ซิ่งสุดๆ ‘ORA Good Cat GT’ ขับมันส์ได้อีก-หลังติดเบาะของจริง

สันติ จิรพรพนิต

ถือเป็นควันหลงเล็กๆ กับกระแสยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า “บีวายดี” (BYD) รุ่น “ATTO 3” เอสยูวี 5 ประตู 5 ที่นั่ง ราคา 1,199,900 บาท ที่มีคนไทยแห่ไปหน้าโชว์รูมแต่มืดเพื่อหวังเป็นคิวแรกๆ ที่ได้จองรถรุ่นนี้

เนื่องจากล็อตแรกมีเข้ามา 5,000 คัน แค่วันแรกหมดไปเกินครึ่งแล้ว ตามเป้าหมายที่จะเคลียร์สต๊อกภายในสิ้นปีนี้ ไม่น่ามีปัญหา

ปรากฏการณ์เข้าคิวจองรถราคาเกือบ 1.2 ล้านบาท ในเมืองไทยไม่เห็นมาพักใหญ่แล้วนะครับ แถมเป็นค่ายน้องใหม่อีกต่างหาก

กระแสที่ตามมาไม่พ้นค่ายรถจากจีน หรือค่ายใหม่อื่นๆ ที่กำลังจะส่งรถเข้ามาทำตลาดอาจเบาใจไปบ้าง ว่าหากทำรถออกมาดีจริง คุ้มค่าจริง คนไทยพร้อมสนับสนุน

ส่วนอีกค่ายที่ถือว่าประสบความสำเร็จไปก่อนหน้านี้ ไม่พ้น “เกรทวอลล์ มอเตอร์” (GWM) เพราะไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมากวาดยอดขายเป็นกอบเป็นกำ

ล่าสุดกับรุ่นพิเศษ “ORA Good Cat GT” รถเก๋งไฟฟ้า 100% ตัวแรง ที่ก่อนหน้านี้นำเข้ามาทำตลาดและหมดลงอย่างรวดเร็ว

และเพราะเสียงเรียกร้องทำให้ GWM ส่งล็อตใหม่ 500 คัน มาให้จับจองกันอีกรอบ

ก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสทดสอบ “ORA Good Cat GT” ต้องตกใจกับความแรง และความสวยงามทั้งภายนอกภายใน

ภายนอกไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองเพราะมีสีเดียวคือ “อะควาเกรย์” (Aqua Grey) เทาฟ้าน้ำทะเล ดูเป็นเอกลักษณ์ดี

หน้าตาภายนอกย้อนยุคเบาๆ เน้นความโค้งมน ด้านหน้าแบบปิดไม่มีกระจังดักลม

หากแบ่งด้านหน้าเป็น 2 ส่วน ครึ่งบนไม่ต่างจาก Good Cat ตัวปกติ ส่วนครึ่งล่างเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น ดีไซน์ลายคาร์บอนไฟเบอร์

ไฟหน้า LED Cat-Eyes ทรงกลม คู่กับไฟ Daytime Running Light แบบวงแหวน พร้อมระบบอัจฉริยะ Intelligent LED เฟิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูงอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow-me-home

ต่ำสุดเป็นช่องรับอากาศที่ชายด้านล่าง สำหรับช่วยในการไหลเวียนอากาศ และระบายความร้อนระบบไฟฟ้า แต่งด้วยลายคาร์บอนเช่นกัน

เช่นเดียวกับซุ้มล้อทั้ง 4 ติดตั้งคิ้วและชายด้านข้างเชื่อมต่อกันด้วยลายคาร์บอน

ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว ลายเท่แบ่งเป็น 5 ช่อง มี 1 ช่องละเลงสีแดง เพิ่มความสปอร์ต เช่นเดียวกับคาลิปเปอร์เบรกสีแดง สปอยเลอร์หลังลายเฉี่ยว พร้อมสัญลักษณ์ GT

ที่ดูเท่มากขึ้นคือไฟเบรกเป็นเส้นแนวขวางวางอยู่บริเวณกระจกหลัง ด้านบนเป็นไฟเบรกดวงที่ 3

ส่วนบนหลังคาเป็นเสาอากาศครีบฉลาม

ดิฟฟิวเซอร์ที่ชายด้านล่างตกแต่งสีแดงสด

ประตูด้านหลังแปะรุ่นรถโดยอักษร “Good Cat” เป็นสีเงิน ต่อด้วยอักษร “GT” สีแดง โดดเด่นขึ้นมาเลย

ขับตามหลังรู้ทันทีว่าไม่ใช่รุ่นธรรมดา

ประตูท้ายนอกจากเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแล้ว รุ่นนี้เพิ่มความพิเศษด้วยการเปิด-ปิดแบบแฮนด์ฟรี สอดเท้าเข้าไปใต้กันชน

ภายในต่างจากรุ่นปกติที่เน้นคลาสสิค ย้อนยุค แต่ Good Cat GT ออกแนวสปอร์ตจ๋า ใช้โทนดำ-แดง

