ทุกข์ สุข ของ ‘เฌอปราง’ คนประหลาด กับ ‘อวกาศ’ ที่อยากพิชิต

เจอกับเฌอปราง อารีย์กุล หนนี้ นอกจากจะมีเรื่องราวของการสูญเสียคนในครอบครัวที่ขอเป็นกรณีส่วนตัว และการก้าวมาเป็นผู้จัดการวง BNK 48 ในวัย 27 ปี โดยจะทำหน้าที่ควบไปกับ 2 ตำแหน่งเก่า คือเป็นเมมเบอร์และกัปตันวงแล้ว

เธอยังมีเรื่องราวต่างๆ นานามาเล่าสู่

ทั้งการถูกมองว่าเป็น ‘คนประหลาด’, การทำงาน ทำงาน ทำงาน จนบางวันมีเวลานอนจริงๆ จังๆ เพียงครึ่งชั่วโมงก็ต้องตื่นไปทำงาน ทำงาน และทำงานต่อ

รวมไปถึงการตั้งเป้าหมายในใจ ว่าชีวิตนี้อยากจะไปอวกาศสักครั้ง

ผู้จัดการวงคนใหม่

สําหรับหน้าที่ผู้จัดการวง เฌอปรางบอกว่า สิ่งที่เธอตั้งใจกับบทบาทนี้ หลักๆ คือ อยากช่วยดูแล ประสาน เพื่อให้งานทุกอย่างไหลลื่น ขณะเดียวกันก็จะดูภาพรวมของสมาชิกวงคนอื่นๆ รวมไปถึง “เรื่องพัฒนาศิลปิน พัฒนาเด็กๆ ตารางซ้อมยังไง น้องๆ คนไหนจะได้ออกงานบ้าง กลุ่มไหนน่าจะพร้อมสำหรับงานไหน”

“ที่อยากทำ คือช่วยวางโครงสร้าง หรือปรับเปลี่ยน พัฒนาให้มันยั่งยืนไปเรื่อยๆ เป็นระบบและเป็นพื้นที่ให้น้องๆ ได้เข้ามาพัฒนาตัวเองจริงๆ”

การทำงานหลายสิ่ง มีงานหลายอย่าง เฌอบอกว่าแม้จะหนัก หากก็เป็นสิ่งที่อยากทำ

ทั้งนี้ โดยปกติทั่วไป เธอบอกว่า แต่ละวันจะมีเวลานอนพักราวๆ สัก 5-6 ชั่วโมง

“แต่ถ้าวันไหนวุ่นวายมากๆ น้อยที่สุดที่ทำสถิติไว้คืออยู่บนเตียงครึ่งชั่วโมงค่ะ คือเหมือนเคลียร์ทุกอย่างเสร็จ นอนได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็ต้องตื่นมาเตรียมตัวไปทำงาน”

แล้วอาศัยไปงีบเอาตอนนั่งรถ ระหว่างเดินทาง

“กลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ควรจะนอน แต่ทำไมถึงมาคิดงานได้ตอนนี้ ไม่รู้เหมือนกัน ช่วงกลางคืนเหมือนจะไฟติด ก็นั่งคิดงานไป โน่นตีสาม ตีสี่ค่ะ”

สำหรับเวลาที่รู้สึกว่าได้พักผ่อนจริงๆ เฌอบอกพลางยิ้มว่า เป็นตอนที่ได้กินขนมหวาน, กินของอร่อย, ได้เล่นกับน้องๆ, ได้เต้นแบบมวลหมู่

การดูซีรีส์ เปิดทีวีดูละครนี่ไม่ต้องพูดถึง

“น้อยมากค่ะ” บอกพลางยิ้ม

“แล้วเป็นพวกตกเทรนด์ด้วย น้องต้องมาอัพเทรนด์ให้ พวกติ๊กต็อกอะไรอย่างนี้ ก็ต้องรู้จากน้องอีกที”

“ตอนนี้เฌออยู่หอพักเป็นหลักค่ะ” เฌอปรางเล่าสถานการณ์ของชีวิตประจำวัน

“เป็นที่พักของบริษัทและมีที่ซ้อม ให้ทำงานอยู่ในนั้น แต่ว่าก็แทบจะไม่ได้อยู่นะคะ ออกเช้า กลับดึกทุกวัน หรือไม่ก็ซ้อมเต้นทั้งวันอยู่ในนั้น”

“เป็นทั้งสมาชิกและผู้จัดการวง มันก็เลยแบบ…หนัก”

การอยู่กับ BNK48 เข้าปีที่ 7 เฌอปรางบอกว่า ยังมีความสุขดี

“ถามว่ามีความสุข 100% ไหม มันก็มีเรื่องทุกข์ค่ะ มันปนๆ กันไป”

ก็เป็นธรรมชาตินั่นแหละ

“แต่เรื่องที่เราจำได้ มักจะเป็นเรื่องทุกข์นะ” พูดพลางหัวเราะ

“มนุษย์เรามันแปลก เรื่องสุขมีเยอะมาก เรื่องที่ดีใจก็เยอะมากๆ เหมือนกัน ถ้าถามว่าย้อนกลับไปจะไม่เข้าไหม เข้าเหมือนเดิมค่ะ ถึงแม้จะต้องเจอเรื่องราวหลากหลายก็ตาม แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็เยอะเหมือนกัน”

