สุดท้ายปลายปี

พิชัย แก้ววิชิต

สุดท้ายปลายปี

 

ในวันของช่วงท้ายปลายปีก่อนที่จะกลายเป็นปีเก่า ใกล้เข้ามาแล้วกับช่วงเวลาสดใหม่ กับวันแรกของปีที่กำลังจะมาถึง

กาลเก่าๆ ที่ผ่านพ้น ไม่อาจผ่านเลยไปกับร่องรอยจากเรื่องราว มีเรื่องน่าชื่นชมยินดี และเรื่องไม่ดีกับเหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

หากแต่ความจริงก็ยังคงต้องเผชิญ กับด้านบวกและด้านลบของชีวิต ทั้งในแบบส่วนบุคคลและในแบบของสาธารณะ

ถึงกระนั้นหลายคนก็จะยังคงฝากหวัง และเฝ้ารอผ่านวัน เดือน ปี ให้นำพาความสบายอก สบายใจ ชีวิตดีแท้ ให้เกิดขึ้นกับตัวเองและกับสังคมโดยรวม

ก่อนเริ่มปีใหม่ผมอยากจะเล่าคืนวันเก่าๆ จากห้วงแห่งความรู้สึกนึกคิดที่ผ่านมา ก่อนที่จะผ่านไป ที่ข้องด้วยประสบการณ์ขาดๆ เกินๆ และยังพร่องอยู่เกี่ยวกับงานเขียนของตัวเองในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมแล้วได้อยู่หลายเดือน

งานเขียนของคนที่ไม่แน่ใจในความน่าจะเป็นนักเขียน

งานเขียนต้องเล่าให้มากกับคนที่มักพูดน้อย

งานเขียนที่ต้องมากเรื่องกับคนที่ไม่เรื่องมากไปกับชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเรื่องมากพอที่จะเล่า

ทั้งหมดนั่นละครับ คู่ตรงข้ามกับสิ่งท้าทายที่เคียงข้างผมต้องมาตลอดปีที่ผ่านมา

 

ปรับตัวเตรียมใจ ด้วยเหตุที่ต้องเขียน ผลจึงต้องพยายามเรียนรู้ที่จะทำชีวิตทำให้มากเรื่อง ในทุกๆ สัปดาห์ จากหลายหลากวิธี ทั้งจากอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง จากประสบการณ์ตรง ประสบการณ์อ้อม การเอาใจเขามาใส่เรื่องของเรา จากคนรอบข้าง จากคนรู้จัก

จนบางครั้งความรู้สึกของตัวเองก็เสียทรงจากสิ่งที่สัมผัส และอิงแอบไปกับความรู้สึกนั้นไปหลายวัน

จนบางครั้งถึงกับตั้งคำถามตัวเองอยู่หลายครา ว่าตอนนี้แอบซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า เพราะเราต้องรู้จักเจ็บ รู้จักคัน มันถึงจะรับรู้และอธิบาย สิ่งนี้ สิ่งนั้น รู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไรในสิ่งที่ต้องเขียน

แต่ท้ายที่สุดก็คงต้องเตือนตน เมื่อรู้แล้วว่าอารมณ์นั้นเป็นอย่างไร ก็สลัดทิ้งให้ได้ ไม่มีอีก จากนั้นก็หาเรื่องใส่ตัวกันต่อไป เพื่องานเขียน

พื้นเพนิสัยใจคอโดยธรรมชาติของผม ถนัดกว่าที่จะเป็นคนเงียบ พูดน้อย ความน้อยลงทำให้ผมรู้สึกถึงพื้นที่โล่ง ความเสมอต้นเสมอปลายในความเป็นธรรมดา ที่ยังทำให้ชีพจรของผมยังคงเต้นเป็นปกติอยู่ได้สบายดีตามอัตภาพ บางครั้งก็ไม่มีอะไรไปมากกว่าความรู้สึกว่างๆ เปล่าๆ ไร้เรื่องราว

ไม่มีที่มาไม่มีที่ไปให้เกิดขึ้นกับความรู้สึกนึกคิด จนไม่มีอะไรอีกที่อยากจะสื่อสาร

สุดท้ายปลายปี วาระดีๆ ของการเริ่มต้น ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ สำหรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับใครอีกหลายคน สุขภาพแข็งแรง สุขกายสบายใจ เดินทางใกล้ไกลปลอดภัยกลับมา แล้วใช้ชีวิตไปด้วยกันนะครับ

หากแต่รูปแบบชีวิตยังคงต้องทำงาน และต้องขับเคลื่อนไปเพื่อใครอีกหลายคน

เข้าเกียร์ว่างตอนนี้ยังคงไม่ได้ มันต้องเคลื่อนตัวออกไป

ผมคงต้องเรียนรู้อีกมากนักในสิ่งที่ทำอยู่ ความท้อจนเกือบถอยคงต้องมีเป็นระยะ สุดท้ายคงต้องบอกตัวเองให้นั่งลงก่อน แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น เดินหน้าไปใหม่อย่างช้าๆ

สิ่งที่สอนได้ดีก็คงจะเป็นสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ความผิดพลาดต่างๆ ระยะเวลาของประสบการณ์จะขัดเกลาได้บ้างไม่มากก็น้อย

งานเขียนจะเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้หากไร้ผู้อ่าน คอลัมน์เอกภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากไร้ซึ่งโอกาสจากทางสำนักพิมพ์มติชน กอง บก.มติชนสุดสัปดาห์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ ท่าน ที่ได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนา เล็งเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่สามารถพัฒนากันได้อย่างเท่าเทียม กำลังใจดีๆ และแรงยุยงส่งเสริมจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยากให้เขียนทั้งๆ ที่เขียนไม่เป็นและไม่มีอะไรจะเล่า

ปีหน้าฟ้าใหม่งานเขียนจะเป็นอย่างไร อยากฝากไว้ให้ติดตาม อาจจะมึนงงเพิ่มขึ้นหรืออย่างไร ก็คงต้องลุ้นอ่านกันในปีหน้า

สุดท้ายปลายปี วาระดีๆ ของการเริ่มต้น ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ สำหรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับใครอีกหลายคน สุขภาพแข็งแรง สุขกายสบายใจ เดินทางใกล้ไกลปลอดภัยกลับมา แล้วใช้ชีวิตไปด้วยกันนะครับ

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต