ทำไม “เค เก้าร้อย” จึงถือเอา “เอก ธนาธร” เป็นเป้าหมายในการก่อปฏิบัติการครั้งใหม่

ทั้งๆที่ “เอก ธนาธร” อยู่ในห้วงถูกตัดสิทธิทางการเมือง

ต่อให้มีความมุ่งมั่นแรงกล้าเพียงใด แต่ด้วยคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ “เอก ธนาธร”ก็ไม่สามารถใช้กลไกที่เคยมีของพรรคอนาคตใหม่ได้อีก เนื่องจากถูกยุบเรียบร้ยอแล้ว

พรรคการเมืองใหม่อย่างพรรคก้าวหน้าก็อยู่ในมือของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประสานเข้ากับ นายชัยธวัช ตุลาธน ถึงอย่างไร”เอก ธนาธร”ก็มิอาจเข้าไปมีบทบาทได้

อย่างมากที่สุดก็เพียงแต่จัดตั้ง”คณะก้าวหน้า”ประสานเข้ากับ”มูลนิธิคณะก้าวหน้า”เคลื่อนไหวในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ประเภท อบต. เทศบาลและอบจ.

อย่างมากที่สุดก็สามารถยึดได้เพียงอบต.และเทศบาลไม่กี่แห่งระดับอบจ.ก็ไม่สามารถเอาชนะ”บ้านใหญ่”ได้แม้แต่แห่งเดียว

ผลงานก็มีไม่มากนัก

ที่เห็นๆกันก็เพียงแต่”น้ำประปาดื่มได้”ที่อาจสามารถ หรือแหล่งท่องเที่ยว”ปงผาง”ที่ลำพูน

แล้วเหตุใด “เค เก้าร้อย”จึงต้องล็อคคอ”เอก ธนาธร”

 

การเคลื่อนไหวของ”เค เก้าร้อย”สะท้อนให้เห็นถึงการประเมินบท บาทและความหมายของ “เอก ธนาธร”ในทางความคิด ในทางการเมืองสูงเป็นอย่างสูง

ไม่เช่นนั้น ก็คงไม่ผลักดันให้ “เค เก้าร้อย”ออกโรงและเลือก ออกโรงในจังหวะที่”เอก ธนาธร”กำลังแจกลายเซ็น

โชคร้ายของ “เค เก้าร้อย” อยู่ตรงที่การดำรงอยู่ของ “เอก ธนาธร”ในบูธคณะก้าวไกล เป็นการดำรงอยู่ท่ามกลางแฟนานุแฟนจำนวนมาก

แม้คำประกาศของ”เค เก้าร้อย”ที่อ้างถึง”ระเบิด”จะสร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างสูง แต่นั่นเท่ากับพฤติการณ์ของ”เค เก้าร้อย”ถูกเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง

เพราะว่าบูธ คณะก้าวหน้า ก็เหมือนกับบูธ พรรคก้าวไกล

ก็เหมือนกับบูธพรรคเพื่อไทย คืออยู่ในแวดล้อมของประชาชน

 

พลันที่เกิดกรณี”เค เก้าร้อย”ขึ้น ยิ่งมีการแสดงออกอย่างอุกอาจ เลวร้ายมากเพียงใดต่องานมหกรรมหนังสือ ในอีกด้านยิ่งชูภาพ ของ”เอก ธนาธร”โดดเด่น

ชี้ชัดว่า “เอก ธนาธร”มิได้ดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยว อ้างว้าง

ชี้ชัดว่า แม้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ แม้”เอก ธนาธร”จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่สิทธิแห่งความเป็นพลเมืองก็ยังคงอยู่

มิได้ถูกพรากไปพร้อมกับคำชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