E-DUANG : เงาสะท้อน “การข่าว” ต่อ “ยิ่งลักษณ์”

 

เหมือนกับกรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลางดึก ของคืนวันที่ 23 สิงหาคม จะเป็นปริศนาอันดำมืด

แต่ก็ต้องยอมรับว่ามิได้ “ลี้ลับ”

“สนช.” ซึ่งใกล้ชิดกับหน่วยงานความมั่นคงคนหนึ่งระบุว่า ได้เข้าไปกัมพูชาในตอนค่ำและขึ้นเครื่องบินส่วนตัวออกไปตอน 00.20 น.บินถึงดูไบเช้าวันที่ 24 สิงหาคม

อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติท่านหนึ่งเขียนบอกว่าเป็นการบินจากพระตะบอง

กระทรวงการต่างประเทศ”รายงาน”รัฐบาลว่า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บินจากนครดูไบไปยังกรุงลอนดอนในวันที่ 11 กันยายน

สะท้อนว่ากระบวนการเคลื่อนไหวมิได้เป็น “ความลี้ลับ”

 

กระนั้น หากมีใครไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

คำตอบ คือ “ไม่รู้”

แม้ตำรวจจะสามารถจับรถเชื่อว่านำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากกทม.ไปยังสระแก้ว พร้อมกับคนขับซึ่งเป็นนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ

แต่ก็ยังไม่สามารถ “สรุป” สำนวนได้

ทั้งตำรวจ ทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งกระทรวงการต่างประเทศจึงอยู่ในสภาพเดียวกัน

คือ ตอบไม่ได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ไหน

หากสังเกตแต่ละ”ถ้อยคำ”ที่แถลง มิใช่ว่าไม่รู้ หรือไม่มีเบาะแส เพียงแต่ไม่อาจยืนยันอย่างเป็นทางการ

นั่นก็คือ ไม่มี “พยาน” ไม่มี “หลักฐาน”

 

การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจึงเสมอเป็นเพียงการหายตัวในเชิงสำนวนการสอบสวน

นั่นก็คือ “รู้” แต่ไม่สามารถ “พูด”

เหมือนกับการหายตัวไปในกลางดึกของคืนวันที่  23 สิงหาคม หายไปอย่างไร หายไปตรงไหน “สนช.”ยังให้สัมภาษณ์ เป็นตุเป็นตะ แถมเขียนลงในเฟซเพจของตนด้วย

อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติยังนำเสนอผ่านคอลัมน์ที่เขียนเป็นประจำ

แต่ทุกอย่างก็เสมอเป็นเพียง “ข่าวลือ”

ขณะที่การข่าวอย่างเป็น “ทางการ” ไม่สามารถ “ยืนยัน”