“การได้มีแฟนคลับเยอะๆ การได้อยู่กับน้องๆ และการเป็นที่ยอมรับของหลายๆ ฝ่าย ก็ดีใจมาก การบรรลุถึงการโหวตจากแฟนๆ มีแฟนคลับโหวตให้เยอะขนาดนั้น ก็รู้สึกดีใจมากๆ และเกรงใจเขามากจนถึงทุกวันนี้”

“ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมาเสมอค่ะ”

ความคิดของเฌอปราง

“จะคิดมากเป็นเรื่องๆ ค่ะ บางเรื่องก็จะไม่คิดมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน”

“แต่เป็นเด็กประหลาด ทุกคนมองเฌอเป็นประหลาด” ย้ำความ จากนั้นก็หัวเราะ

ก่อนยกตัวอย่างประกอบ

“เป็นคนปรับตัวไม่ได้กับโรงเรียนใหม่ ก็เลยไปนั่งอยู่ข้างโถปลาหางนกยูง งงตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมเราเป็นแบบนั้น เหมือนเข้าหาใครไม่ได้ แต่เราก็ไม่อยากพยายามเข้าหาใคร ไปนั่งหลังห้องดีกว่า ไปเล่นกับปลา เพราะเราเรียนในห้องได้ ทำงานส่งได้ สนิทกันไหม ก็เดี๋ยวคงค่อยๆ สนิทไปเองล่ะมั้ง เลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องรีบปรับตัว”

“ปรับตัวด้วยการเล่นกับปลาไปก่อน ซึ่งเพื่อนทุกคนมองว่าเป็นคนประหลาด”

และต่อมาพอเริ่มสนิทกัน เธอก็โดนแซว ในเรื่องนั้น รวมไปถึงเรื่องประหลาดอื่นๆ ในสายตาของพวกเขา

 

ความหวัง ความฝัน ความตั้งใจ

ถามเฌอปรางว่า ในชีวิตนี้มีเป้าหมายอะไรที่อยากจะไปพิชิตอีกไหม?

คำตอบที่ได้มาพร้อมกับดวงตาเป็นประกายก็คือ “อยากขึ้นไปบนอวกาศค่ะ”

“เป็นความฝันตั้งแต่วัยเด็ก อยากขึ้นไปเห็นโลกด้วยตาตัวเองสักครั้งหนึ่ง”

ซึ่งจะว่าไปในปัจจุบันโอกาสนั้นก็พอจะมีอยู่ เพียงแต่…

“จะต้องร่ำรวยมากก่อน” เฌอบอกพลางหัวเราะ

หรือไม่ “ก็อาจจะต้องหาเส้นทางอื่น ไปร่วมงานกับเขา ไปทำอะไรบางอย่างกับทางบริษัทหรือองค์กรที่สามารถปล่อยจรวดขึ้นไปข้างบนได้”

ทำไมถึงอยากเห็นโลกด้วยตาตัวเอง?

กับคำถามนี้เฌอปรางบอก “น่าสนใจเลย แต่ก็ไม่เคยถามตัวเองเหมือนกันค่ะ คงเหมือนกับทำไมมนุษย์ถึงอยากบินได้มั้งคะ มันเป็นสิ่งที่คนยังทำไม่ได้ เฌอได้ขึ้นเครื่องบินแล้ว ลำดับหลังจากขึ้นเครื่องบิน คือต้องไปบนนู้นแล้วไง แล้วตั้งแต่เด็กๆ แล้วที่เฌออยากเห็นสิ่งที่เขาถ่ายรูปมา ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือเปล่า ชอบลงมือทำด้วยตัวเอง อยากลงมือพิสูจน์ด้วยตนเองค่ะ”

“แล้วอีกอันที่อยาก คืออยากมีบ้านของตัวเองที่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการอยู่ในนั้น มีอาหารที่ไม่ต้องไปซื้อ คือรู้สึกว่าพื้นฐานของมนุษย์คือ น้ำ อาหาร อากาศ เครื่องนุ่งห่ม ความปลอดภัย ยารักษาโรค ซึ่งถ้าเฌอสามารถหาอาหารได้ ต้องเก็บเงินได้เยอะมากเลยนะคะ”

“ถ้าจะเก็บเงินเพื่อไปอวกาศได้ ก็ต้องไปทางนี้ได้อีกทีหนึ่ง” วาดแผนแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะอีก

“คือรู้สึกว่าอยากลดการพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่าเงินตราลงไป”

“แต่ปัจจุบันยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านั้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับการดำเนินชีวิตอยู่”

“แต่ตอนนี้ยังไม่เลือกว่าจะไปทำค่ะ ถ้าเลือกไป แล้วบ๊ายบาย ไม่เป็นแล้วผู้จัดการวง BNK48 ไม่เป็นแล้วกัปตันวง เมมเบอร์วง เพราะตอนนี้รู้สึกว่าถ้าปล่อยตรงนี้ไป ฉันจะต้องเกิดคำว่ารู้งี้แน่ เลยเอาไว้ก่อนแล้วกัน”

เรื่องมีแฟน แต่งงาน มีลูก “ไม่เลยค่ะ เอาจริงๆ ไม่อยากมีลูก แต่ถ้ามีก็ไม่ติดนะคะ”

“โดยส่วนตัวไม่คาดหวัง ถ้ามันเข้ามาแล้วใช่ มันก็ดี คิดว่าน่าจะดีเหมือนกัน…ถ้ามันใช่ไง”

ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปในอนาคต