สภา”ล่ม-ร้าง-โดดเดี่ยว” | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

การซักฟอกโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 วันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ นี้

คาดหมายว่า จะมากด้วยปรากฏการณ์ และ สัญญลักษณ์ทางการเมือง ที่น่าจับตามอง

ว่ากันตั้งแต่พื้นฐานเลยทีเดียว นั่น คือ องค์ประชุม

แน่นอน ทั้งสองฝ่ายเป็นห่วง แต่ห่วงคนละมุม

ฝ่ายรัฐบาลนั้น คงเป็นอย่างที่นายวิษณุ เครืองาม ห่วงและรีบเตือน

นั่นคือ ระวังฝ่ายค้าน “หลอกด่า”

กล่าวคือยกขบวนถล่มนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเต็มพิกัดแล้วจะชิงล่มการประชุม ด้วยการทำให้องค์ประชุมไม่ครบ เพื่อปิดช่องไม่ให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจง

นายวิษณุจึงแนะเกมให้ฝ่ายรัฐบาล ชิงตอบแบบทันควัน ฝ่ายค้านกล่าวหาอะไรก็ตอบทันที ไม่กั๊กไว้

ส่วน มุมที่ฝ่ายค้านห่วง ไม่ได้ห่วงอย่างที่นายวิษณุบอก

แต่ห่วงฝ่ายรัฐบาลจะชิงหัก ไม่ให้ด่า หรือสะกัดการด่าตลอดทางมากกว่า

นั่นคือพยายามทำให้องค์ประชุมไม่ครบ

ซึ่งถ้าจะเล่นเกมนี้ โดยไม่สนใจชาวบ้านจะด่า ว่าหนีการตรวจสอบ ก็มีโอกาสไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม อย่างที่ประเมิน เป้าหมายของการซักฟอกครั้งนี้ เป้าใหญ่อยู่ที่ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา

ซึ่งตอนนี้ พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีพันธะที่จะไปปกป้องหรือเป็นองครักษ์ให้

ตรงกันข้าม พรรคร่วมรัฐบาล อาจจะยินดี ยืนกอดอก ดูพล.อ.ประยุทธ์ เผชิญหน้ากับฝ่ายค้านอย่าง”โดดเดี่ยว”เสียด้วยซ้ำ

ด้วยพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค อย่าง พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ ที่ก็คง “รู้สึกรู้สา”ไม่น้อย

เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พล.อ.ประยุทธ์ไปร่วมนั้น มา”ตกปลาในบ่อเพื่อน”กันซึ่งๆหน้า

กลายเป็นคู่แข่งทั้งในสนามเลือกตั้ง ทั้งในการชิงนายกฯ โดยเฉพาะระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ดังนั้นพลังประชารัฐ คงไม่ต้องมีสปิริต หรือมารยาท ที่จะออกไปเล่นบทองค์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์แน่

เช่นเดียวกับประชาธิปัตย์ ที่จะต้องฟาดฟันกับรวมไทยสร้างชาติในสนามภาคใต้ ก็คงมีท่าทีไม่ต่างกัน

นั่นคือ ปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ “โดดเดี่ยวในสภาร้าง”ไป

และให้บรรดาส.ส.ที่แปรพักตร์ไปหนุนพล.อ.ประยุทธ์ เล่นบทองครักษ์ไปกันเอง

ส่วนพรรคภูมิใจไทย ที่แม้นายอนุทิน ชาญวีระกุล จะยอม”เข่าด้าน” เข้าไปขอโทษพล.อ.ประยุทธ์ ฐานที่ลูกพรรคไปด่า

แต่ นั่นก็จะตีขลุมว่านี้คือ”มิตร”อันแท้จริงไม่ได้

เพราะนายอนุทินและภูมิใจไทย ก็ไปส่งสัญลักษณ์”เป็นมิตร”กับพรรคอื่นๆไปทั่วเช่นกัน ไม่ว่า พรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนากล้า เป็นต้น

ไม่ได้ผูกสัมพันธ์ ไว้เฉพาะกับพล.อ.ประยุทธ์

จึงเป็นที่คาดหมายว่า หากรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่ถูกถล่มหนักในการซักฟอกวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ นี้

โอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะโดดประชุม จนสภาล่ม มีไม่มาก

น่าจะไปยืนร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น กอดอกดู ว่าพรรคฝ่ายค้านจะถล่มพล.อ.ประยุทธ์ ครั้งสุดท้าย หนักหน่วงเพียงใด จะดีกว่า

ซึ่งแน่นอน ท่าที ฝ่ายค้าน ก็ถูกจับตามองไม่น้อยเช่นกัน

พรรคก้าวไกล นั้น คงไม่มีอะไรต้องยั้ง เพราะประกาศท่าทีชัดเจนแล้วว่า มีเป้าจะโค่น ระบอบ 3 ป. นั่นหมายความว่าคงไม่ได้จำกัดไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ หากแต่หมายถึงรัฐบาลโดยรวม

ปักมีดคาไว้กลางหลังคนในรัฐบาลได้มากเพียงใด ยิ่งเป็นผลดีกับพรรคก้าวไกลในการลงสนามเลือกตั้งเท่านั้น

แต่ ที่ถูกจับตากันมาก นั่นก็คือ พรรคเพื่อไทย

ด้วย”โจทย์การเมือง”ที่ดูเหมือนจะแก้ไม่จบ และกลายเป็นข้อสงสัยตลอดเวลา

นั่นคือ จะยั้งไมตรีให้ใคร หรือพรรคใด เพื่อร่วมมือตั้งรัฐบาลในอนาคตหรือไม่

ดังนั้นปรากฏการณ์ และสัญลักษณ์ต่างๆในศึกซักฟอกครั้งนี้ ไม่ว่า”ล่ม-ร้าง-โดดเดี่ยว” จึงต้องจับตากันใกล้ชิด

———————