พวงมาลัยทรงเดิมลาย 2 ก้านสีดำ-แดง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ความละเอียดสูง Full HD เมนูต่างๆ อ่านค่าง่าย เชื่อมเป็นจอเดียวกับระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.25 นิ้ว

ระบบอินโฟเทนเมนต์ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่าน Bluetooth ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา

มีระบบคำสั่งเสียงภาษาไทย เปิด-ปิดวิทยุ ระบบแอร์ หรือซันรูฟ ฯลฯ

ลำโพง 6 ตำแหน่ง มีระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถด้วย

ต่ำลงมาเป็นช่องแอร์แถบยาวขนาดเล็ก ลงมาอีกนิดเป็นปุ่มกดอารมณ์คล้ายๆ รถเล็กยอดนิยมของฝั่งยุโรป แต่การปรับระบบต่างๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่หน้าจอ และบนพวงมาลัยมากกว่า

ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติพร้อมระบบกรองฝุ่น PM2.5 มีช่องชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย USB 2 ช่องด้านหน้า และด้านหลัง 1 ช่อง มีช่องจ่ายไฟ 12V

คอนโซลกลางติดตั้งเกียร์ไฟฟ้าทรงกลม

คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังกลับสีดำแลดูคลาสสิค ต่ำลงมาเป็นหนังสีแดงคาดขวางยาว ล้อไปกับแผงข้างประตู

เบาะนั่งมาในแนวคิด Retro Stripe สีดำขอบแดง เข็มขัดนิรภัยสีแดงสด พนักพิงศีรษะปักอักษร “GT” ซึ่งมีให้ทุกตำแหน่ง

เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ และระบบนวดไฟฟ้า

อีกจุดเด่นที่เชื่อว่าสาวๆ น่าจะชอบเจ้าเหมียวตัวแรง คือกระจกส่องหน้าในแผงบังแดด ติดตั้งไฟแอลอีดีทรงสี่เหลี่ยมล้อบรอบกระจก ส่องสว่างแต่งหน้ากันสุดๆ ไปเลย

 

ขุมพลังปรับจากรุ่น 500 ULTRA ตัวท็อปให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร

ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) แต่ขับจริงไม่น่าถึง

ช่วงล่างไม่ต่างจากรุ่นปกติด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม แต่น่าจะเซ็ตให้แข็งขึ้นเพิ่มความหนึบหนับรองรับความแรง

เปิดประตูเข้าไปด้านใน พอนั่งปั๊บเบาะจะเลื่อนเข้าหาพวงมาลัย เช่นเดียวกับตอนจอดและเปิดประตู เบาะจะเลื่อนออกเพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออก

Good Cat GT ไม่มีปุ่มสตาร์ตนะครับ แต่เหยียบเบรก เครื่องยนต์จะทำงานทันที แต่ด้วยความเงียบจนสงัดต้องมองมาตรวัดนิดหนึ่ง

เกียร์ทรงกลมหมุนไปทางขวาเป็นเกียร์ D ตรงกลาง N และหมุนทางซ้ายคือ R ตรงกลางเป็นปุ่มกดเพื่อเข้าเกียร์ P หรือจอด

การขับขี่มีหลายโหมดตั้งแต่ Standard, ECO, ECO+, Auto และ Sport

ในโหมด Sport ยังซ่อนระบบ “Launch Control” เป็นการออกตัวแบบเร็วแรงผิดปกติ อันนี้ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่

การขับขี่ส่วนใหญ่ผมใช้โหมด Sport ที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด สนุกที่สุดแล้ว

อัตราเร่งจี๊ดกว่ารุ่นปกติพอสมควร กดเป็นมาในทุกย่านความเร็ว แม้ความเร็วปลายจะอยู่แถว 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ช่วงความเร็วกลางหรือออกตัวได้อารมณ์จริงๆ

เรียกว่าหลังติดเบาะทุกครั้งที่กดคันเร่งก็ว่าได้

ออปชั่นตัวช่วยต่างๆ มีมาครบ ไม่ต่างจากเพื่อนร่วมค่าย

เด่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามรถคันหน้า มาพร้อมกับระบบช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ ช่วยรักษาให้รถอยู่กึ่งกลางเลนแม้ตอนเลี้ยวโค้ง

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ ใช้ดีแน่ๆ หากขับในเมืองใหญ่ที่รถติด ขยับตามกันทีละนิดๆ

ระบบเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง

ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 3 รูปแบบ ทั้งเข้าซอง แบบทะแยง หรือจอดขนานฟุตปาธ ฯลฯ

มีอีกเพียบครับสำหรับของเล่นในรถรุ่นนี้ เรียกว่าหากใครจับจองก่อนขับจริงแนะนำว่าควรศึกษาคู่มือให้ละเอียด เพื่อจะได้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ และที่สำคัญขับสนุกสุดเหวี่ยง

“ORA Good Cat GT” ราคา 1,286,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]