วูบสายลม | ประกวดกวีนิพนธ์มติชนอวอร์ด : ปางดาว

ประกวดกวีนิพนธ์มติชนอวอร์ด | ปางดาว

วูบสายลม

 

วูบสายลมพัดพราวในคราวหนึ่ง ฟ้าสวยซึ้งแดดสายยังพรายแสง

ดอกไม้ไกวกลีบบางกลางแดดแรง นกน้อยแข่งเสียงขานปานดนตรี

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหวสะท้าน นานแล้วนานจากลามาถึงนี่

นานแล้วคิดถึงนกร้องก้องพงพี นานแล้วที่ลืมแดดสายที่ปลายนา

วูบสายลมพัดพราวในคราวนั้น เคยวาดฝันสวยงามคอยตามหา

เป็นคนเมืองเงินดีมีหน้าตา ดูโอ่อ่ามีรถขับไม่อับอาย

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหววิโยค นานแล้วโลกมิเหมือนฝันดังมั่นหมาย

นานแล้วเหนื่อยงานหนักมิพักกาย นานแล้วหน่ายหนี้ล้ำนำหน้าเงิน

วูบสายลมพัดพราวในคราวทุกข์ มิเคยสุขจริงแท้แค่ผิวเผิน

ที่เคยวาดวิมานไว้ก็ไกลเกิน เมื่อเผชิญความจริงยิ่งเศร้าตรม

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหวสะอื้น นานแล้วตื่นกลางดึกนึกขื่นขม

นานแล้วกินยากล่อมจิตจ่อมจม นานแล้วข่มตาหลับดับกำลัง

วูบสายลมพัดพราวในคราวค่ำ เก็บความช้ำหนีลับเดินกลับหลัง

สู่อ้อมกอดบ้านเก่าเราคืนรัง เติมความหวังหยุดพักกันสักที

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหวอ้างว้าง นานแล้วห่างไม่เคยหวนทวนวิถี

นานแล้วจากมาไกลหลายเดือนปี นานแล้วที่มิเคยกลับหายลับตา

วูบสายลมพัดพราวในคราวนี้ พรากชีวีล่วงลับดับสูญค่า

เสียดายหนอพ่อแม่แก่ชรา มัวรอท่าช้าเชือนไปไม่ไยดี

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหวแหว่งวิ่น นานแล้วยินเสียงสวดกระชั้นถี่

นานแล้วร่ำไห้ราวร้าวฤดี นานแล้วเพลงธรณีกรรแสงครวญ

วูบสายลมพัดพราวในคราวโศก คล้ายทั้งโลกแหลกสลายใจปั่นป่วน

มองรูปหน้างานศพแล้วทบทวน ยังคงหวนไห้เมื่อเห็นเป็นตัวเรา

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหวลอยล่อง นานแล้วมองพ่อแม่แม้แสนเศร้า

นานแล้วอยากกอดก่ายคล้ายยังเยาว์ นานแล้วเฝ้าคำนึงคิดถึงกัน

วูบสายลมพัดพราวในคราวไหน โปรดจำไว้คือลูกยามาปลอบขวัญ

เห็นดอกไม้ลอยล่องลมรำพัน คือลูกนั้นนำมาฝากจากแดนไกล

วูบหนึ่งนั้นดวงใจไหวรับรู้ นานแล้วอยู่ยาวยั้งรั้งมิได้

นานแล้วกราบลาพ่อแม่แต่นี้ไป นานแล้วพบกันใหม่ที่ปลายทาง •