My Father’s Dragon

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

หนังการ์ตูนเรื่องใหม่จากผู้กำกับฯ ชาวไอริช Nora Twomey ผู้กำกับหนังการ์ตูนเข้าชิงออสการ์ถึงสองเรื่องคือ The Secret of Kells กับ The Breadwinner สร้างจากงานเขียนปี 1948 ของนักเขียนชาวอเมริกัน Ruth Stiles Ganette

เอลมอร์เป็นเด็กชายน่ารัก เขาช่วยแม่ของเขาขายขนมในเมืองบ้านนอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ลูกค้ามากมาย แม่ยิ้มแย้มแจ่มใส เขาช่วยงานแม่ได้มากเพราะเขาวิ่งหยิบของเก่ง เขารู้เสมอว่าสินค้าชนิดไหนเก็บไว้ตรงไหน ใครๆ ก็ประทับใจความสามารถของเขา สำคัญที่สุดคือคุณแม่

แล้วจู่ๆ เมืองก็ร้าง ผู้คนหายไป เป็นเพราะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่

ร้านค้าถูกยึด สองแม่ลูกกำเงินที่เหลือไม่มากนักเดินทางเข้าเมืองใหญ่ ชื่อเนเวอร์กรีน ไม่เคยเขียว

แม่ปลอบเอลมอร์ว่าเงินเหรียญที่เหลือในขวดโหลนี้จะใช้ซื้อร้านใหม่ในเมืองใหญ่ แล้วเราจะขายของกันได้อีกครั้งหนึ่งเพราะที่นั่นมีผู้คนมากมาย

ที่เมืองใหญ่ ผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครมีเงินเหมือนกัน

แม่ลูกได้ห้องเช่าเล็กๆ โทรมๆ บนอาคารหลังหนึ่ง แม่ต้องคอยผัดผ่อนค่าเช่า หางานทำไม่ได้ วันหนึ่งแม่ฉวยขวดโหลของเอลมอร์ไปหยอดเหรียญโทรศัพท์สาธารณะเพื่อสมัครงาน หยอดไปทีละเหรียญ ถูกปฏิเสธไปทีละครั้ง จนกระทั่งเหรียญสุดท้ายก็ไม่มีเหลือ เอลมอร์โมโหมากผรุสวาทใส่แม่แล้ววิ่งหนีไป

เขาออกเรือจนไปพบเกาะแห่งหนึ่งที่กำลังจะจมน้ำ

เมืองทั้งเมืองกำลังจะจมน้ำ แม่ลูกก็กำลังจะจมน้ำด้วย

เกาะนั้นดูจากด้านข้างเหมือนหัวหอมที่สมมาตร มองจากท้องฟ้าเหมือนดอกบัวที่สมบูรณ์ มันมีทั้งสีเขียวและสีชมพู มันไม่ใช่เกาะในความหมายที่เรารู้จัก มิใช่ผืนดินที่นูนขึ้นมาจากพื้นสมุทรดังเช่นเกาะทั่วไป เกาะถูกยึดโดยรากที่งอกติดตรึงอยู่ที่พื้นสมุทร

เอลมอร์พบว่าที่เกาะไม่จมลงไปเพราะมีมังกรปีกกระจิ๋วหลิวตัวหนึ่งถูกล่ามเชือกไว้หลายเส้นคอยดึงเกาะทั้งเกาะขึ้น มังกรนั้นชื่อบอริส เขาถูกกอริลลาชื่อ ไซวา และลิงผู้ช่วยชื่อ ควาน จับตัวไว้เพื่อทำงานนี้ บอริสตัวไม่ใหญ่ ปีกยิ่งไม่ใหญ่ เขาดึงเกาะขึ้นฟ้าอย่างสุดกำลังด้วยความเหนื่อยยากแต่ก็ไม่เป็นผลเท่าไรนัก ดูเหมือนเกาะทั้งเกาะยังจมลงไปเรื่อยๆ

ประดาสัตว์น้อยใหญ่ต่างหวาดกลัวและตื่นตระหนก

หนังมีตัวละครอีกหลายตัว เสือ จระเข้ แรด และฝูงทาร์เซียร์ (หน้าเหมือนลิงขนาดเล็ก) ลายเส้นที่ใช้วาดสัตว์แต่ละชนิดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังดูแปลกตา

