรือนจำ

เรื่องดังกล่าวได้ทำให้บรรดาผู้หญิงพากันออกมาประท้วง และนำผ้าคลุมศีรษะ มาจุดไฟเผาเพื่อเป็นสัญลักษณ์การขัดขืนต่อข้อบังคับที่เข้มงวดกับผู้หญิงในเรื่องการแต่งกายของทางการอิหร่าน

ซึ่งทางการอิหร่านมองการประท้วงดังกล่าวว่าเป็นการก่อจลาจล และตอบโต้ด้วยการใช้กำลังรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนรายงานด้วยว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตหลายร้อยคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กหลายสิบคน

ขณะที่บางคนสันนิษฐานว่า การโจมตีเด็กนักเรียนหญิง อาจจะเป็นฝีมือของพวกหัวรุนแรงที่เลียนแบบกลุ่มทาลิบันในอัฟกานิสถาน และโบโกฮาราม กลุ่มติดอาวุธในไนจีเรีย ที่ต้องการจะข่มขู่ผู้ปกครองไม่ให้ส่งบุตรสาวไปเรียนหนังสือ

อย่างไรก็ตาม การใช้สารพิษปริศนาโจมตีนักเรียนหญิงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีชาวอิหร่านในหลายเมือง พากันออกมารวมตัวกัน เพื่อประท้วงรัฐบาลอิหร่าน ที่ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับประชาชนได้ว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากอะไร และเป็นฝีมือของใครกันแน่ ขณะที่ลูกหลานต้องมาล้มป่วยลงแบบหาต้นตออะไรไม่ได้เลย