เอลมอร์ช่วยบอริสออกมาได้ แต่ทำให้เขาปีกหักไปข้างหนึ่ง บอริสเล่าเรื่องตำนานที่ว่าด้วยเกาะจะจมทุกร้อยปีแล้วจะมีมังกรมาช่วยเหลือ แต่ต้องทำอย่างไรไม่รู้เหมือนกัน มีแต่เต่าอาราทูอาห์ที่ตอบได้ เอลมอร์จึงออกเดินทางร่วมกับบอริสไปหาเต่ากัน โดยหารู้ไม่ว่าเต่าอาราทูอาห์ตายไปแล้ว

หลังจากอยู่ด้วยกันไม่นาน เอลมอร์ก็รู้ว่าบอริสเป็นมังกรที่กลัวน้ำและกลัวไฟ กับไม่เคยทำอะไรได้เลย

“โง่และขี้ขลาด” คือที่กอริลลาไซวาพูดถึงมังกรบอริสในตอนท้าย เมื่อทุกอย่างพังพินาศ เกาะจมน้ำไปเป็นครึ่งและเสียสมดุลเอียงกระเท่เร่ ประดาสัตว์น้อยใหญ่เกาะขอนไม้ลอยเท้งเต้งอย่างหมดหวัง

โง่และขี้ขลาดเพียงนั้น จะช่วยคุณแม่ให้พ้นจากการจมน้ำได้อย่างไร

โง่พอที่จะตวาดใส่แม่ ขี้ขลาดพอที่จะหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว

เปรียบเทียบกับงานขึ้นหิ้งสองชิ้นของผู้กำกับฯ เรื่องนี้เด็กๆ กว่ามาก ดูได้ทุกเพศทุกวัย งานเขียนภาพน่ารัก เนื้อเรื่องไม่พิสดาร ตอนนั่งดูก็นึกว่าหนังจะไม่มีอะไร ดูๆ ไปก็ไม่เลว เห็นว่าเสียงชื่นชมก็พอสมควร อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เด็กๆ และเหมาะกับเด็กๆ มากกว่าใครที่ชอบหนังหนักๆ (เช่น The Breadwinner)

หนังน่าดูเพราะคนเขียนบทยังคงเป็นความจริง พลิกดูชื่อคนเขียนบท Meg LeFauve ผู้เขียนบท Inside Out กับ The Good Dinosaur ซึ่งยอดเยี่ยมและดูสนุกมากทั้งสองเรื่อง เธอรับหน้าที่เขียนบท Inside Out ภาค 2 ที่มีกำหนดออกฉายในปี 2024 อีกด้วย

หันไปดูเจ้าของเรื่อง Ruth Stiles Ganett เป็นว่าเธอเกิดปี 1923 และยังมีชีวิตอยู่ อายุจะครบร้อยปีในปีหน้านี้แล้ว เธอเขียนหนังสือชุดมังกรนี้ไว้สามเล่ม อีกสองเล่มถัดมาคือ Elmer and the Dragon ปี 1950 และ The Dragons of Blueland ปี 1951 ตามลำดับ

ที่แท้เป็นสตรีทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังงานชิ้นนี้ เจ้าของบทประพันธ์ ผู้เขียนบท และผู้กำกับฯ เล่าเรื่องของเด็กชาย มังกร และกอริลลาที่เป็นเพศชาย

เป็นผลงานของสตูดิโอ Cartoon Saloon ซึ่งทำ Song of the Sea และ Wolfwalkers ก็ยิ่งอดแปลกใจมิได้ว่าดูเหมือนสตูดิโอจะทำหนังโทนเบาๆ เมื่อเทียบกับหนังหนักๆ สี่เรื่องแรก

อะไรที่เอลมอร์ทำกับบอริสในตอนท้าย ไม่ต่างอะไรกับที่แม่ทำกับเอลมอร์ก่อนจากมา ที่แท้แล้วนี่เป็นเรื่องหนักหนาของทุกบ้าน •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์